กมธ.จ่อเรียกสอบ แชตหลุดนิติกรสสจ.พิษณุโลก ขู่ดำเนินการทางวินัย หมอนัดแต่งดำ

กมธ.พัฒนาการเมืองฯ เตรียมสอบข้อเท็จจริง ปมแชตหลุดขู่ลงโทษทางวินัยแพทย์สวมชุดดำร่วมหมอไม่ทนร้องวัคซีนจากรัฐ ถามนิติกรเกี่ยวอะไรกับระบบสธ. อัดหากหน่วยงานความมั่นคงแทรกซึมได้ขนาดนี้ ไม่เรียกประเทศประชาธิปไตย แต่เป็นเผด็จการ

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 8 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล (ก.ก.) และนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรค ก.ก. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ร่วมแถลงถึงกรณีที่กลุ่มหมอไม่ทนและภาคีบุคลากรสาธารณสุขร่วมสวมชุดดำ เพื่อเรียกร้องให้เร่งรัดการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA เป็นวัคซีนหลักเพื่อป้องกันการเสียชีวิตและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งต่อมาเพจ หมอขอบ่นหน่อยเหอะ-AggressiveDoctor ได้โพสต์ภาพแคปหน้าจอแอพพลิเคชั่นไลน์ พร้อมข้อความระบุว่า “นิติกร สสจ เมืองสองแคว นี่เปรี้ยว เนาะ” โดยภาพดังกล่าวเป็นข้อความแชตของบุคคลรายหนึ่งเป็นข้อความเชิงขู่ไม่ให้แพทย์และบุคลากรของสาธารณสุข เข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มหมอไม่ทน และระบุว่าจะดำเนินการทางวินัยผู้ที่ฝ่าฝืน

โดยนายปดิพัทธ์กล่าวว่า อย่างที่ทราบกันดีว่ามีความเห็นที่แตกต่างกันระหว่างแพทย์ที่อยู่หน้างานจริงกับแพทย์ที่ทำนโยบาย หรือ ศบค. ซึ่งแพทย์ที่อยู่หน้างานจริงเต็มไปด้วยความกดดัน โดยเฉพาะการที่ไม่ได้รับวัคซีน mRNA และไม่ได้รับอุปกรณ์ที่เพียงพอ และเป็นเหยื่อของการกระทำที่ผิดพลาดขอส่วนกลางตลอดเวลา ซึ่งใน จ.พิษณุโลก มีแพทย์หลายคนที่แสดงออกในท่าทีที่แตกต่างกับรัฐบาล อย่างการแต่งชุดดำของกลุ่มหมอไม่ทนเมื่อวานนี้ (7 กรกฎาคม) ไม่ได้เป็นประเด็นทางการเมือง แต่เป็นการเรียกร้องให้วัคซีนกับบุคลากรด่านหน้า แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือแทนที่การแสดงออกอย่างสันติของพวกเขาและเป็นข้อเรียกร้องที่สมเหตุสมผล ปรากฏว่ามีนิติกรคนหนึ่งระบุว่าจะมีการดำเนินการทางด้านวินัยกับผู้ที่กระทำตนโดยไม่ใช่ตามที่ผู้บังคับบัญชาสั่ง ฐานสร้างความแตกสามัคคี และไม่ตั้งใจเสียสละในการปฏิบัติราชการ โดยขออนุญาตให้มีคำสั่งส่งตัวไปที่ กทม. มีคำถามเกิดขึ้นมากมายในเรื่องบทบาทของรัฐ ฝ่ายความมั่นคงเกี่ยวข้องอะไรกับระบบสาธารณสุขว่าจะสามารถลงโทษทางวินัยกับแพทย์ที่เห็นต่างกับรัฐได้ ทำไมนิติกรคนนี้ถึงต้องไปถามความเห็น กอ.รมน.ว่าจะเอาผิดทางวินัยกับแพทย์ หากหน่วยงานความมั่นคงแทรกซึมได้ขนาดนี้ ไม่เรียกว่าประเทศประชาธิปไตยแล้ว แต่เป็นประเทศเผด็จการอย่างแท้จริง

