ผู้เขียน | นายอุตสาหะ |
---|
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกร้องชนิดกัดไม่ปล่อย กลายเป็นหนังม้วนยาวไปแล้ว กรณีถือครองหุ้นสื่อ เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. โดย กกต.ชี้ว่ามีมูล
การร้องเรียนของผู้ร้อง ตั้งแต่ระฆังยกแรกดังขึ้นอ้างว่า ธนาธรลงสมัครรับเลือกตั้งแต่ยังถือหุ้นสื่อไว้ในมือ ต่อมายื่นร้องอีกอาศัยถ้อยแถลงของ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคพรรคอนาคตใหม่ อ้างหลายเหตุ อาทิ อ้างอิงเวลาการเดินทางกลับจากบุรีรัมย์มาถึงกรุงเทพฯ ไม่สอดคล้องกันที่จะมาเซ็นโอนหุ้น
ยังร้องต่อมาอีกว่าไม่เชื่อว่ามีการโอนหุ้นจริงในวันที่ 8 ม.ค.62 ถึงขั้นชี้ขั้นตอนไปจนสุดทางว่า หากขัด พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ตามมาตรา 132 จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป หรืออาจถึงขั้นยุบพรรค
ขณะที่ ธนาธร เมื่อมีคนยืนตรงข้าม ก็ย่อมมีกองเชียร์หนุนและรักมากมาย ได้นัดชี้แจงกับ กตต.ไว้แล้ว แม้จะยืนยันแต่แรกว่า การโอนหุ้นมีผลทางกฎหมายตั้งแต่ 8 ม.ค.62 หรือก่อนเขียนใบสมัครลงเลือกตั้ง ส.ส.
ย้อนกลับไปเมื่อ 1 ปี เศษๆ ธนาธรกับปิยบุตร ต่างจุดกระแสของ “คนรุ่นใหม่” ในวันแถลงเปิดตัวกับสื่อมวลชน เมื่อ 15 มี.ค. 61 วันนั้น ธนาธร ยังเป็นรองประธานบริหารกลุ่มบริษัท ไทยซัมมิท ส่วน ปิยบุตร เป็นอาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
สองคนตีกลองรบตั้งแต่วันแรกว่า ไม่ใช้ทุนส่วนตัวทำพรรค ประกาศไม่รับนายกฯ คนนอก ตั้งเป้าหมายเป็นพรรค “ทางเลือกใหม่” ในภาวะ “ทางตัน” ทางการเมือง ต้องการนำพาสังคมกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย
วันนั้น ธนาธรบอกด้วยว่า “ผมไม่ต้องการให้พรรคนี้เติบโตและอยู่ต่อไปด้วยเงินในกระเป๋าผม ชื่อว่าพรรคที่ตั้งอยู่บนเงินสนับสนุนของประชาชนเป็นไปได้ จะไม่มีใครสักคนที่แข็งแรงและอยู่เหนือสมาชิกพรรค”
เจ้าตัวยังบอกว่า หลังจากนี้ชีวิตจะเปลี่ยนไปตลอดกาล
ธนาธรยังเล่าว่า เมื่อคืน (หรือ 14 ม.ค.62) “แม่นำส้มมาให้ ตามความเชื่อของชาวจีน ส้มหมายถึงการเริ่มต้นสิ่งดีๆ ไม่ว่าเราจะโตแค่ไหน แม่ก็จะเห็นว่าเราเป็นเด็กอยู่เสมอ ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าเราเข้ามาตรงนี้แล้วต้องเจอกับอะไร”
ที่น่าสนใจอีก ธนาธรได้โพสต์เล่าถึงการที่แม่ถามกลับว่า “ไทยซัมมิทหรือประเทศไทย อย่างไหนสำคัญกว่ากัน”
ธนาธรบอกอย่างหลัง แม่อาจไม่เห็นด้วย เพราะรู้ว่าลูกต้องเจออะไรบ้างเมื่อมุ่งมาที่การเมือง แต่สุดท้ายก็ไม่ห้ามปราม
ครั้งตัดเวลามาที่ปัจจุบัน ในสถานการณ์ที่เผชิญต่อการถูกไล่บี้อย่างถึงพริกถึงขิง ธนาธร ก็ใช้อินสตาแกรม บอกทุกคนเมื่อ 25 เม.ย.ที่่ผ่านมา ตอนหนึ่งว่า “…ขวัญกำลังใจดีมากครับขอให้ทุกคนไม่ต้องกังวล ผมเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์”
เฟซบุ๊ก “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” โพสต์ให้เห็นหนังม้วนยาวนี้ว่า ธนาธรกับปิยบุตรเป็นตัวแทนของ“กลุ่มอำนาจใหม่” ท่ามกลาง “อำนาจเก่า” วันนี้ “อำนาจใหม่” กำเนิดขึ้นมาท้าทาย จำเป็นต้องกำจัดให้พ้นทาง ทั้งสองคนไม่มีโอกาสแม้แต่จะนั่ง หรือยืน หนทางเดียวในตอนนี้ คือ ต้องวิ่ง (ไม่หยุด)
“หากล้มเมื่อไหร่ มันยากที่จะมีโอกาสลุกขึ้นยืนอีกครั้ง”