| ผู้เขียน | วรรณมณี บัวเทศ |
|---|
หลังจากพักเบรกไปเดือนเศษ สุดสัปดาห์นี้ แอลพีจีเอ ทัวร์กอล์ฟอาชีพหญิงที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็จะกลับดวลวงสะวิงกันอีกครั้ง
ประเดิมรายการแรกกับศึก ทัวร์นาเมนต์ ออฟ แชมเปี้ยนส์ ที่รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 17-20 มกราคม ก่อนย้ายมาแข่งที่ออสเตรเลียกับเอเชียจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์
ช่วงปิดฤดูกาลที่แล้ว แฟนกอล์ฟชาวไทยชื่นมื่นกับผลงานของ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล ซึ่งกวาด 6 รางวัลใหญ่ของแอลพีจีเอทัวร์ พร้อมครองบัลลังก์มือ 1 ของโลก ชนิดที่ไม่เคยมีนักกอล์ฟคนไหนในประวัติศาสตร์ทำได้มาก่อน
ด้วยเกียรติประวัติสุดยอดดังกล่าว เป็นธรรมดาที่โปรเมต้องเผชิญกับความคาดหวังของสื่อและแฟนกอล์ฟทั่วโลกในปีนี้ แม้จะไม่ถึงขั้นคาดหมายว่าจะต้องทำได้เหมือนเดิมก็ตาม
ที่ผ่านมาสาวไทยเคยยอมรับอยู่หลายครั้งว่า เวลาโดนจับจ้องด้วยความคาดหวังมากๆ ก็จะเกิดอาการเกร็ง ตื่นเต้น ไม่ก็เครียด จนสมาธิหลุดไประหว่างแข่งขัน เคยมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้วหลายครั้งเมื่อในอดีต
แต่ครั้งนี้เจ้าตัวและทีมงานโค้ชจิตวิทยาอย่าง “วิชั่น 54” ต่างยืนยันว่ามีประสบการณ์จากการขึ้นมือ 1 ของโลกหนก่อนในปี 2017 แล้วเกร็งจนฟอร์มหลุดไปดื้อๆ จึงเตรียมสภาพจิตใจมาพร้อมกว่า ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นจากปลายปีที่แล้วหลังจากกลับไปครองมือ 1 ของโลกอีกครั้งในวันที่ 29 ตุลาคม 3 รายการสุดท้ายของปี โปรเมติดอันดับท็อป 5 ถึง 2 รายการ และอันดับ 19 ร่วมอีก 1 รายการ
ประเด็นน่าสนใจที่หลายสื่อจับตามองไม่ใช่แค่การรักษามาตรฐานให้ได้อย่างเดียว แต่ยังรอดูด้วยว่าโปรเมจะยกระดับผลงานตัวเองให้เข้าขั้น “ไร้เทียมทาน” ได้หรือไม่
ในแง่ฝีมือและพรสวรรค์ กูรูต่างยกย่องว่าโปรเมยังไปได้ไกลกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าสามารถใช้ไดรฟ์เวอร์ที่เป็นเหมือนของแสลงได้อย่างสบายใจ
ทุกวันนี้เวลาโปรเมลงแข่งขันรายการไหน เชื่อมั่นได้ว่าโอกาสทำอันดับดีๆ สูง แต่ยังไม่ถึงขั้นได้ลุ้นแชมป์ทุกรายการเหมือนกับ ไทเกอร์ วู้ดส์ อดีตเบอร์ 1 โลกฝ่ายชายในช่วงพีคๆ อาจจะเพราะยังขาดปัจจัยเรื่องความแน่นอนในการเล่นรอบสุดท้าย
อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ทำให้หลายคนจับตามองคือการตัดสินใจเปลี่ยนแคดดี้ก่อนเริ่มฤดูกาลใหม่ จากเดิมที่ให้ เลส ลูอาร์ก ถือถุง เปลี่ยนเป็น ดาเนียล เทย์เลอร์ แคดดี้ชาวไอริช คู่หมั้นของ เพอร์นิลล่า ลินด์เบิร์ก โปรสาวชาวสวีดิชแทน
ลูอาร์กถือถุงให้โปรเมมาแล้ว 2 รอบ เริ่มตั้งแต่ปี 2015 จนถึงกลางปี 2016 โดยหนแรกนั้น ต่างฝ่ายยอมรับว่าความเห็นไม่ลงรอยกันในบางเรื่องจึงยกเลิกสัญญา ก่อนจะกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งช่วงต้นปี 2017 โดยลูอาร์กมีส่วนร่วมกับการคว้าแชมป์ของโปรเมถึง 8 จาก 10 รายการ