นายปดิพัทธ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ทำไมการแสดงออกของแพทย์เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับอาชีพของตัวเอง ถึงใช้คำว่าสร้างความแตกความสามัคคีและไม่ตั้งใจเสียสละในการปฏิบัติราชการ ทุกวันนี้แพทย์ทุกคนที่กำลังทำหน้าที่เสียสละไม่พออีกหรือ จะให้เสียสละอะไรขนาดไหนอีก ทุกวันนี้ไม่ได้เจอครอบครัว เสี่ยงติดโรค และทำงานภายใต้การบริหารงานที่ล้มเหลวของรัฐบาลซ้ำแล้วซ้ำเล่า นี่เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งการแสดงออกในการเรียกร้องวัคซีนและเป็นการแสดงออกเพื่อบอกรัฐบาลว่านโยบายของเขาผิดพลาด ถือเป็นสิทธิเสรีภาพโดยชอบในฐานะพลเมือง ไม่ได้เป็นการแตกความสามัคคีแต่อย่างใด อย่าเอาความสามัคคีมากดหัวไม่ให้บุคลากรทางการแพทย์ส่งเสียงต่อรัฐบาล และข้อเสนอที่จะมีการส่งแพทย์ที่ทำผิดวินัยตามที่เขาอ้างอิงไปยังพื้นที่สีแดงเข้มทั้งที่ยังไม่ได้รับวัคซีน mRNA นั้น จะส่งเขาไปตายหรือ จะส่งเขามาติดเชื้อใช่หรือไม่โดยเรื่องนี้กำลังอยู่ในการตรวจสอบ และหากกลุ่มไลน์นี้เป็นกลุ่มไลน์จริง สำนักงานสาธารณสุข จ.พิษณุโลก ต้องตอบคำถามเรื่องนี้ ซึ่งเรื่องใหญ่กว่า คือ หน่วยงานความมั่นคง รัฐบาลต้องตอบคำถามว่าทำไมถึงมีการอ้างอิงถึงหน่วยงานความมั่นคงและมีความเห็นเช่นนี้ออกมา ซึ่งหากเรื่องนี้มีมูลและไม่ได้เกิดขึ้นแค่ จ.พิษณุโลก มีแรงกดดันด้านความมั่นคงกับแพทย์ทั่วประเทศเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้

“ผมขอเรียกร้องสังคมให้ยืนอยู่ข้างแพทย์ที่ทำงานอยู่หน้างาน หากเราปล่อยให้รัฐคุกคามพวกเขาเช่นนี้ ผมคิดว่าเราจะแพ้สงครามโควิด ไม่ใช่ด้วยฝีมือแพทย์ แต่ด้วยฝีมือของรัฐบาล” นายปดิพัทธ์กล่าว

Advertisement

ด้านนายณัฐชากล่าวว่า ทาง กมธ. เตรียมบรรจุเรื่องนี้เข้าไปในระเบียบวาระการประชุม อีกทั้งจะมีการเชิญสาธารณสุข จ.พิษณุโลก และหน่วยงานความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็น กอ.รมน.ของ จ.พิษณุโลก ผู้ว่าราชการ จ.พิษณุโลก ที่บังคับบัญชาหน่วยงานต่างๆ รวมถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่ามีความคิดเห็นอย่างไรกับกรณีเช่นนี้ที่บุคลากรทางการแพทย์ที่ออกไปรบในสมรภูมิของสงครามเชื้อโรค แต่กลับถูกหน่วยงานด้านความมั่นคงเข้ามาแทรกแซง เข้ามาบริหารจัดการด้วยการใช้ยุทธวิธีทางด้านทหารจัดการ ทำให้บุคลากรทางแพทย์แสดงออกและความคิดเห็นอะไรไม่ได้เลย

“บุคลากรทางการแพทย์ก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง เขาควรมีส่วนร่วมในนโยบายและการแสดงความเห็น ความเห็นใดที่หน่วยงานรัฐผิดพลาด เขาก็ต้องมีสิทธิที่จะได้แสดงออก ไม่ว่าจะแต่งดำหรือแต่งขาวอย่างไร ซึ่งการที่หน่วยงานบริหารแผ่นดินกระทำเช่นนี้ ผมถือว่าไม่เหมาะสมและเป็นภัยร้ายแรงต่อประชาชนในหนทางที่จะหาทางออกในสมรภูมิครั้งนี้” นายณัฐชากล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image