‘สาทิตย์’ ชี้ปัญหายางพาราเกิดจากบอร์ดของการยางฯได้คนไม่ความเข้าใจมาบริหาร ขออย่ามองการเคลื่อนไหวเป็นประเด็นการเมือง

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีต สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า และแกนนำ กปปส. ให้สัมภาษณ์ที่จังหวัดตรัง ถึงกรณีเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางพารา 14 จังหวัดภาคใต้ ร่วมกับแกนนำชาวสวนยางทุกกลุ่ม และสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย (สร.กยท.) เตรียมเคลื่อนไหวขับไล่ พลเอก ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข ประธานคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย นายธีธัช สุขสะอาด. ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย หลังจากเปิดให้บริษัทเอกชนเข้ามาเป็นผู้จัดเก็บเงินค่าธรรมเนียมการส่งออกยางพารา (Cess) โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของพนักงานการยางแห่งประเทศไทย รวมทั้งเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางฯ และเสียงคัดค้านของกลุ่มชาวสวนยางทุกกลุ่ม เป็นความตั้งใจเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกับนายทุน ทำลายองค์กรการยางแห่งประเทศไทย

โดยนายสาทิตย์ กล่าวว่า นโยบายการบริหารจัดการเรื่องยางพาราภาครัฐมีปัญหามาก ความจริงสภาสมัยที่ผ่านมาได้ออกกฎหมายที่รวมหน่วยงานด้านยางพาราเข้าไว้เป็นหน่วยงานเดียวกัน มีความมุ่งหวังการจัดการเรื่องยางพาราจะมีเอกภาพและประสิทธิภาพ แต่ดูเหมือนว่า หลังจากรวมทุกหน่วยงานเข้ามาแล้ว การบริหารจัดการกับตรงกันข้าม ตนเข้าใจว่าปัญหาใหญ่สุดมาจากบอร์ดของการยางแห่งประเทศไทยที่ได้คนที่ยังไม่มีความเข้าใจในเรื่องหลักการการบริหารจัดการยางพาราอย่าถ่องแท้และชัดเจน จึงทำให้เกิดปัญหาการบริหารจัดการที่ไม่สามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประโยชน์ต่อพี่น้องชาวสวนยางพาราตามความจริง เช่น ราคายางพาราไม่เขยิบขึ้นในขณะเดียวกันมีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบบางประการทำให้มีการต่อต้านเกิดขึ้น

นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า อย่างกรณีเงินค่าธรรมเนียมการส่งออกยางพารา (Cess) ที่ให้ภาคเอกชนจัดเก็บซึ่งผิดหลักเกณฑ์โดยสิ้นเชิง เงินค่าธรรมเนียมการส่งออกยางพารา (Cess) เป็นเงินของชาวสวนยางพาราที่จัดเก็บเพื่อนำเงินมาพัฒนาระบบยางพาราโดยส่วนรวม ซึ่งคนจัดการจะต้องเป็นภาครัฐต้องมีการจัดการที่ชัดเจน ในยุครัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการปรับอัตราของการจัดเก็บเงิเนค่าธรรมเนียมการส่งออกยางพารา (Cess) ขึ้นเพื่อให้มีเงินมากเพียงพอในการพัฒนาระบบยางพารา ดังนั้นระบบจัดเก็บรัฐต้องดูแล การให้เอกชนเข้ามาดูแลผิดวัตถุประสงค์ และทำให้เกิดปัญหาตามมา ปัญหาใหญ่ที่ตามมมาคือบอร์ดมีลักษณะไม้ฟังเสียงใคร และมีการรวบอำนาจการบริหารจัดการไม่สามารถทำให้ทุกภาคส่วนออกมาพูดจาได้

“ดังนั้นเมื่อมีแกนนำยางพาราออกมาเคลื่อนไหวอย่ามองว่าเป็นประเด็นการเมือง เคลื่อนไหวกระทบความั่นคงของรัฐบาล แล้วใช้วิธีความมั่งคงมาจัดการ เพราะว่าการเคลื่อนไหวมาจากปัญหา คนที่มีปัญหาต้องมีโอกาสที่จะส่งเสียงบ้างการไม่มีโฮกาสที่จะส่งเสียงมันเป็นการสร้างความกดดันให้เกิดขึ้น และเมื่อไม่มีการมีส่วนร่วมการแก้ไขปัญหายางอย่างมีประสิทธิภาพก็ไม่เกิดขึ้น ดังนั้นอย่างใช้การใช้การบริหารจัดการแบบเดียวกับปัญหาความมั่นคง เพราะมันคนละเรื่องกัน อย่างมองว่าแกนนำที่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อจะที่ไปโค่นล้มนั่น โน่น นี่ไม่ใช่ ถ้ามีการบริหารถูกต้องฟังเสียง เปิดการมีส่วนร่วมทุกอย่างก็จบจึงต้องเกิดการยอมรับของบอร์ดก่อนว่าอย่ารวบอำนาจ และอย่าตัดสินใจโดยไม่ฟังเสียงใคร” นายสาทิตย์ กล่าว

Advertisement

นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า ตนคิดว่าเสียงปากท้อง เสียงท้องของคนต้องดังกว่าเสียงใดๆ ดังนั้นตนให้กำลังใจกับคนที่ออกมาพูดในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ขณะเดียวกันก็เรียกร้องไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกรุณารับฟังเสียงประชาชนและเปิดโอกาสช่องทางให้เขาได้พูด และถ้าลงมาดูบอร์ดให้ดูประสิทธิภพบริหารจัดการด้วยว่ามีปัญหาอย่างไร แล้วจะรู้ว่าปัญหายางพาราไม่ได้เกิดจากการเคลื่อนไหวของคน แต่เกิดจากบริหารภาครัฐที่เป็นปัญหา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image