ปล่อยเพื่อนเรา สนั่นเรือนจำ ‘แม่สุ’ กอดหุ่นเพนกวิน เคาต์ดาวน์ปี 65 ‘ครย.112’ แง้มม็อบ ‘วิ่งแบบพี่ตูน’
เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร คณะราษฎรยกเลิก 112 (ครย.112) จัดกิจกรรม “อยู่เป็นเพื่อน ย้ำเตือนความยุติธรรม” ชุมนุมเคาต์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับศักราชใหม่แห่งการเปลี่ยนแปลง ระหว่างเวลา 17.00-05.00 น.
อ่านข่าว : https://www.matichon.co.th/politics/news_3112023
https://www.matichon.co.th/politics/news_3112208
https://www.matichon.co.th/politics/news_3112278
เวลา 22.16 น. นายเจษฎา ศรีปลั่ง หรือเจมส์ เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี เปิดเผยถึงการชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองในปี 2565 ว่า เตรียมรองเท้าให้พร้อม
“เมื่อพี่ตูนวิ่งได้ เราก็วิ่งได้ วิ่งเป็นประวัติการณ์ เอาทุกบาททุกสตางค์ไปสมทบทุนให้ ครย. 112 เพื่อออกต่างจังหวัด รอให้พร้อมจะประกาศพร้อมกัน จับตาในปีหน้า การเคลื่อนไหวจะดุดัน หากอยากให้เราหยุด ไม่เพียงยกเลิก ม.112 แต่ต้องปฏิรูปสถาบัน” นายเจษฎากล่าว นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ ส.ส.ฝ่ายค้าน ลงถนนร่วมกันกับประชาชน ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในปี 2565 อีกด้วย
ต่อมาเวลา 22.34 น. ผู้ชุมนุมร่วมร้องเพลง ‘นักสู้ธุลีดิน’ ก่อนลุกขึ้นยืนสงบนิ่ง เพื่อไว้อาลัยให้กับนักต่อสู้ที่สูญเสียชีวิตจากการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
เวลา 22.50 น. นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ บิดา นายสมาพันธ์ ศรีเทพ หรือน้องเฌอ ผู้ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างการสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง เมื่อปี 2553 ขึ้นกล่าวอวยพรปีใหม่ ในฐานะแกนนำ “ยืน หยุด ขัง” ต่อด้วย นางวรวรรณ แซ่อั้ง หรือป้าเป้า ทะลุกี
โดยนางวรวรรณกล่าวต่อว่าผู้นำประเทศ
“นาฬิกาต้องเดินหน้า ไม่ใช่เดินถอยหลัง พาประชาชนจน ไม่รู้ลูกหลานจะเป็นอย่างไร เดี๋ยวก็เป็นโควิด ปิดประเทศอีก อยากรู้ว่าจะลงแบบไหน อย่าลืมว่าปี 64 กับ 65 ไม่เหมือนกัน คนเรามันพัฒนา แต่ก่อนไม่รู้หรอกใครโกง ทุกวันนี้แจ่มแจ้งแล้ว กินหัวคิวจากประชาชน ทำไมไม่คิดบ้าง ทุบแล้วก็สร้าง สร้างแล้วก็ทุบ ไม่เห็นกันบ้าง นอนข้างถนน” นางวรวรรณกล่าว และว่า
“พ่อแม่พี่น้องอย่าถอยนะ ถอยกูตาย… เราต้องสู้เพื่อลูก เพื่อหลาน สิ่งไหนจะเกิดก็ช่างมัน เราคิดไปข้างหน้า อย่าไปขอความเห็นใจกับพวกโจร ไม่มีทางเห็นใจถ้าเราไม่สู้ ไม่ต้องเรียกร้องให้ประกันตัวแล้ว ไม่ให้หรอก เพราะต้องการเชือดไก่ให้ลิงดู เพราะพ่อแม่ทุกคนรักลูก” นางวรวรรณกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเวลา 23.50 น. ผู้ชุมนุมร่วมกันร้องเพลง “แสงดาวแห่งศรัทธา” พร้อมเปิดแฟลชจากโทรศัพท์มือถือส่องสว่างแทนดวงดาว
จากนั้นเวลา 23.53 น. นายธนพัฒน์ กาเพ็ง หรือปูนทะลุฟ้า กล่าวบทกวี ‘หมดจิตหมดใจจะใฝ่ฝัน’ สื่อถึงการต่อสู้ที่ต้องอดทน
ทั้งนี้ ในช่วงก่อนเริ่มนับถอยหลังส่งท้ายปี 2564 นายเจษฎากล่าวเชิญชวนผู้ชุมนุมร่วมกันตะโกนสิ่งที่อยากให้เป็นจริงในปีหน้า
กระทั่งเวลา 25.59 น. ผู้ชุมนุมนับถอยหลัง 10-1 โดยมีสมาชิกกลุ่มทะลุแก๊สร่วมจุดพลุเพื่อส่งเสียงถึงเพื่อนในเรือนจำ นานกว่า 3 นาที โดยผู้ชุมนุมเปล่งเสียง “ปล่อยเพื่อนเรา” “ปล่อยนักโทษการเมือง” “ปฏิรูปสถาบัน” และ “ราษฎร” อย่างต่อเนื่อง
ด้าน นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ กอดหุ่นรูปนายพริษฐ์ หรือเพนกวิน บุตรชาย พร้อมมองขึ้นท้องฟ้าชมพลุปีใหม่ ด้วยสีหน้าเศร้า
นายเจษฎากล่าวทิ้งท้ายว่า นี่เป็นการเคาต์ดาวน์ เป็นสิทธิเสรี สวัสดีปีใหม่ทุกคน ขอให้มีความสุข คิดสิ่งใดขอให้สมปราถนา ขอให้ทุกท่านได้สู้ร่วมกันเคียงบ่าเคียงไหล่ ปีหน้ามาประกาศศักดาร่วมกัน
ด้านผู้ชุมนุมบางส่วนแยกย้ายกลับบ้าน บางส่วนปักหลักร่วมเต้นรำอย่างสนุกสนาน จนถึงเวลา 05.00 น.
