คนส.-แม่ไผ่ รุมประณามสลายหมู่บ้านทะลุฟ้า ชี้รัฐไร้ศักดิ์ศรี ไม่เปิดโอกาสตั้งตัว ใช้ กม.เป็นเครื่องมือ
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ท่าพระจันทร์ เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) สมัชชาคนจน และคณะประชาชนเพื่ออิสรภาพ-คปอ. ร่วมแถลงประณามการสลายหมู่บ้านทะลุฟ้า
รศ.ดร.อนุสรณ์ อุณโณ ตัวแทน คนส. กล่าวว่า การสลายชุมนุมในเช้าวันนี้รวดเร็วและฉับพลันทันด่วนขนาดที่ไม่เปิดโอกาสให้คนในพื้นที่ตั้งรับทัน เบื้องต้นเราไม่เห็นด้วย คัดค้าน และขอประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่ด้วยเหตุผลดังนี้
1.การชุมนุมของหมู่บ้านทะลุฟ้า และภาคีบางกลอย ซึ่งจัดมาตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมามีลักษณะการชุมนุมโดยสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ กิจกรรมไม่มีลักษณะยั่วยุหรือก่อให้เกิดความรุนแรง หรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนวุ่นวายต่อสาธารณะแต่อย่างใด ชุมนุมในสถานที่ค่อนข้างมิดชิด และขณะเดียวกันก็ได้ขออนุญาตการชุมนุมสาธารณะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฉะนั้น ลักษณะการชุมนุมก็ดี การดำเนินการในการชุมนุมก็ดี เป็นไปตามการใช้สิทธิที่ได้รับการรับรองโดยรัฐธรรมนูญ รวมไปถึงปฏิณญาสากลที่ประเทศไทยได้ลงนามเอาไว้
2.ด้วยเหตุที่การชุมนุมของหมู่บ้านทะลุฟ้าเป็นไปอย่างสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ ฉะนั้น สิ่งที่รัฐใช้ข้ออ้างในการสลายการชุมนุมนุมจึงฟังไม่ขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นกฎหมาที่นำมาใช้ในการสลายการชุมนุมคือการฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยิ่งทำให้ฟังไม่ขึ้น ซึ่งการบังคับใช้นี้ใช้ในพื้นที่ที่มีความมั่นคงสูงสุด ซึ่งไม่ได้ครอบคลุมในกรุงเทพมหานคร เพราะฉะนั้นการหยิบเอากฎหมายมาใช้จึงผิดฝาผิดตัวผิดสถานที่ และไม่ได้ใช้ไปในลักษณะที่จะป้องกันการควบคุมโรค เพราะเราก็ทราบกันดีว่าหมู่บ้านทะลุฟ้าก็ปฏิบัติตามข้อกำหนดของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขที่ว่าด้วยการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 และที่ผ่านมาไม่เคยปรากฎว่ามีผู้ติดเชื้อจากการเข้า-ออก หมู่บ้านทะลุฟ้า ฉะนั้น จึงเข้าใจได้ว่าเป็นการใช้กฎหมายในการกำจัดผู้เห็นต่างทางการเมือง เพราะเราต่างทราบกันดีว่าข้อเรียกร้องของหมู่บ้านทะลุฟ้า 4 คือ 1.ปล่อยตัวผู้ถูกคุมขัง 2.การเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ 3.การยกเลิก ม.112 และ 4.ให้ประยุทธ์ลาออก ล้วนเป็นข้อเรียกร้องของคนที่แทงเข้าไปในใจดำของคนที่นั่งอยู่ในอำนาจทั้งสิ้น
3.หลังจากที่มีการสลายการชุมนุมแล้ว ก็มีความพยายามสร้างความชอบธรรมในการสลายการชุมนุม โดยการอ้างว่าตรวจพบสิ่งเสพติด ของผิดกฎหมาย ทั้งที่การเข้าไปสลายการชุมนุมในหมู่บ้านทะลุฟ้าแทบจะไม่มีการให้มีคนที่เป็นประจักษ์พยานบุคคลที่สามได้เข้าไปตรวจสอบถึงความโปร่งใสในการเข้าตรวจค้นหาจับกุม ฉะนั้นพยานหลักฐานที่ตำรวจนำมาแถลงเพื่ออ้างความชอบธรรมจึงยังฟังไม่ขึ้นและอาจจะมีข้อสงสัยได้
ด้วยเหตุผลทั้ง 3 ข้อนี้พวกเราจึงขอขัดค้านและประณามการสลายและการควบคุมตัวผู้ชุมนุมหมู่บ้านทะลุฟ้า และเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในขณะนี้โดยทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข
อ่านข่าว : บช.น.แถลงจับผู้ชุมนุมหมู่บ้านทะลุฟ้า 70 ราย พบกัญชา-น้ำกระท่อม-ถุงยาง-เซ็กซ์ทอย อ้างแจ้งให้ยุติการชุมนุมนานแล้ว
