ตามรวบมืออุ้มฆ่าสาวชุดเหลือง หายตัวลึกลับพบร่างกลางเหว คาดปมธุรกิจสีเทา

ตำรวจตามรวบแก๊งอุ้มฆ่าสาวชุดเหลือง หายตัวลึกลับ ก่อนพบร่างถูกฝังกลางเหว เมืองนคร อีกทั้งไม่พบพยานหลักฐานสำคัญ คาดเกิดจากธุรกิจผิดกฎหมาย

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 10 พฤษภาคม ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม เป็นประธานแถลงผลการจับกุม “รวบแก๊งอุ้มฆ่าสาวชุดเหลือง หายตัวลึกลับ ก่อนพบร่างถูกฝังกลางเหว เมืองนคร” สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย คือ 1.นายธนวิชญ์ หรือเพชร (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 81/2566 ลงวันที่ 13 มีนาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน หรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่นเพื่อปกปิดความผิดของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ และลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย” สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งใน ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
2.นายไพฑูรย์ หรือโอ๊ต (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 136/2566
ลงวันที่ 25 เม.ย.2566 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันรับของโจร” สถานที่จับ ริมถนนสายบ้านเก่า-ห้วยน้ำขาว ม.2 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี
3.น.ส.อำพิลา หรือแต้ว (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 137/2566
ลงวันที่ 25 เม.ย.2566 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันรับของโจร” สถานที่จับกุม ริมถนนสุขาภิบาลหวายเหนียวสาย 2 ม.1 ต.แสนตอ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี

พล.ต.ต.มนตรีกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ญาติของผู้ตายได้ไปแจ้งความที่ สภ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ว่า น.ส.สุดารัตน์ หรือเอ๋ ซึ่งเป็นน้องสะใภ้ได้หายตัวไปจากบ้านพักพร้อมรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว กระทั่งต่อมาตำรวจพบว่า ประตูห้องนอนของ น.ส.สุดารัตน์ ถูกทำลายได้รับความเสียหาย จึงเชื่อว่าการหายตัวไปของ น.ส.สุดารัตน์ น่าจะเกิดจากการประทุษร้ายต่อชีวิต

ต่อมาวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เจ้าหน้าที่พบรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว มุ่งหน้าไปยัง อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จึงได้ตรวจยึดไว้ จนกระทั่งวันที่ 13 มีนาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าร่องรอยการขุดดินและเศษใบไม้กองหินวางปิดทับอยู่บริเวณภูเขาหลังสำนักสงฆ์บ้านเขาล้อม จึงได้ลองขุดจนพบศพ น.ส.สุดารัตน์ ในชุดคลุมสีเหลือง มีผ้าห่มสีเขียวคลุมห่อศพไว้ ซึ่งสภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนฝังในศีรษะจำนวน 1 นัด

Advertisement

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับบุคคลจำนวน 9 ราย ประกอบด้วย กลุ่มลักพาตัว (อุ้มฆ่า) 4 ราย, กลุ่มผู้นำรถไปขายประเทศเพื่อนบ้าน 4 ราย และกลุ่มซ่อนเร้นอำพรางศพ 1 ราย ซึ่งขณะนี้สามารถจับกุมได้แล้วทั้งหมด 6 ราย ส่วนที่เหลือ 3 ราย หลบหนีอยู่ระหว่างติดตามตัว โดยมีหนึ่งในคนร้ายร่วมก่อเหตุตั้งแต่ต้น คือ นายธนวิชญ์ หรือเพชร ซึ่งเป็นคนที่บุกเข้าไปอุ้มลักพาตัว น.ส.สุดารัตน์ ออกมาจากบ้านพร้อมรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ และได้นำไปส่งมอบให้กับพวกขับมุ่งหน้าไป จ.กาญจนบุรี เพื่อขายต่อประเทศเพื่อนบ้าน

จากนั้นนายธนวิชญ์ก็ได้สับเปลี่ยนมาขับรถโตโยต้า ยาริส สีขาว พา น.ส.สุดารัตน์ เดินทางไปหลังสำนักสงฆ์บ้านเขาล้อม โดยได้พบกับนายอนุสรณ์ และได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงศีรษะ ก่อนที่จะช่วยกันขุดหลุมฝังศพและแยกย้ายกันหลบหนี

ด้าน พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา รองผู้บังคับการปราบปราม กล่าวว่า เบื้องต้นตำรวจยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามูลเหตุจูงใจเป็นความขัดแย้งจากประเด็นใด เนื่องจากสามีของผู้เสียชีวิตไม่ให้ความร่วมมือ แต่ตำรวจก็มีเบาะแสและข้อมูลที่น่าเชื่อว่าอาจเกิดจากความขัดแย้งทางธุรกิจผิดกฎหมาย หรือขัดแย้งจากการค้าหมูที่ผู้เสียชีวิตดำเนินกิจการอยู่

Advertisement

นอกจากนี้จุดเกิดเหตุซึ่งเป็นป่า และคดีเกิดขึ้นนานแล้ว จึงทำให้เก็บพยานหลักฐานได้ยาก รวมทั้งไม่พบโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญในที่เกิดเหตุ และบริเวณภายในบ้าน จึงทำให้ยากต่อการสรุปมูลเหตุจูงใจ โดยตำรวจกองปราบปรามได้ส่งตัวผู้ต้องหากลับไปยัง สภ.ช้างกลาง สืบสวนขยายผลต่อ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image