7 สิงหา ‘อานนท์’ ชวนปลดแอก ชี้ 1 ปีแค่เริ่มต้น ใช้ ‘สันติวิธีเพดานสูงสุด’ สู้ต่ออย่างมีระบบ

7 สิงหา ‘อานนท์’ ชวนปลดแอก เตือน จนท.อย่าหาทำ ‘ยั่วยุจลาจล’ ประกาศใช้ ‘สันติวิธีเพดานสูงสุด’ สู้มีระบบ กดดัน-เสนอ กม.

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ที่ ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร สี่แยกปทุมวัน กรุงเทพฯ ในวาระครบรอย 1 ปี การชุมนุม ‘เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาธิปไตย’ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG) จัดกิจกรรมชุมนุม “เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน” ทั้งนี้ เพื่อรำลึกถึงการชุมนุมม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2563 บริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์ สาขาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และเชิญชวนประชาชนไปร่วมชุมนุมวันที่ 7 สิงหาคมนี้ โดยจะมีการปราศรัย บรรเลงดนตรี และร่วมจุดเทียนรำลึกถึงผู้สูญเสียจากการบริหารจัดการของรัฐบาลภายใต้สถานการณ์โควิด-19

สำหรับการชุมนุมวันนี้ นำโดย นายอานนท์ นำภา ทนายความ และ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ กลุ่ม ROOT ซึ่งเป็น 2 ผู้ปราศรัยสำคัญในม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์เมื่อปี 2563 ร่วมด้วย นายธัชพงศ์ แกดำ หรือ บอย ตัวแทนกลุ่มราษฎร, แชมป์ ครช. และ นัท ศาลายา ทั้งนี้ นายถนอม ชาภักดี นักวิจารณ์ศิลปะชื่อดัง และนายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย

อ่านข่าว :

จากนั้นเวลา 17.35 น. นายอานนท์ แต่งกายเป็นพ่อมดจากในเรื่องแฮร์รี่พอตเตอร์ ก่อนกล่าวปราศรัย ถึงการเดินทางบทต่อไปตอนหนึ่งว่า ตนคิดอย่างเต็มที่ในเรือนจำ ทุกอย่างมีเหตุผล และเต็มใจที่จะออกมาสู้ในครั้งนี้

Advertisement

1 ปีที่พวกเราทุกคน ได้ช่วยกันทำลายเพดานการพูดถึงปัญหาที่แท้จริงในประเทศไทย ปีที่นิสิต นักศึกษา ทำลายเพดานกั้นระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนอีกรุ่นหนึ่ง ร่วมใจกันลงสู่ท้องถนน และพูดถึงปัญหาที่แท้จริงของบ้านเมือง

นายอานนท์กล่าวต่อว่า และใน 1 ปีนั้น สิ่งหนึ่งที่เราตกผลึกร่วมกันก็คือ หลักสิทธิเสรีภาพ ความเท่าเทียม และประชาธิปไตย ให้เกิดความเท่าเทียมกัน คนที่เรียกร้องความเสมอภาคทางเพศ ก็ลุกมาขึ้นเปลี่ยนความคิดเก่าทางสังคม ให้มีความเท่าเทียมทางเพศ เราเปลี่ยนวิธีคิดเป็น “คนเท่ากัน”

“การเรียกร้องของเราใน 1 ปี ถ้าจะเรียกว่าประสบความสำเร็จ ก็เรียกได้ แต่จะเรียกว่าเพิ่งเริ่มต้น ก็พูดได้เช่นกัน เพราะ 1 ปีหลังจากนั้น ก็มีการตอบโต้อย่างรุนแรง มีการระดมพลเสื้อเหลือง แต่เยาวชนมีอินเทอร์เน็ต เรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งรัฐไทยก็ยังพยายามไปยัดเยียด” นายอานนท์กล่าว

Advertisement

นายอานนท์ กล่าวต่อว่า การชุมนุมของพวกเราได้ถูกตีแผ่ไปทั่วโลกถึงปัญหา เราเรียกร้อง พูดความจริง สิ่งที่ผิดพลาดไปในปีที่แล้วก็มีอยู่บ้าง การที่เพื่อนร่วมอุดมการณ์เรา ใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ อยากให้อภัยกับถ้อยคำเหล่านี้ เป็นแค่กระพี้ อย่าไปดำเนินคดีด้วยเรื่องพวกนี้

“1 ปีผ่านไป นอกจากเราจะไม่ได้รับคำตอบ เรากลับถูกตอบโต้อีกหลายอย่าง ซึ่งประยุทธ์เป็นส่วนหนึ่ง ข้อเสนอที่พวกเราเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ไม่สามารถทำได้ หากไม่พูดถึงการปฏิรูปสถาบันฯ ไปพร้อมๆ กัน” นายอานนท์กล่าว

นายอานนท์ กล่าวถึงการบริหารจัดการวัคซีนด้วยว่า วัคซีนดีๆ ก็เอาเข้ามาผสม คิดอยู่ในสังคมเดิมๆ จนลืมว่าเราตาสว่างแล้ว ขังพวกเราไว้ในประเทศให้ไม่มีโอกาสได้รับวัคซีนดีๆ โดยตั้งเงื่อนไขให้นำเข้าวัคซีนยาก

