เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ภาพคณะรัฐประหารนั่งแถลงข่าว ทำรัฐประหาร 22 พ.ค.2557 กับภาพการแถลงข่าว การลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลของพรรคการเมือง 8 พรรค โดยระบุข้อความ ความรู้สึกที่ต่างกันของวันนั้นกับวันนี้ ผ่านเฟซบุ๊กว่าเมื่อวานนี้ (วันที่ 22 พ.ค.2566) ผมได้เข้าไปร่วมอยู่ในห้องแถลงข่าวการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลของพรรคการเมือง 8 พรรคซึ่งได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนให้มีตัวแทนเข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร 313 เสียง ซึ่งถือเป็นการแสดงเจตจำนง ของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศว่าต้องการให้พรรคการเมืองกลุ่มนี้เข้ามาบริหารประเทศ
หากย้อนกลับไปเมื่อ 9 ปีก่อน ในวันที่ 22 พ.ค.2557 ในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกันนั้น ผมนั่งอยู่ในห้องประชุมสโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดี เป็นหนึ่งในตัวแทนของพรรคเพื่อไทย เข้าไปประชุมร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางการเมืองในเวลานั้น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศตัวเป็นหัวหน้าคณะรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลรักษาการของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งได้รับการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงส่วนใหญ่เข้ามาบริหารประเทศ
ถือว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้เห็นและได้ยินการประกาศยึดอำนาจอยู่ตรงหน้า หลังจากนั้นผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนก็ถูกควบคุมตัว ตัวผมเองถูกทหารที่มีอาวุธครบมือ เอาปืนจ่อด้านหลัง ควบคุมตัวไปขึ้นรถตู้เพื่อนำไปขังเดี่ยวที่ ร.1 พัน 3 รอ. ตอนตี 3 ของวันที่ 23 พ.ค.2557 ในขณะเวลาเดียวกับที่ผมถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องประชุมสโมสรกองทัพบกนั้น ทางบ้านผมก็มีกำลังทหารชุดหนึ่งเข้าไปตรวจค้น และผมถูกควบคุมตัวแบบขังเดี่ยวอยู่ในห้องพักชั้น 2 ภายใน ร.1 พัน 3 รอ. เป็นเวลา 7 วัน
โดยมีกำลังทหารควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด วันนั้น… พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้อาวุธ และอำนาจของกองทัพ ปล้นอำนาจของประชาชน มาเป็นของตนเองและพวกพ้องในนาม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้วสร้างกลไกของรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจมายาวนานเป็นเวลา 9 ปี
ระยะเวลา 9 ปี การเมืองภายใต้กลไกที่คณะรัฐประหารสร้างขึ้นได้ทำลายชีวิต ทำลายโอกาสของประชาชน ทำให้สังคมไทยเสียอนาคตแต่วันนี้พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่
ต่างเห็นพ้องร่วมกันโดยใช้อำนาจ 1 สิทธิ 1 เสียง ที่ทุกคนมีเท่ากัน รวมพลังกันจนกระทั่งสามารถเอาชนะพรรคการเมืองที่สืบทอดอำนาจจากรัฐประหารเป็นผลสำเร็จ
วันนี้…พรรคเพื่อไทยและเพื่อนๆ พรรคการเมืองที่เคยจับมือทำงานร่วมกันในฐานะ “พรรคร่วมฝ่ายค้าน” ได้เริ่มต้นการเมืองบทใหม่ด้วยกันอีกครั้ง โดยร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก ประกาศแถลงการณ์ MOU สำหรับการทำงานร่วมกันในฐานะ “พรรคร่วมรัฐบาล”
การเดินทางของพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน มาจนถึงเพื่อไทย ผมเชื่อมั่นว่าพรรคการเมืองนี้เป็นสถาบันทางการเมืองที่รวบรวมคนที่มีความตั้งใจดี อยากจะทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ และคนเหล่านั้นได้ทุ่มเทชีวิต อุทิศตัวเองเข้ากับระบบการเมืองของประเทศ และหลายท่านต้องประสบกับผลกระทบต่อชีวิตจากผลพวงของการรัฐประหาร
พรรคเพื่อไทยก็เหมือนกับองค์กรอื่น ๆ ในสังคม มีถูกต้อง มีผิดพลาด แต่ทิศทางหลักที่เราเดินมาโดย เราไม่เคยทิ้งหลักการที่เป็นหัวใจคือ “มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง”
ผมเชื่อมั่นมาโดยตลอดว่า ระบอบประชาธิปไตยจะเติบโตและแข็งแรง ต้องอาศัยเวลา และความอดทนของสังคม ที่จะร่วมกันเรียนรู้ทั้งจากความผิดพลาดและความสำเร็จ มาถึงวันนี้ผมคิดว่าสังคมไทยเราได้เรียนรู้ประชาธิปไตยก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง
อย่าให้ความกลัว ความเห็นแก่ตัว มาขวางกั้นการเจริญเติบโตของประชาธิปไตย ซึ่งจะสร้างอนาคตของประเทศที่แข็งแรงให้คนรุ่นต่อๆ ไป
ขอให้เชื่อมั่นในอำนาจของประชาชน ให้โอกาสพรรคสนับสนุนประชาธิปไตย : พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย พรรคเป็นธรรม พรรคเพื่อไทรวมพลัง และพรรคพลังสังคมใหม่ จัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน สร้างการยอมรับประเทศไทยในเวทีนานาชาติ ให้กลับคืนมาอีกครั้ง