– คฝ.บุกสลายหมู่บ้านทะลุฟ้าแต่เช้ามืด จี้เก็บของ 3 นาที มัดมือ ‘ยาใจ’ รวบตัวกว่าครึ่งร้อย
– ตร.เข้าจับกุมผู้ชุมนุม ‘หมู่บ้านทะลุฟ้า’ รอบสอง ‘ไบรท์ ชินวัตร’ โดนด้วย
– ตร.สรุปยอดจับกุมผู้ชุมนุม ‘หมู่บ้านทะลุฟ้า’ เช้ามืดจรดค่ำ รวม 99 คน
นายบารมี ชัยรัตน์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน กล่าวว่า ก่อนการชุมนุมของหมู่บ้านทะลุฟ้า มีการชุมนุมของเกษตรกรอีกกลุ่มหนึ่งอยู่ 3-4 เดือน ที่บริเวณหน้ากระทรวงเกษตรฯ และสำนักงานปฏิรูปที่ดิน โดยที่ไม่มีการสลายการชุมนุม ไม่มีการปิดหมายหรือตั้งข้อหาใดๆ ทั้งสิ้น เหตุใด 2 วันก่อนจึงมีการปิดหมายที่หมู่บ้านทะลุฟ้าเพียงแห่งเดียว
นายบารมีกล่าวว่า นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่บอกว่าให้เวลาผู้ชุมนุมเก็บของให้เสร็จภายใน 3 นาที ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะหลังจากที่จับผู้ชุมนุมไปแล้ว เจ้าหน้าที่ กทม.นำรถมาขนของใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมงยังไม่สามารถเก็บได้เสร็จ และไม่ได้เก็บแบบเรียบร้อย เต็นท์และข้าวของถูกจับทิ้งถังขยะ เป็นการทำลายข้าวของของผู้ชุมนุม อีกทั้งการกล่าวหาเรื่องยาเสพติด
“ผมอยากจะบอกว่าคนที่ติดยาเสพติดไม่มีใครที่จะพบยาเป็นแท่งๆ อย่างนั้น ปกติมันก็ต้องแอบพก เพราะถูกจับมันจะไม่ได้มีปัญหาใหญ่โต และยิ่งในที่ชุมนุมด้วย ยิ่งต้องกระมิดกระเมี้ยนมากกว่านี้ แต่นี่เจอเป็นแท่งๆ อีกประเด็นคือการใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาอ้าง แต่ถ้าเกิดเราไปดูที่ตรอกข้าวสาร มีใครจับบ้างไหม ไม่มีอะไรสักอย่างที่แสดงถึงการควบคุมโรคติดต่อได้เลย
“ทั้งสี่ข้อที่กล่าวมาผมอยากสรุปว่ามันเป็นการกระทำที่ไม่ชอบธรรม นี่คือการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือทางการเมืองมากลั่นแกล้งคนที่เห็นต่าง” นายบารมีกล่าว
นางพริ้ม บุญภัทรรักษา แม่ไผ่ ดาวดิน ในฐานะทนายความ กล่าวว่า เมื่อเช้าตนแสดงบัตรอย่างเปิดเผยเพื่อขอเข้าไปในพื้นที่ดูว่ามีคนหลงเหลืออยู่ไหม และสิ่งของที่ทางเจ้าหน้าที่ตรวจค้นนั้นมีอะไรด้วยหรือไม่ เพื่อจะเป็นประจักษ์พยาน ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าไป ไม่ให้พบใครที่อาจต้องการทนาย ไม่ให้ทำอะไรทั้งสิ้น ตนเฝ้าสังเกตการค้นรื้อทิ้งสิ่งของแต่เราทำอะไรไม่ได้ จึงขอประณามการกระทำครั้งนี้ว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ผศ.ดร.ภาสกร อินทุมาร สมาชิก คนส. และ People go network กล่าวว่า ทางกลุ่มผู้จัดยืนยันการเคลื่อนไวในแบบสันติวิธีมาโดยตลอด แต่มีการแทรกแซงขบวนการเดินทะลุฟ้ามาตลอดด้วยเช่นกัน พวกเรายืนยันว่าถ้าเราเจอการกระทำที่รุนแรงจะนั่งลงนิ่งๆ ถ้าอยากให้ออกไปเจรจาก็สามารถทำได้ แต่ไม่เจรจา ใช้กำลังเข้ามาสลายในเวลาเช้ามืดในขณะที่ทุกคนกำลังนอน ดังนั้น การกระทำในครั้งนี้ของรัฐไร้ศักดิ์ศรีโดยสิ้นเชิง
อ.เคท ครั้งพิบูลย์ อาจารย์คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ในการสลายการชุมนุมครั้งนี้มีการหยิบยกนำวัตถุที่เป็นสื่อการศึกษาด้านเพศ เช่น ถุงยางอนามัย และเซ็กซ์ทอย ขึ้นมาพูด เป็นการนำศีลธรรมมาใช้กล่าวประณามความไม่ดีของฝ่ายตรงข้ามว่านั้นทำอยู่บนฐานของอคติ
“การจับกุมครั้งนี้และพยายามแสดงหลักฐานเหล่านี้ยิ่งแสดงให้เห็นชัดเจนต้องการนำฐานอคตินี้มาใช้กล่าวหาผู้ชุมนุมในหมู่บ้านทะลุฟ้าว่าผิดศีลธรรม ในฐานะที่เคยเข้าร่วมกิจกรรมของหมู่บ้านทะลุฟ้า ซึ่งมีกิจหรรมที่สะท้อนปัญหาสังคมที่หลากหลายมิติ จึงขอประณามการจับกุมและสลายหมู่บ้านในครั้งนี้” อ.เคทกล่าว