“อย่ามาพูดว่า นี่ไม่ใช่สันติวิธี เพราะไม่ได้ทำร้ายใคร การเผารูป เผาหุ่น เป็นสันติวิธีในทางสากลอย่างแน่นอน ถามว่าผิดกฎหมายหรือไม่ การมาชุมนุมนั่งอย่างนี้ ก็ผิดกฎหมาย แต่เส้นแบ่งคือ ‘การไม่ทำร้ายใคร’ ต่างหาก พูดตรงๆ พี่น้องอาชีวะ ‘ของ’ เขามีทั้งนั้น แต่เขาไม่เอามาทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเขาเชื่อมั่นในสันติวิธี อย่าไปยั่วยุให้เกิดการจลาจล อย่าหาทำ คนรุ่นใหม่เชื่อว่าคนเท่ากัน ‘มึงต่อยมา กูต่อยคืนเขา’ คิดแค่นั้น เพราะยิงมา ไม่โดนเขา ก็โดนเพื่อน ดังนั้นอย่าเหลิง”

“ขอประกาศนับแต่นี้ว่า การชุมนุมจะใช้ สันติวิธีเพดานสูงสุด อย่ามาขู่ใช้ กฎอัยการศึก ถ้าเห็นประชาชนเป็นข้าศึก เป็นศัตรู ประกาศเลย ได้เห็นดีกัน ทุกวันนี้คนสู้อย่างหลังชนฝาที่สุดแล้ว ไม่ออกมา ก็รอความตายอยู่บ้าน ไม่ต่อสู้ไม่มีทางที่วัคซีนดีๆ จะเข้ามา เรากำลังต่อสู้เพื่อสร้างอนาคตไปด้วยกัน

ในปีนี้ เราจะสู้อย่างเป็นระบบมากขึ้น อย่างมีแนวทาง มีการปราศรัยในขบวน การกดดัน และเราจะเสนอกฎหมายเข้าสภาด้วย ประเทศนี้ปกครองด้วย ‘นิติรัฐ’ ด้วยกฎหมาย เราจึงต้องมีความเชื่อมั่นในการร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ ถ้าผู้แทนราษฎรพรรคหนึ่งพรรคใดไม่เอาด้วย ได้เห็นดีในการเลือกตั้ง เราจะออกกฎหมายทวงคืนมาให้หมด รัฐธรรมนูญเราจะแก้ไขให้หมด ทหารทุกคนจะปกเดียวกัน คือปกป้องประชาชน ส่วนของกฎหมาย เราก็จะทำอย่างเต็มความสามารถ เพื่อรักษาการปกครอง โดยแก้ไขให้ดีขึ้น” นายอานนท์กล่าว

นายอานนท์กล่าวอีกว่า อย่าบังคับให้เราเลือก เพราะถึงที่สุด พวกเราจะลงประชามติ

“จากนี้อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด คุณไม่มีทางห้ามพระอาทิตย์ไม่ให้ขึ้นได้ ห้ามความคิดคนไม่ได้ จะใช้อาวุธความรุนแรงมากแค่ไหน ก็ฆ่าเราตายไม่หมด การต่อสู้ต่อไปนี้จะมีความหมายมาก เพราะไม่ใช่อีเวนต์ กิจกรรมแบบสัมมนา การชุมนุม คือการเอาชีวิตและความเจ็บปวดเข้าแลก เสี่ยงกับกระสุนและโควิด ที่เขาเรียกว่าสู้ตาย การสยบยอมต่อผู้กดขี่ ไม่มีอีกแล้ว” นายอานนท์กล่าว และว่า ยังมีโอกาสอยู่ อย่าให้เส้นโอกาสนี้ถูกทำลายไป

นายอานนท์กล่าวถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกว่า อย่าไปคิดว่า จับแกนนำ แล้วจะไม่มีการชุมนุม ทุกคนมีความเป็นแกนนำ มีความคิดของตัวเอง 7 สิงหาคมนี้ จึงเป็นอีกวันที่จะพิสูจน์ว่า ทุกคนเป็นแกนนำ

“ผม อานนท์ นำภา ในฐานะทนายความ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ก็จะไปด้วย อาจจะไม่ได้ไปอยู่ด้านหน้า เพราะสุขภาพไม่ดี ขออยู่ตรงกลาง ถ้าไล่ตีจากข้างหน้าก็จะได้วิ่งทัน ไปแน่ แก๊สน้ำตามาผมก็วิ่งแน่ ความกลัวมีทุกคน จะรอให้คนตายวันละ 100-200 รอไม่ได้จริงๆ แล้วอย่าราดน้ำมันเข้ากองเพลิง เรียกคนที่ตายข้างถนนว่าเป็นการจัดฉาก ไม่ใช่การดูถูกธรรมดา แต่มองว่าเป็นพวกขยะ อย่าทำอย่างนี้”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image