‘อดีต รมช.คมนาคม’ แนะ รบ. เร่งลดผลกระทบประชาชน หลัง กม.บังคับเด็กนั่งคาร์ซีต
จากที่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.การจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ.2565 ที่กำหนดให้คนโดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องจัดให้นั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือนั่งในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ และคนโดยสารที่มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่ง หรือมีวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะนั่งแถวตอนใด หากฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท โดย พ.ร.บ.ดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ใน 120 วันข้างหน้านั้น
ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ฟังเสียงคนใช้รถ มอง กม.บังคับใช้คาร์ซีต เด็กไม่เกิน 6 ปี-สูงไม่เกิน 135ซม. ฝ่าฝืนปรับ 2 พัน
- ‘คาร์ซีท’ เพื่อเด็ก ตอบโจทย์ปลอดภัย
ล่าสุด (10 พ.ค.) นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ความเห็นกรณีดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีระบุว่า
“พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ.2565 ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2565 ต่อจากนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้น 120 วัน นับตั้งแต่วันประกาศนี้ ผมในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ และในฐานะประธานเครือข่ายสมาชิกรัฐสภาด้านความปลอดภัยทางถนนภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ขอยืนยันว่ากฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายที่ดีมากฉบับหนึ่ง สำหรับการแก้ปัญหาความไม่ปลอดภัยทางถนนที่สร้างความสูญเสียเป็นอย่างมากในประเทศไทย
แต่อย่างไรก็ตามอาจมีผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายต่อประชาชนได้ ถ้าไม่สร้างความเข้าใจต่อบทบัญญัติใหม่ให้ดีกับประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบังคับใช้ที่นั่งเพื่อความปลอดภัยของเด็กที่เป็นกฎหมายใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ทางกรรมาธิการได้มีข้อสังเกตอย่างมีนัยสำคัญไปยังรัฐบาลแล้วตามรายละเอียดที่แนบมาด้วยนี้ เพื่อเป็นการผ่อนคลายภาระของประชาชนที่รัฐจะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน และในระหว่างนี้จะต้องมีมาตรการทางการบริหารเพื่อทำความเข้าใจและดูแลประชาชนไม่ให้เดือดร้อนจากกฎหมายใหม่เพื่อความปลอดภัยของเด็กไทยและประชาชนทั่วไปต่อไป”
ทั้งนี้ สำหรับข้อสังเกตของ กมธ. ในกรณีการจัดที่นั่งพิเศษสำหรับเด็ก อายุไม่เกิน 6 ปี ประกอบด้วย
1.โดยที่ในปัจจุบันที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กในรถยนต์มีราคาค่อนข้างสูง ประกอบกับ พ.ร.บ.นี้มีการกำหนดให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป จึงอาจเป็นภาระต่อประชาชนในการจัดหาที่นั่งพิเศษ สำหรับเด็กให้ทันตามกรอบเวลาใช้บังคับกฎหมายดังกล่าว
สมควรที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติควรประกาศกำหนดหลักเกณฑ์วิธีป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุเพื่อเป็นทางเลือกที่ใช้แทนการจัดที่นั่งพิเศษสำหรับเด็ก โดยมีหลักเกณฑ์ที่เหมาะสมเพียงพอต่อความปลอดภัยและไม่กระทบกับประชาชนเกินจำเป็น
2.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องจัดอบรมเจ้าหน้าที่ที่บังคับใช้กฎหมายให้มีความเข้าใจในหลักการ เป็นแนวทางเดียวกัน และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบแนวทางบังคับใช้กฎหมายล่วงหน้า
3.หน่วยงานรัฐต้องมีมาตรการส่งเสริมให้ผลิตและนำเข้าที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงอุปกรณ์ได้ในราคาถูก หรือส่งเสริมให้มีประกอบการธุรกิจเช่าที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อเป็นทางเลือก