‘เรืองไกร’ ร้อง กกต. สอบ ส.ส.เพื่อไทย ฝ่าฝืน รธน. ม.185 (1), (2) หรือไม่

‘เรืองไกร’ ร้อง กกต. สอบ ส.ส.เพื่อไทย ฝ่าฝืน รธน. ม.185 (1), (2) หรือไม่

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ในฐานะ กรรมาธิการ (กมธ.) งบประมาณปี 65 เปิดเผยว่า ตามที่สภาฯได้มีหนังสือนัดประชุมเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2565 วาระที่ 2 และ 3 ในวันที่ 18 – 20 สิงหาคมนี้นั้น เรื่องงบประมาณนั้น กมธ. มีความระมัดระวังกันมาโดยตลอด ผอ.สำนีกงบประมาณก็เตือนให้ระวัง โดยเฉพาะ รัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง และมาตรา 185 แต่ในที่สุดตนก็พบประเด็นที่อาจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง เนื่องจากปรากฏหลักฐานในเอกสารประกอบการประชุม ที่มีการเสนอข้อสังเกตไว้ในลักษณะที่ทำให้เห็นว่า กมธ. หรือ ส.ส. ได้มีการกระทำด้วยประการใดๆ ที่มีผลให้ กมธ. หรือ ส.ส. นั้น มีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้จ่ายงบประมาณ ซึ่งจะกระทำมิได้ ตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง โดยเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา กมธ.ของพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้เสนอให้แก้ไขข้อสังเกตเกี่ยวกับการใช้จ่ายงบกลาง โควิด 16,362 ล้านบาทเศษ ว่า ต้องให้ สตง. ตรวจสอบงบกลางด้วย และขอให้ ผอ.สำนักงบประมาณต้องออกระเบียบเกี่ยวกับงบกลางโควิด หลังจากที่ พ.ร.บ.งบประมาณ 65 มีผลใช้บังคับ หลังจากเสนอในห้อง กมธ. แล้ว ส.ส. พรรคพท. ที่เป็น กมธ.จำนวน 3 คน คือ นานประเสริฐ จันทรรวงทอง นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า กมธ.พท. เป็นผู้เสนอให้ สตง. และสำนักงบประมาณกระทำการดังกล่าว เรื่องนี้ มาจากการแก้ไขข้อสังเกตเดิม ให้เป็นไปตามที่ กมธ.พรรคพท.เสนอ ต่อมาก็ปรากฏเป็นหลักฐานอยู่ในเอกสารการประชุมสภา ที่จะมีขึ้นในวันที่ 18-20 สิงหาคม ซึ่งตนจะขอใช้สืทธิในฐานะ กมธ. อภิปรายทักท้วงข้อสังเกตดังกล่าว ไว้เป็นหลักฐานในที่ประชุมสภาว่า เรื่องนี้ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

“ดังนั้น จากพยานหลักฐานดังกล่าว ซึ่งมีการกระทำเกี่ยวกับการใช้งบประมาณนั้น จึงอาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 144 วรรคสอง ประกอบกับ มาตรา 185 (1) และ (2) ตามมาได้ เพราะการขอให้ สตง. ตรวจสอบรายกลางงบกลางโควิด นั้น อาจเข้าข่ายการใช้สถานะหรือตำแหน่งกระทำการใดๆ อันมีลักษณะที่เป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ในการปฏิบัติราชการหรือการดำเนินการในหน้าที่ประจำของ สตง. ตามความใน มาตรา 185 (1) สำหรับประเด็นที่ขอให้ ผอ.สพนักงบประมาณต้องไปแก้ไขระเบียบการใช้งบกลางโควิด ภายหลังจากที่ พ.ร.บ.งบประมาณ 65 มีผลใช้บังคับแล้วนั้น อาจเข้าข่ายการใช้สถานะหรือตำแหน่งกระทำการใดๆ อันมีลักษณะที่เป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ในลักษณะที่ทำให้ตนมีส่วนร่วมในการใช้จ่ายเงินงบประมาณหรือให้ความเห็นชอบในการจัดทำโครงการใดๆ ของสำนักงบประมาณ ตามความใน มาตรา 185 (2) ส.ส.พท. เข้าข่ายกระทำอันต้องห้ามตาม มาตรา 185 (1) , (2) หรือไม่ นั้น อาจมีผลทำให้สมาชิกภาพของ ส.ส. สิ้นสุดลง ตามความใน มาตรา 101 (7) ซึ่ง กกต. มีหน้าที่และอำนาจดำเนินการได้” นายเรืองไกร กล่าว

Advertisement

นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า ด้วยข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงมีมูลเหตุที่ต้องร้อง ให้กกต. ส่งเรื่องให้ศาลวินิจฉัยตีความเกี่ยวกับ มาตรา 144 วรรคสอง ไว้เป็นบรรทัดฐานก่อนด้วย แล้วจึงวินิจฉัยตาม ม.185 (1), (2) ตามมา ดังนั้น ในเช้าวันนี้ (16 สิงหาคมนี้) ตนจึงได้ส่งคำร้องให้ กกต. ดำเนินการต่อไป โดยส่งทางไปรษณีย์แล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image