‘ก้าวไกล’ เขย่าพระนคร นำลิ่ว ส.ส.เขต-บัญชีรายชื่อ หนุ่มเสื้อส้ม ฝาก ส.ว. อย่าฝืนมติมหาชน

‘ก้าวไกล’ เขย่าพระนคร นำลิ่ว ส.ส.เขต-บัญชีรายชื่อ หนุ่มเสื้อส้ม ฝาก ส.ว. อย่าฝืนมติมหาชน

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า มีการตั้งหน่วยคูหาเลือกตั้งหน่วยเลือกตั้งที่ 1 และ 2 แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร และมีการตั้งจอ LED รายงานผลคะแนนจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แบบเรียลไทม์ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศพบว่ามีประชาชนมารอดูการนับคะแนน และรอชมผลการนับคะแนนรวมจำนวนหนึ่ง แม้ว่าในบางช่วงจะมีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ประชาชนยังคงรอให้ฝนหยุด และรอดูผลนับคะแนนรวมอย่างต่อเนื่อง

นายชวฤทธิ์ โรหิตจันทร์ อายุ 36 ปี ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว ประชาชนที่เฝ้าสังเกตการณ์การนับคะแนน โดยนายชวฤทธิ์สวมเสื้อคลุมสีส้มอย่างเด่นชัด ให้สัมภาษณ์ ‘มติชน’ ว่า ผลการนับคะแนนเบื้องต้นที่คูหาเลือกตั้งรู้สึกพอใจมาก ผลคะแนนออกมาอย่างที่เราตั้งใจไว้ คิดว่าตอนแรกยังไม่เปิดหีบบัตรเลือกตั้ง ถ้าคะแนนไม่ตรงกับที่เราคิด หรือถ้าวันนี้พรรคที่เราได้เป็นรัฐบาล แล้วถ้าเกิดวันหนึ่งเขาทำไม่ได้ตามที่เราตั้งใจไว้ ก็ถือว่าเป็นความผิดพลาดของเรา ซึ่งก็ไม่กังวลเพราะมีกระบวนการรัฐสภา ที่จะให้มีการเลือกตั้งใหม่ 4 ปีก็ว่ากันอีกที ซึ่งไม่ควรจะมีอะไรมาแทรกแซงอีกแล้ว ไม่ต้องมีใครมาตัดสินแทนประชาชน

เมื่อถามว่าพรรคการเมืองใดจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายชวฤทธิ์กล่าวว่า ฝากไว้ที่พรรคก้าวไกล เพราะตนเป็นคนบูชาคนเก่ง ส่วนคนดีไม่รู้ว่าวัดกันอย่างไร ยอมรับว่าตอนที่ชมการดีเบตไม่มีพรรคไหนที่จะตอบคำถามได้ดีกว่าพรรคก้าวไกล ถ้ามีใครจะบอกว่าเป็นพรรคการเมืองใหม่ ตนขอเถียงแทนว่าพรรคได้ทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านมา 4 ปี สามารถตอบคำถามได้ทุกข้อ มีบางเรื่องที่เราไม่รู้ไม่เคยได้พูดในสภา เราได้ยินจากพรรคก้าวไกล เห็นความชัดเจนอยู่แล้วว่าเขาเป็นคนเก่ง แต่หลายคนก็เลือกคนดี ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามีการวัดอย่างไร

Advertisement

เมื่อถามว่าความเป็นไปได้ที่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จะยกมือเลือกนายกรัฐมนตรีจากเสียงข้างมากของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) หรือไม่ นายชวฤทธิ์กล่าวว่า ถ้าต่างคนต่างเลือกเสียงคงแตก แต่ถ้าเกิดมีคนบรีฟมา อันนั้นเราก้าวล่วงเขาไม่ได้ ทั้งนี้ ส.ว.จำนวน 250 คน มาจากรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ผ่านการทำประชามติอย่างซับซ้อนซ่อนเงื่อน ถ้าเขาจะรวมคะแนนเพื่อที่เอาคนใดคนหนึ่งให้ชนะ อันนี้คงต้องวัดกัน

“ตอนนี้สิ่งที่เราทำได้คือเมื่อมีคู่แข่งที่วิ่งนำเราไปแล้ว 250 เมตร เราก็ต้องชนะมากกว่านั้นอีกเยอะ ซึ่งวันนี้ทำให้เห็นแล้วว่า มันมีโอกาส ตอนที่น้องถามพี่มันยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ นั่นหมายความว่าถ้ามันครบร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วการที่เราวิ่งกันเหนื่อยแทบตาย เพื่อที่นำคนที่วิ่งไปก่อนแล้ว 250 เมตร แล้วเราถึงเส้นชัย พี่ว่าเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ แต่ถ้าเกิดฝั่งพี่แพ้ นั่นหมายความว่ามันไม่ใช่เรื่องน่าอับอายเลย เพราะว่าเราไม่มีตัวช่วยใดๆ แต่ในขณะเดียวกันอีกฝั่งหนึ่งมีตัวช่วยมากมายขนาดนี้แล้วยังแพ้ อันนี้ควรจะเปิดโอกาสให้เด็กรุ่นใหม่ เปิดโอกาสให้ประชาชนเขาได้ตัดสินจริงๆ แล้วมาเซตซีโร่กัน” นายชวฤทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่าถ้า ส.ว. 250 คนยังยกมือเลือก พล.ิ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป จะออกมาแสดงพลังทางการเมืองหรือไม่ นายชวฤทธิ์กล่าวว่า ทุกวันนี้ก็แสดงออกอยู่ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งถ้าวันนั้นมีการเลือก พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีต่อจริง แต่เมื่อถึงการประชุมสภาในการโหวตเรื่อง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี หรือกฎหมายต่างๆ ซึ่งเขาไม่มีอำนาจในการโหวตผ่าน แล้วประเทศเดินต่อไปไม่ได้

Advertisement

“คงบอกไม่ได้ว่าให้ ส.ว.เขาไปเลือกอะไร แต่ก็ต้องมองถึงอนาคตด้วย ทำไมเราถึงเลือกอนาคตให้ลูกได้ว่า ทำไมต้องเรียนมหาวิทยาลัยชั้นนำ ทำไมต้องไม่คบคนไม่ดี ทำไมเราถึงวางรากฐานชีวิตลูก ขณะเดียวกันเรื่องการเมืองก็เป็นชีวิตของเด็กทุกคน แต่ทำไมถึงไม่มองระยะยาวว่าตอนนี้เด็กที่เขากำลังจะโตไปข้างหน้าต้องการอะไร อันนี้ก็ต้องฝากผู้ใหญ่ไว้” นายชวฤทธิ์กล่าวปิดท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผลคะแนนหน่วยเลือกตั้งที่ 3 2 แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร พบว่า นายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ ผู้สมัคร ส.ส.เขตจากพรรคก้าวไกล ได้รับคะแนนนำที่ 70 คะแนน ส่วนคะแนนบัญชีรายชื่อพรรคการเมือง ด้านพรรคก้าวไกล ได้รับคะแนนนำที่ 86 คะแนน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image