‘ถา ไอลอว์’ หวั่นคำถามซับซ้อน เสี่ยงไม่ผ่าน ท้ารัฐบาลลาออก ถ้าแก้รธน.ไม่สำเร็จ

แฟ้มภาพ

‘ถา ไอลอว์’ หวั่นคำถามซับซ้อน เสี่ยงไม่ผ่าน ท้ารัฐบาลลาออก ถ้าแก้รัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ

เมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่อาคาร All Rise หมู่บ้านกลางเมือง แยกรัชดา-ลาดพร้าว กลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ หรือ #Conforall แถลงถึงการเตรียมยื่นหนังสือขอเข้าพบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 15 มกราคมนี้ เพื่อหารือทางออกแนวทางคำถามประชามติ แก้รัฐธรรมนูญ

ในตอนหนึ่ง นายณัชปกร นามเมือง หรือ ถา โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) กล่าวถึง ประเด็นคำถาม ประชามติ เพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยระบุว่า การถามคำถาม 1 คำถาม จะมี 2 ประเด็น ซึ่งมีแนวโน้มที่ผู้ออกเสียงจะเห็นด้วยประเด็นใดประเด็นหนึ่ง เพียงแค่ประเด็นเดียว มีทั้งโหวตแบบเห็นชอบและไม่เห็นชอบ ซึ่งเราได้ทำโพลว่า ประชาชนมีความคิดเห็นอย่างไร ‘เห็นด้วยกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่’ ประชาชนโหวต ‘ Yes ’ ถ้าหากจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยไม่แก้กฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 112 ทุกคนโหวต ‘No’

“เราเห็นว่าคำถามที่ใกล้เคียงกัน แต่เงื่อนไขที่แตกต่างกันก็จะโหวตไม่เหมือนกัน การตั้งคำถามในเชิงที่ซับซ้อน และเงื่อนไขที่ไม่ได้ยอมรับความคิดเห็นต่างๆ มันกลายเป็นแนวทางที่จะทำให้ประชามติไม่ผ่าน เพราะฉะนั้น ถ้ารัฐบาลยืนยันว่าตั้งคำถามแบบนี้และจะผ่าน และถ้าเกิดมันไม่ผ่าน เราคาดหวังอยากเห็นความรับผิดชอบของรัฐบาล เพราะสิ่งนี้คือนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล” นายณัชปกรระบุ

Advertisement

นายณัชปกรกล่าวต่อไปว่า สิ่งสำคัญในคำแถลงนโยบายของรัฐบาลบอกชัดว่า ต้องการความเห็นที่แตกต่าง เราเห็นว่าทิศทางของคำถามเป็นการปฎิเสธความคิดเห็นที่แตกต่าง และข้อเรียกร้องพื้นฐานของเรานั้นไม่ได้ซับซ้อน เราถามแค่เลนส์เดียว จะถามหลายคำถามก็ได้แต่ถามแค่เลนส์เดียว อยากจะถามเรื่องรัฐธรรมนูญ เรื่องแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 112 ก็ถามได้ แต่อย่าควบเงื่อนไขไปด้วยกัน ที่ทำให้ประชาชนไม่สามารถแสดงเจตนารมณ์ได้อย่างชัดเจน ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นเงื่อนไขที่ทำให้ประชามติไม่ผ่าน เพราะเราเองก็ได้เดินทางไปพูดคุยกับเครือข่ายในประชาชนหลายๆ พื้นที่ และได้ทำโพลหลายพื้นที่ เราพบว่ามันมีก้อนความคิดเห็นแบบนี้อยู่เหมือนกัน ฉะนั้น ถ้าเราได้ไปหารือกับรัฐบาล ถ้านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยอมพบกับเรา

นายณัชปกรเผยว่า เดิมมีการนัดหมายกันแล้ว วันที่ 15 มกราคมนี้ ทางเครือข่ายฯ จะได้พบกับ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ซึ่งเป็นการหารือรอบแรก เพื่อที่นัดหมายได้เจอกับนายเศรษฐา ทวีสิน และ นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งก็จะได้รู้ว่าเราคิดเห็นอย่างไร มีปัญหาข้อกฎหมายอย่างไร สิ่งสำคัญมากกว่านั้นคือ เราต้องการความโปร่งใส่ และคำชี้แจงที่ชัดเจน ว่าปัญหาที่ทำให้ก้าวเข้ามาสู่ การทำประชามตินั้น คืออะไร

Advertisement

เมื่อถามว่า ต้องการเห็นอะไรในการทำประชามติ ?

นายณัชปกรระบุว่า ถ้าเกิดการทำประชามติครั้งนี้ไม่ผ่าน สิ่งที่ควรทำก็คือ รัฐบาลควรจะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าไปเลยโดยพ่วง 2 เงื่อนไข

1. ร่างใหม่ทั้งฉบับ เพราะเห็นแล้วว่าการไม่แก้ไขบางหมวดบางมาตรา หรือการสร้างเงื่อนไขแบบนี้ มันไม่ได้เป็นที่ยอมรับของสังคม เพราะฉะนั้นผมคิดว่าถ้ารัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน จะดำรงต่อไป ก็ต้องยืนยันอยู่บนหลักการนี้ว่าต้องร่างใหม่ทั้งฉบับ ต้องใช้กลไลของรัฐบาลในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไป

2.ต้องหารือกับ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ให้ได้ ปฎิเสธไม่ได้ว่าการเข้าสู่รัฐบาลของ นายเศรษฐา ทวีสิน มี ส.ว.ในการสนับสนุน เพราะฉะนั้นในคำถามประชามติที่ตั้งมา ถ้า ส.ว.เห็นไปทางนี้ ก็อาจจะไม่ผ่าน

“ผมคิดว่าคุณมีหน้าที่ในการหารือกับ ส.ว.ชุดปัจจุบัน ว่าประชาชนต้องการอะไร เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ให้สู้ให้อย่างเต็มที่ ไม่อยากจะพูดว่าคุณต้องรับผิดชอบถึงขั้นการลาออก ผมคิดว่า ผมอยากให้โอกาสรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ในการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เต็มที่ แต่ถ้าพิสูจน์แล้วมันไม่สามารถทำได้จริงๆ แม้ว่าจะเป็นนโยบายหลักของคุณ สิ่งนี้ก็ต้องเป็นคำถามที่ต้องถามไปยังทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ผมพบ ว่าถ้าคุณไม่สามารถแสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่ในการจะผลักดันเรื่องนี้ คุณก็ควรจะลาออก เปิดทางให้คนอื่นได้ทำ” นายณัชปกรกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image