น.ศ.พ้อ สะกดชื่อ ปชช.ไม่เป็น? ‘ได้กลิ่นงูเห่า’ ตุๆ เลือกก้าวไกล แต่ได้ก้าวเดิม คิดฉายหนังม้วนเดิม ไม่ยอม!
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ลานสัญญาธรรมศักดิ์ หน้าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานี องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดกิจกรรมชุมนุม #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน เพื่อร่วมกันทวงคืนอำนาจของประชาชน แสดงจุดยืนต่อ 8 พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในการจัดตั้งรัฐบาล และโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ให้เป็นไปตามเจตจำนงของประชาชนที่ส่งผ่านการเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศเวลา 16.00 น. ผู้จัดขึงป้ายผ้ารอบฐานอนุสาวรีย์ศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ มีข้อความต่างๆ อาทิ ธรรมศาสตร์ #จะไม่ทน รวมถึง ‘ต่อให้เด็ดดอกไม้จนกุด ก็หยุดฤดูกาลใบไม้ผลิไม่ได้’ และ 250 มากกว่า 14 ล้าน เป็นต้น นอกจากนี้ มีผู้ค้านำสินค้าต่างๆ ที่มีลวดลายสัญลักษณ์พรรคก้าวไกล รวมถึงใบหน้าของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มาวางจำหน่าย
เวลา 17.05 น. มีการแขวนป้ายผ้าบนตึกคณะนิติศาสตร์ ข้อความว่า “นิติปัญญาชน คนเท่ากัน” โดยขีดฆ่าที่คำว่า ปัญญาชน
เวลา 17.10 น. มีการตั้งกล่องลากตั้ง พร้อมแจกยันต์ ‘สวะต้องลาออก’ และบัตรเลือกตั้ง ส.ส.จำลอง ให้เลือก หมายเลขพรรคบัญชีรายชื่อ 1-7 ได้แก่ สมาชิกวุฒิสภา, พรรคหนูท่อ พรรคบาร์บี้บีบมวยผม, พรรคลุงอยู่ไหน, พรรคขวดซีอิ๊ว, พรรคตึกชมพู, พรรคมั่นหน้าพัฒนาชาติ โดยที่หีบเลือกตั้ง เขียนข้อความว่า “สมดังเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 2560”
เวลา 17.27 น. กันต์ นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ม.กรุงเทพฯ กล่าวปราศรัยว่า ต่อให้กดเรากี่ครั้งก็จะตะโกนกลับไปว่า เรายังไม่ยอมแพ้
“ยิ่งฝัน ยิ่งเห็นโครงสร้างสังคมที่เน่าเฟะ ยิ่งฝัน ยิ่งมีคำถามตามมาในหัว การต่อสู้ของประชาชนจะเดินหน้าต่อ ตราบใดที่ยังไม่เป็นประชาธิปไตย นี่คือเสียงของประชาชนที่อยากส่งไปถึงผู้มีอำนาจ อย่าเพิ่งคิดว่าชนะพวกเรา เราจะต่อสู้ไปจนวันล่มสลายของพวกคุณมาถึง” กันต์กล่าว
กันต์กล่าวต่อว่า การที่เรามายืนยันร่วมกัน คือการแสดงเจตจำนงว่า พวกเราต้องการอนาคตที่ดีกว่านั้น พร้อมกล่าวถึงจรรยาบรรณที่ดีของนักกฎหมาย และประณามศาลรัฐธรรมนูญ ที่ทำให้เกิดวิกฤตศรัทธาต่อระบบกฎหมายในไทย นักศึกษาวิชากฎหมาย ยอมหรือไม่
“ขอทวงคืนศักดิ์ศรีของนักกฎหมายคืนมา การที่จะเอาหนังม้วนเดิมมาฉายซ้ำ เราไม่ยอม พอกันทีกฎหมายที่ใช้เพื่อพวกเผด็จการ ให้มันจบที่รุ่นเราสักที” กันต์กล่าว
เวลา 17.40 น. โบ๊ท ตัวแทนนักศึกษา คณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวปราศรัยว่า นี่คือวงจรอุบาทว์ Political club คือนักการเมืองที่รับใช้เผด็จการ คนเหล่านี้ย้ายพรรคไปมา ย้ายเหมือนเป็นทะเบียนบ้าน สังเกตอีกว่า จะมีรัฐมนตรีอยู่คนหนึ่ง ที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม 20 ปีก่อน ผ่านมาอีก 20 ปี ก็ยังเป็นรัฐมนตรีว่าการอุตสาหกรรม เขาเป็นพวกกัน เรากลายเป็นเอเลี่ยน
“ปี 2566 เราเลือกก้าวไกล แต่ได้ก้าวเดิมไม่เคยมีประชาชนอยู่ในสมการ แม้แต่ตัวอักษรเดียว คำว่าประชาชนคงสะกดไม่เป็นด้วยซ้ำ วันนี้มีกลิ่นตุๆ ของงูเห่า หมดเวลาแล้ว เราจะหยุดวงจรอุบาทว์นี้ให้จบในรุ่นเรา ชัยชนะของพวกเขาคือทำให้เรารู้สึกท้อแท้ ประเทศนี้สู้ไปก็ไม่ชนะ เราจะมาออกเสียงทำไม นี่คือชัยชนะของเขา เราต้องอย่าหยุดส่งเสียงออกไปกดดันผู้แทนราษฎรของเรา จงทำหน้าที่ของท่าน เคารพมติประชาชน
จงต่อสู้ในวิถีทางของท่าน รู้ว่ามีราคาที่ต้องจ่าย ผมยังสู้ในทางที่ผมทำได้ แต่อย่าหยุดสู้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราหยุด เผด็จการ ชนชั้นนำ นายทุนสามานย์ชนะ เราจะยอมไหม” โบ๊ทกล่าว โดยผู้ชุมนุมร่วมส่งเสียงโห่
ก่อนฝากบทกวีของไม้หนึ่ง ก.กุนที กวีราษฎร ที่ฝากไว้ ณ หอประชุมศรีบูรพา ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่งปัจจุบันเสียชีวิต ถูกลอบยิงกลางกรุงเทพฯ ภายหลังรัฐประหาร 2557 ทุกวันนี้ยังตามจับไม่ได้ว่าใครลอบสังหารกวีราษฎร โดยเนื้อหามีความหมายถึงกฎหมายอาญามาตรา 112
