นายกสมาคมวิศวกรฯ เผย 5 ข้อสันนิษฐาน ทำอาคาร 5 ชั้น ย่านพระราม 9 ถล่ม

ศ.ดร.อมร พิมานมาศ ศาสตราจารย์สาขาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และนายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย กล่าวถึงเหตุการณ์อาคาร 5 ชั้นถล่มระหว่างก่อสร้างชั้นดาดฟ้า (ชั้นที่ 5) ของอาคาร ย่านพระราม 9 จนทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายรายเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า อาคารหรือโครงสร้างถล่มระหว่างก่อสร้างไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก แต่เคยเกิดขึ้นแล้วหลายครั้ง จนเรียกได้ว่าเป็นปัญหาที่ซ้ำซาก อย่างการพังถล่มของนั่งร้านก่อสร้างโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งแถวถนนพระราม 4 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 หรือชิ้นส่วนสะพานกลับรถถนนพระราม 2 หล่นลงมาในเดือนกรกฎาคม 2565 ซึ่งมีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

สำหรับเหตุการณ์อาคาร 5 ชั้นล่าสุดนี้ สังเกตจากการก่อสร้างอาคารข้างเคียงในโครงการเดียวกันพบว่าระบบโครงสร้างอาคารเป็นพื้นไร้คาน ซึ่งจุดอ่อนของโครงสร้างระบบนี้มักอยู่ตรงที่ข้อต่อระหว่างพื้นกับเสา สังเกตได้จากการพังถล่มที่เกิดขึ้น พื้นหลุดแยกจากเสาแล้วถล่มลงมากองข้างล่าง การพังถล่มเกิดขึ้นในระหว่างที่เทคอนกรีตชั้นที่ 5 จึงมีข้อสันนิษฐานสาเหตุทางวิศวกรรมได้หลายปัจจัย แต่ยังไม่ใช่ข้อสรุป เช่น 1.จำนวนนั่งร้านและค้ำยันไม่เพียงพอ ทำให้ไม่สามารถรองรับน้ำหนักคอนกรีตได้ 2.การติดตั้งหรือประกอบค้ำยันไม่ครบทุกชิ้นส่วนหรือไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน 3.ประเภทของค้ำยันไม่เหมาะสมต่อการรับน้ำหนักคอนกรีต 4.ฐานรองรับค้ำยัน (พื้นที่อยู่ชั้นถัดลงไป) ยังไม่แข็งแรง หรือยังไม่ได้อายุ 5.การเทคอนกรีตกระจุกตัว คนงานเกลี่ยกระจายน้ำหนักคอนกรีตไม่ทัน 6.ขั้นตอนการก่อสร้างถูกต้องตามแบบหรือการก่อสร้างลัดขั้นตอนหรือไม่ และ 7.การออกแบบและการใช้วัสดุเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่

ในทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การออกแบบและการก่อสร้างอาคารที่สูง 5 ชั้นเข้าข่ายเป็นวิศวกรรมควบคุม จะต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ.2542 และกฎกระทรวงกำหนดวิชาชีพวิศวกรรมและวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม พ.ศ.2565 ซึ่งกำหนดว่า สำหรับการก่อสร้างอาคารที่มีความสูงตั้งแต่ 3 ชั้นขึ้นไปหรือโครงสร้างของอาคารที่ชั้นหนึ่งชั้นใดมีความสูงตั้งแต่ 4 เมตรขึ้นไป หรืออาคารที่มีช่วงคานตั้งแต่ 5 เมตรขึ้นไป จะต้องมีวิศวกรที่ได้รับใบอนุญาตจากสภาวิศวกรมาทำการออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง โดยวิศวกรออกแบบจะต้องได้รับใบอนุญาตระดับสามัญวิศวกรขึ้นไป และวิศวกรคุมงานจะต้องได้รับใบอนุญาตระดับภาคีวิศวกรขึ้นไป หากวิศวกรละเลยในการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักวิชาการก็อาจมีความผิดทางจรรยาบรรณ และอาจได้รับโทษสูงสุดคือเพิกถอนใบอนุญาต นอกเหนือการได้รับโทษทางแพ่งและอาญา

Advertisement

“สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหา จริงๆ แล้วการก่อสร้างย่อมมีมาตรฐานในทำงาน และการก่อสร้างอาคาร 5 ชั้นในระบบพื้นไร้คาน ก็ไม่ได้ถือว่าซับซ้อนมาก และที่ผ่านมามีการก่อสร้างอาคารลักษณะนี้มาแล้วเป็นจำนวนมาก ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องที่แก้ไขได้ โดย 1.วิศวกรที่เกี่ยวข้องจะต้องบังคับใช้มาตรฐานทางวิศวกรรมอย่างเคร่งครัด 2.ผู้ประกอบการจะต้องจัดหาทรัพยากรเช่น นั่งร้าน และค้ำยันให้เพียงพอ และควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก 3.หน่วยงานภาครัฐจะต้องตรวจตราหรือจัดนายตรวจสุ่มตรวจสถานที่ก่อสร้างที่เสี่ยงจะไม่ปลอดภัยและสั่งระงับการก่อสร้างหากตรวจพบ 4.องค์กรทางวิชาชีพ จะต้องกำกับการทำงานของวิศวกร และดำเนินการทางจรรยาบรรณแก่ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามหลักวิชาชีพหรือละเลยต่อการทำหน้าที่อย่างเคร่งครัด” ศ.ดร.อมรกล่าว

 

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image