โฆษก สตม.แจงดราม่าโซเชียลฯ ขูดเนื้อต่างด้าว ปรับโอเวอร์สเตย์วันละ 500 ชี้คนโพสต์เข้าใจผิด ยันตร.พร้อมอะลุ่มอล่วยต่างด้าวถูกกฎหมาย

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 เมษายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รองผบช.สตม. ในฐานะโฆษก สตม. ชี้แจงกรณีผู้ใช้ทวิตเตอร์ทวีตข้อความพาดพิงถึงการทำงานของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.นครราชสีมา โดยระบุว่า “ชาวพม่า ต่อพาสปอร์ต ไม่ได้เนื่องจากสถานทูตพม่าปิด พอชาวพม่าที่อาศัยอยู่ในโคราชไปแจ้งว่า หนังสือเดินทางหมดอายุ ตม.โคราช บอกไม่รับรู้ ปรับวันละ 500 แล้วเขาจะต่ออายุยังไง ถ้าปิดไปอีกเดือน ก็ปรับ 15,000 เลยเหรอ” ว่า จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนี้ไม่ได้เป็นผู้รับผลกระทบโดยตรง แต่เป็นเรื่องของภรรยาเพื่อนซึ่งเป็นบุคคลสัญชาติเมียนมา กล่าวคือ ชาวเมียนมารายดังกล่าวเป็นภรรยาของบุคคลผู้มีสัญชาติไทย เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ได้ยื่นคำร้องขออนุญาตอยู่ต่อประเภทบุคคลผู้มีสามีเป็นคนไทย และได้รับการอนุญาตให้อยู่ต่อถึงวันที่ 27 เมษายน 2564 เท่ากับอายุของหนังสือเดินทาง ซึ่งตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ชาวเมียนมารายนี้จะต้องทำการต่ออายุหนังสือเดินทางให้เรียบร้อย ก่อนยื่นคำร้องขออนุญาตอยู่ต่ออีกครั้ง แต่ปรากฎว่าสถานเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทยปิดทำการระหว่างวันที่ 26 เมษายน-9 พฤษภาคม 2564 ทำให้ไม่สามารถดำเนินการต่ออายุหนังสือเดินทางได้

พล.ต.ต.อาชยน กล่าวอีกว่า ต่อมาชาวเมียนมารายนี้ได้เดินทางมาเพื่อยื่นคำร้องขออยู่ต่อที่ ตม.จว.นครราชสีมา เพื่อขออนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักร แต่ปรากฏว่าหนังสือเดินทางหมดอายุในวันที่ 27 เมษายน 2564  จึงทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถรับคำร้องและดำเนินการอนุญาตให้อยู่ต่อได้ เจ้าหน้าที่จึงได้แนะนำผู้ยื่นขออยู่ต่อให้รีบดำเนินการต่ออายุหนังสือเดินทางโดยเร็วหรือในโอกาสแรกที่สามารถทำได้ และกลับมายื่นขออนุญาตอยู่ต่อภายในกำหนดระยะเวลา พร้อมแจ้งว่าหากดำเนินการไม่ทันตามวันอนุญาตเดิม จะมีผลทำให้อยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งมีอัตราค่าปรับวันละ 500 บาท สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท ซึ่งในขณะนี้ยังมิได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับแก่ชาวพม่า แต่อย่างใด

“กรณีดังกล่าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีนโยบายชัดเจนว่าตามแนวชายแดนเข้มงวดไม่มีผ่อนปรน แต่ข้างในอะลุ่มอล่วย ดูแง่มุมของกฎหมาย และจะช่วยเหลือคนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยไม่สร้างเงื่อนไขให้บุคคลต่างด้างที่เข้ามาและอยู่อย่างถูกต้อง สตม.ยืนยันว่ากรณีดังกล่าวเป็นการเข้าใจผิดของผู้โพสต์ และขอฝากประชาสัมพันธ์ต่อเนื่องไปเลยว่า ก่อนจะโพสต์อะไรอยากให้มีการตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัดก่อน หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามมายังสตม. เราพร้อมจะตอบข้อสงสัยโดยเฉพาะแง่มุมของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคนต่างด้าว” โฆษก สตม.กล่าวทิ้งท้าย

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image