สำหรับเทย์เลอร์จัดเป็นมือเก๋าคนหนึ่งของวงการ เคยถือถุงให้ตำนานกอล์ฟเกาหลีใต้ **ปัก เซรี** รวมทั้ง **เจนนี่ ชิน, ซานดร้า กัล** และมามีส่วนช่วยให้ลินด์เบิร์กคว้าแชมป์แรกในชีวิตจากศึกเมเจอร์ **เอเอ็นเอ อินสไพเรชั่น** เมื่อปีที่แล้ว
การแยกทางกับลินด์เบิร์ก (ในฐานะนักกอล์ฟกับแคดดี้) ไม่ได้กระทบกับความสัมพันธ์ส่วนตัวแต่อย่างใด เพราะทั้งคู่เตรียมเข้าสู่ประตูวิวาห์ช่วงปลายเดือนนี้ แต่ลินด์เบิร์กก็ยอมรับว่า การเป็นนายจ้างกับลูกจ้าง หรือนักกอล์ฟกับแคดดี้นั้นทำให้บางทีก็อึดอัดเพราะใช้เวลาด้วยกันมากจนเกินไป
ปกตินักกอล์ฟถ้าประสบความสำเร็จต่อเนื่องในสนาม มักไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมเท่าไร ไม่ว่าจะโค้ช จะอุปกรณ์ หรือแคดดี้ แต่โปรเมก็ผ่านความเปลี่ยนแปลงมาแล้วหลายครั้ง แต่ละครั้งไม่ถือว่ากระทบเชิงบวกหรือลบชัดเจนแต่อย่างใด
อย่างกรณีแคดดี้ หลังแยกจากลูอาร์กแรกๆ ก็ใช้บริการ พีต ก็อดฟรีย์ และร่วมคว้าแชมป์เมเจอร์แรก วีเมนส์ บริติช โอเพ่น ปี 2016 พร้อมรางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี ก่อนจะเปลี่ยนเป็นแคดดี้มือเก๋า **ดีแลน วัลเลเก็ต** ช่วงสั้นๆ ต้นปี 2017 แล้วจึงหวนกลับไปร่วมงานกับลูอาร์กอีกรอบจนถึงจบปีที่แล้ว ส่วนกรณีเทย์เลอร์ยังถือว่าอยู่ในช่วงทดลอง
เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว พี่น้องจุฑานุกาลก็เลิกจ้าง แกรี่ กิลคริสต์ โค้ชวงสะวิง หลังจบการแข่งขัน เคพีเอ็มจี วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ หลังจากร่วมงานกันมา 2 ปี เพราะอยากลองอะไรใหม่ๆ และไม่ได้จ้างโค้ชตามจับวงแบบเต็มเวลา จะมีก็แค่ปรึกษา คริส เมย์สัน โค้ชดังอีกรายเป็นระยะๆ ในช่วงหลัง แต่ส่วนใหญ่จะใช้วิธีถ่ายวิดีโอขณะหวดลูกเพื่อลองแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
ช่วงหลังนักกอล์ฟแนวหน้าของแอลพีจีเอทัวร์ รวมถึงโปรชายในพีจีเอทัวร์บางส่วนก็หันมาใช้วิธีนี้ ต่างจากธรรมเนียมปฏิบัติสมัยก่อน นอกจากโปรเมแล้ว ปาร์ก ซอง ฮยอน มือ 2 ของโลกชาวเกาหลีใต้, บริททานี่ ลินซิคัม** โปรมือเก๋าชาวอเมริกัน รวมทั้ง “โปรจูเนียร์” ธิฎาภา สุวัณณะปุระ สาวไทยที่เพิ่งคว้าแชมป์แรกของตัวเองได้เมื่อปีที่แล้ว ก็ไม่ได้จ้างโค้ชเป็นเรื่องเป็นราวเช่นกัน
ทีมงานหลักๆ ของโปรเมในเวลานี้จึงเป็น เพีย นิลส์สัน และ ลีน แมร์ริอ็อต ทีมโค้ชจิตวิทยาของ วิชั่น 54 กับ แกเร็ธ ราฟเลฟสกี้โค้ชเกมสั้นฝีมือดี ซึ่งต่างก็มีบทบาทสำคัญในความสำเร็จของโปรเมตลอดช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา
ตัวอย่างจากอดีตแสดงให้เห็นว่าโปรเม “เอาอยู่” แม้จะเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่อาจทำให้นักกอล์ฟบางคนเป๋ๆ ไป แต่แน่นอนว่าการเปลี่ยนแคดดี้สดๆ ร้อนๆ จะหวังให้ “คลิก” กันในเวลาอันรวดเร็วคงไม่ได้ ต้องให้เวลาในการลองผิดลองถูกหรือศึกษาปรับแก้กันไปสักระยะ
ฤดูกาลยังยาวไกล ค่อยๆ ลุ้นกันไปยาวๆ
