คณบดีนิติศาสตร์ จุฬาฯ สงสัย ‘เสียง’ ส.ว.รับผิดชอบต่อใคร แนะฟังสภาผู้แทน เคารพ ปชช.
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ผศ.ดร.ปารีณา ศรีวนิชย์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงทรรศนะกรณีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล ได้รับการเสนอชื่อ ทว่าได้เสียงเพียง 324 เสียง ไม่เพียงพอให้นั่งนายกฯนั้น
ผศ.ดร.ปารีณากล่าวทางเฟซบุ๊กว่า นายกรัฐมนตรี ควรมีที่มาที่สามารถยึดโยงกับประชาชนตามหลักการปกติและแท้จริงของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งปรากฏตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบัน ที่ให้สภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี
รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 กำหนดให้การให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต้องทำ “ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา” ด้วย “มติเห็นชอบ” โดยมี “คะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดที่มีอยู่ของทั้งสองสภา”
ดังนั้น การ “งดออกเสียง” จึงมีความหมายเท่ากับการไม่เห็นชอบนั่นเอง
การออกเสียงของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่ว่าโหวตสนับสนุนใคร รับใคร หรือไม่รับ ไม่สนับสนุนใครนั้น เป็นการตัดสินใจออกเสียงของสมาชิกสภาที่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชนของเขา (constituencies) ที่เลือกเขามาเป็นผู้แทน แต่การออกเสียง หรืองดออกเสียงของสมาชิกวุฒิสภานั้นแสดงถึงการรับผิดชอบต่อใคร?
สมาชิกวุฒิสภาสามารถแสดงออกถึงการเคารพต่อเสียงประชาชนได้โดยการฟังเสียงของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ด่วน! ‘พิธา’ ยังไม่ถึงเก้าอี้นายกฯ ได้ 324 เสียง เจอพรรคขั้วรบ.เดิม-ส.ว.รุมสกัด
- ‘พิธา’ ลั่นยอมรับ แต่ไม่ยอมแพ้ เดินหน้าหายุทธศาสตร์รวมเสียง โหวตหนุนนายกฯรอบ 2
- ‘พิธา’ ขอกลับไปวางแผนโหวตรอบ 2 ยังไม่สละให้ ‘เพื่อไทย’ ยันไม่ลดเพดานแก้ ม.112
- เปิดชื่อ 13 ส.ว. จากทั้งหมด โหวตเห็นชอบ ‘พิธา’ นั่งนายกฯ
- เปิดโฉม ส.ว.โดดพรึบ วันโหวตนายกฯ ชี้คนดังเพียบ