‘พริษฐ์’ ขอ ‘ส.ส.-ส.ว.’ รับร่างปลดล็อกท้องถิ่น ยันไม่สุดโต่งจนกระทบรูปแบบรัฐ

‘พริษฐ์’ ขอ ‘ส.ส.-ส.ว.’ รับร่างปลดล็อกท้องถิ่น รีบกระจายอำนาจให้ไทยก้าวทันโลก ยันไม่สุดโต่งจนกระทบรูปแบบรัฐ

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีที่ประชุมรัฐสภาจะลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 14 การปกครองท้องถิ่น หรือร่างปลดล็อกท้องถิ่น ที่เสนอโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 76,591 คน ในวันนี้ว่า จากการเข้าชี้แจงร่างเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลายฝ่ายในที่ประชุมรัฐสภาเห็นตรงกันถึงประโยชน์และทิศทางของการกระจายอำนาจว่าประเทศเราควรมีการกระจายอำนาจมากขึ้น เพราะจะสร้างประโยชน์ในหลายมิติ เช่น มิติเศรษฐกิจ ทำให้งบประมาณถูกใช้อย่างถูกจุดมากขึ้นโดยคนและหน่วยงานที่ใกล้ชิดปัญหา นำไปสู่การสร้างงาน สร้างอุตสาหกรรมใหม่ๆ สร้างรายได้ใหม่ๆ ให้ประชาชนในทุกพื้นที่ ในมิติความเหลื่อมล้ำ

นายพริษฐ์กล่าวว่า หลายคนเห็นตรงกันว่าการกระจายอำนาจจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำระหว่างแต่ละพื้นที่ได้ และช่วยยกระดับบริการสาธารณะในทุกจังหวัด ในมิติระบบราชการ จะทำให้ข้าราชการทำงานตอบสนองความต้องการของประชาชนได้มากขึ้น หน่วยงานไม่ทำงานซ้ำซ้อนกัน และในมิติการเมือง การกระจายอำนาจทำให้อำนาจอยู่ใกล้ชิดประชาชน เป็นการอัดฉีดประชาธิปไตยที่ฐานราก

นายพริษฐ์กล่าวต่อว่า บางฝ่ายกังวลว่าร่างของเราเป็นการกระจายอำนาจแบบสุดโต่ง แต่ความจริงแล้วสิ่งที่เราทำอยู่เป็นเพียงการพยายามวิ่งตามให้ทันการกระจายอำนาจในประเทศอื่นที่พัฒนาแล้วทั่วโลก หวังว่าคำตอบของทีมผู้ชี้แจงในสภาจะทำให้ทุกคนคลายข้อข้องใจ ส่วนข้อกังวลเรื่องรัฐเดี่ยว เรายืนยันว่าการกระจายอำนาจการบริหารนั้นไม่ได้กระทบรูปแบบของรัฐ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Advertisement

“ส่วนประเด็นการยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค ต้องยืนยันว่าเราไม่ได้ทำทันที แต่จะเป็นการเปิดบทสนทนาให้สังคมมีการถกเถียงเรื่องดังกล่าว ก่อนมีการจัดประชามติให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน โดยมีระยะเวลาชัดเจนในการวางแผนและเตรียมรับมือหากผลประชามติออกมาให้ยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค ซึ่งเราจะวางหลักประกันให้ข้าราชการส่วนภูมิภาคทุกคนไม่มีใครตกงาน หรือสูญเสียสิทธิประโยชน์

“ทุกตำแหน่งยังคงอยู่ ทุกความก้าวหน้าทางอาชีพยังคงมี และไม่ว่าในอนาคตราชการส่วนภูมิภาคจะเป็นอย่างไร ขอยืนยันว่าข้อเสนอของเราไม่ได้มีการเสนอให้ยกเลิกกำนัน ผู้ใหญ่บ้านแต่อย่างใด” นายพริษฐ์กล่าว

นายพริษฐ์กล่าวว่า จากฉันทามติของทุกฝ่ายเกี่ยวกับประโยชน์และทิศทางของการกระจายอำนาจที่ควรเพิ่มขึ้น และด้วยความพยายามของเราในการชี้แจง หวังว่ารัฐสภาทั้ง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ส.ส.ฝ่ายค้าน และ ส.ว.จะร่วมลงมติรับหลักการในวาระ 1 เพื่อเปิดบทสนทนาให้ทุกฝ่ายถกเถียงรายละเอียดเพิ่มเติมในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) และขอเชิญชวนประชาชนติดตามการลงมติว่าถึงที่สุดแล้วการตัดสินใจของรัฐสภาจะเป็นจุดเริ่มต้นฟื้นวาระกระจายอำนาจของประเทศให้คืบหน้าเร็วขึ้นได้หรือไม่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image