สนช.ไล่บี้กกต.ปมผู้ตรวจฯ หรือจะเลื่อนเลือกตั้ง(อีก)

ไม่รู้ว่ามีเบื้องหลังเบื้องลึก เพื่อเป้าหมายบางอย่าง หรือขุ่นข้องหมองใจอะไรกันนักหนา
ระหว่าง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดที่มีนายศุภชัย สมเจริญ เป็นประธาน

อาจจะมาจากสาเหตุการ “เซตซีโร่” ที่ทางสนช.คว่ำกระดานกกต.ชุดนี้ ล้างไพ่ใหม่ เสนอให้มีการคัดเลือกกต.ชุดใหม่มาแทนชุดปัจจุบัน

เป็นที่มาของชุดกกต.ใหม่ที่มีนายอิทธิพร บุญประคอง เป็นประธาน

ขณะที่องค์กรอิสระอื่น อย่างเช่น ผู้ตรวจการแผ่นดิน ไม่ถูกเซตซีโร

Advertisement

ล่าสุดในกรณีสนช.บางส่วน ขยับจะเสนอแก้ไขพ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง
เพื่อยกเลิกผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดที่กกต.ปัจจุบันคัดเลือกไว้ 616 คน

เพราะเชื่อว่า ผู้ตรวจการเลือกตั้ง มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับกกต.ชุดนายศุภชัย
แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่สนช.มีอำนาจสามารถทำได้ แต่ผลกระทบจะตามมาไม่น้อยเลยทีเดียว

โดยเฉพาะอาจส่งผลกระทบกับการเลือกตั้ง ทำให้ไม่ทันการเลือกตั้งสว. และการเลือกตั้งสส. กำลังจะมาถึงในเวลาไม่กี่วันนับจากนี้
จึงมีคำถามว่า หรือว่าเป้าหมายเพื่อต้องการเลื่อนเลือกตั้งออกไปอีกกันแน่

Advertisement

แต่เอาเรื่องการคัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งมาเป็นประเด็น เพื่อสร้างความชอบธรรมให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป
และในอีกด้าน ยังเป็นการดิสเครดิตกกต.ชุดปัจจุบันอีกด้วย เหมือนกับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

งานนี้นายศุภชัย สมเจริญ ถึงกับควันออกหู ออกมาสวนกลับสนช.ว่า
ถ้าโทษก็ต้องโทษสนช.ในฐานะผู้ออกกฎหมายมาเอง เพราะกกต.ทำตามกฎหมายที่สนช.ออกมา

และที่ผ่านมาสนช.ก็ออกกฎหมายขัดต่อหลักนิติธรรม นิติรัฐ นิติประเพณี ขาดความเสมอภาค ไม่เท่าเทียมกันระหว่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกกต.กับพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฉบับอื่นๆ

ทำไปทำมา การแอคชั่นของสนช.ครั้งนี้ จึงดูเหมือนว่าจะเสียมากกว่าได้

เพราะอาจถูกตั้งข้อสงสัย หรือว่ารับใบสั่งจากใครมาเพื่อเลื่อนเลือกตั้ง จริงๆ

เพราะเห็นว่าฝ่ายสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้นั่งเก้าอี้นายกฯต่อ ยังไม่แข็งแกร่งจนถึงขั้นนอนมาแน่นอน

จึงจำเป็นต้องหาเหตุขยับออกไปอีก

หากเป็นเช่นนั้นจริง อาจะต้องระวังกระแสตีกลับ

เพราะจะกลายเป็นตัวเร่งให้รัฐบาลคสช.ต้องยิ่งเร่งจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว
เพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้ซื้อเวลาออกไปเรื่อยๆ ในขณะที่ขุมกำลังสนับสนุนยังไม่พร้อม

และอาจจะยิ่งสนุกมากขึ้น หากผู้ตรวจการเลือกตั้งเป็นคนละฝั่งกับสนช.

และอาจลุกลามไปถึงเป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลชุดนี้ ในช่วงจัดการเลือกตั้ง
แต่เหนือสิ่งอื่นใด อย่างน้อยก็อุ่นใจได้ว่า การเลือกตั้งครั้งที่กำลังจะมาถึง มีระบบถ่วงดุลกัน

ความหวังให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม จึงดูมีความหวังขึ้นมาบ้าง
ไม่ใช่ว่าเป็นกลุ่มเป็นพวกเดียวกันหมด ไม่มีใครตรวจสอบถ่วงดุลอย่างจริงจัง

อย่างนั้น น่าจะเป็นอันตรายมากกว่า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image