“พีระพันธ์” โว ปชช.พอใจผลงานด้านพลังงาน ลั่นไม่เคยเกรงใจใคร ยันตัวเลขเงินสดของการไฟฟ้าฯ มีเกือบ 9 หมื่นล้าน
เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุม เพื่อพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ในวันแรก
ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ‘เศรษฐา’ ร่ายยาวงบฯ67 ยันจะใช้เงินภาษีปชช.อย่างมีประสิทธิภาพ คาดเศรษฐกิจปี 67 ขยายตัว2.7
- ชัยธวัช ซัดรบ.รวมเฉพาะกิจ ตั้งครม.-งบผิดฝาผิดตัว จากคิดใหญ่ทำเป็น กลายเป็นคิดไปทำไป
- เพื่อไทย ลุกประท้วงวุ่น จุรินทร์อัดนักโทษติดคุกทิพย์ ด้านส.ส.ปชป.ลุกสวน เจอเย้ยแรง
- เอกนัฏ ลุกชมรบ. ติดกระดุมถูกเม็ด ตั้งงบขาดดุล แนะเร่งใช้จ่าย ถ้าไม่ทัน ให้ท้องถิ่นช่วย
- ศิริกัญญา ซัดแรงรัฐจัดงบ ไม่รองรับวิกฤตที่ชอบอ้าง เย้ยนี่หรือรบ.ที่ขึ้นชื่อ ว่าเก่งเศรษฐกิจ
- รมช.คลัง รับคำวิจารณ์ งบ’67 เป็นมรดกรบ.ก่อน ชี้มีงบผูกพันมา รื้อไม่ได้ แจงเหตุงบกลางเพิ่ม
จากนั้น เวลา 18.45 น. นายศุภโชติ ไชยสัจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายนโยบายด้านพลังงาน ระบุว่า กระทรวงพลังงาน ซึ่งมีคนจากพรรคเดิม จะมีความเกรงใจนายทุนเหมือนเดิม ประมาณการณ์ยอดเงินคงเหลือของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ที่เผชิญความเสี่ยงของยอดเงินสดจะลดลง จากเดิมหลักแสนล้านบาทและมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ลงมาอยู่ที่ราว 30,000 ล้านบาท คาดการณ์ว่าในการดำเนินกิจการรายเดือนแย่สุดในเดือน ต.ค.67 จะมีเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท อาจไม่มีเงินพอในการดำเนินการรายเดือนและชำระหนี้
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ลุกขึ้นชี้แจงว่า ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตนั้นไม่ถูกต้อง หากตนไม่ชี้แจงจะทำให้ประชาชนเข้าใจผิดได้ และกล่าวหาว่า ตนและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานพลังงาน จากรัฐบาลที่แล้ว มาจากพรรคเดียวกันคงเกรงใจนายทุน จึงแก้ปัญหาแบบเดิม
ตนขอเรียนว่า โครงสร้างไฟฟ้าแบบปัจจุบัน ตนก็ไม่พอใจ แต่ไม่มีทางอื่นที่จะต้องปรับตามโครงสร้างแบบปัจจุบัน ไม่ว่าจะอย่างไรตนเชื่อว่าประชาชนพึ่งพอใจในผลงานที่ทำมา และคนอย่างตนไม่เคยเกรงใจใคร หากทำไปแล้วพี่น้องประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์ ตนไม่เคยเกรงใจใคร ถ้ามัวแต่เกรงใจใคร 3เดือนที่ผ่านมาตนคงทำสิ่งที่ทำให้กับประเทศและประชาชนไม่ได้ อย่างที่ปรากฎใน 2-3 เดือนที่ผ่านมา
“ผมฟังนายศุภโชติ อภิปรายแล้วก็ตกใจ เพราะตัวเลขที่ท่านพูดกับตัวเลขที่ตนได้รับการชี้แจงจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา และนำเข้าครม. คนละตัวเลขกัน และอยากจะบอกว่ากระแสเงินสดของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ปี 66 ประมาณเกือบ 9 หมื่นล้านบาท และประมาณการใช้จ่ายของ
การไฟฟ้าฯ ที่ท่านบอกว่าตั้งแต่ต้นปี 66 มา ลงไปถึงหมื่นกว่าล้านบาทเป็นไปไม่ได้ เพราะการไฟฟ้าฯต้องรักษาระดับเงินสดไว้ไม่ต่ำว่า 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นมาตรฐานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต และก่อนที่ผมจะชี้แจงก็ได้สอบถามการไฟฟ้าฯเพื่อความมั่นใจมาแล้วว่าตัวเลขที่รายงาน ครม.ใช่หรือไม่ เพราะผมก็เชื่อว่าสมาชิกต้องได้ตัวเลขที่ถูกต้องมาเหมือนกัน ซึ่งทางการไฟฟ้าฯยืนยันว่า ตัวเลขที่รายงาน ครม.เป็นตัวเลขที่ถูกต้อง ส่วนหนี้ที่การไฟฟ้าฯที่มีกับปตท. 3 หมื่นกว่าล้านบาทนั้น ตอนใช้หนี้หมดแล้ว” นายพีระพันธุ์ กล่าว