สุดารัตน์ จำไม่ลืม ‘พฤษภา35’ เข้าสภาได้ 5 วัน ม็อบลุกฮือต้านสืบทอดอำนาจ ปจบ.เหมือน ‘ก๊อบวาง’ ?

‘สุดารัตน์’ จำไม่ลืม ‘พฤษภา35’ เข้าสภาได้ 5 วัน ม็อบลุกฮือต้านสืบทอดอำนาจ เทียบปัจจุบันไม่ต่าง เหมือนก๊อบวาง

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 พฤษภาคม ที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯคณะกรรมการญาติวีรชน 35, มูลนิธิพฤษภาประชาธรรม คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.), ผู้แทนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, ผู้แทนจากหน่วยงานของรัฐบาล, ผู้แทนพรรคการเมือง ตลอดจนภาคประชาชน ร่วมจัดงานรำลึก “31 ปี พฤษภาประชาธรรม”

ในตอนหนึ่ง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงรำลึกเหตุการณ์พฤษภาประชาธรรมว่า ขอพูดในนามส่วนตัวที่มาจากใจ ในฐานะผู้ที่ร่วมในเหตุการณ์ตั้งแต่วันแรก จำได้ดี เป็นสภาผู้แทนราษฎรสมัยแรก ที่เลือกตั้งในวันที่ 22 มีนาคม 2535 ซึ่งเข้าสภาได้เพียงไม่กี่วัน เห็นประชาชนมากมายมหาศาลแสดงออกถึงจุดยืนที่ปฏิเสธการสืบทอดอำนาจ

Advertisement

“ถึงแม้ในขณะนั้นไม่มีโทรศัพท์มือถือ มีแต่หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ที่ทางการควบคุมไว้หมดแล้ว ด้วยศรัทธาของคนไทยที่รักประชาธิปไตยได้รวมตัวกันที่หน้ารัฐสภา เรียกร้องนักการเมืองให้ร่วมด้วย ปรากฏว่ามีนักการเมืองน้อยมากที่ออกไปร่วม

 

พรรคที่สังกัดอยู่ตอนนั้นคือ พรรคพลังธรรม ดิฉันเข้าสภาได้ไม่ถึง 5 วัน และนอนอยู่บนถนนไม่ต่ำกว่า 2 เดือนครึ่งร่วมกับพี่น้องประชาชน ดิฉันได้รับฉันทามติจากพี่น้องประชาชนและเป็นคนเดียวที่ถูกส่งกลับเข้าสภา เพื่อเจรจากับนายกรัฐมนตรีที่มาจากการสืบทอดอำนาจ (ร.ส.ช.) คำตอบที่ได้คือ “ขอโอกาสอีกไม่นาน และผมจะออกให้”

Advertisement

“จำได้ว่าอาจารย์ปริญญาอยู่ด้วยตั้งแต่ตอนต้น และจำได้ว่าเป็นม็อบที่ต้องย้ายเวทีมากที่สุดตั้งแต่เคยทำม็อบมา นับว่าเป็นความยากลำบาก แต่ประชาชนไม่ถอย เราสู้ เพราะประชาชนสู้ ดิฉันได้ขึ้นเวทีปราศรัยถึงเจตนารมณ์ของ ร.ส.ช. ปรากฏว่า ประชาชนไม่ถอยจริงๆ มามากขึ้นๆ จนย้ายเวทีมาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวต่อว่า คิดว่าเหตุการณ์แบบพฤษภาประชาธรรมจะไม่เกิดขึ้นอีก คงไม่มีแล้ว แต่ดิฉันคิดผิด

“มันหนักกว่าเดิม และเหตุการณ์ได้ถูกคัดลอกวาง คัดลอกวาง แบบลึกกว่าเดิม เรามีรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจเหมือนกัน แค่ให้นายกรัฐมนตรีมาจากคนนอกได้ แต่วันนี้มีทั้งนายกฯ จากคนนอก มีทั้งสมาชิกวุฒิสภา 250 คน มีทั้งแผนยุทธศาสตร์ชาติ

ดิฉันอยากจะใช้เหตุการณ์นี้ในฐานะที่อยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ อยากให้กำลังใจกับญาติเยาวชนทุกคน เข้าใจถึงความเจ็บปวด ความสูญเสีย ความเสียสละ และไม่อยากให้เหตุการณ์พฤษภาประชาธรรมเป็นแค่หนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดการสูญเสียและถูกลืม” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image