สภาทนายความเสนอ 6 แนวทางเยียวยาประชาชน ได้รับผลกระทบจากกากแคดเมียม ยันมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าข่าย ม.157
วันที่ 18 เมษายน ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยสมาชิกสภา ทนายความร่วมกันแถลงข่าวการให้ความช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย กรณีได้รับผลกระทบจากการขุดและส่งต่อกากแร่แคดเมียม จากบ่อฝังกลบโรงงานถลุงแร่สังกะสีใน จ.ตาก ว่า ทางสภาทนายความจึงได้มีแนวทางในการช่วยเหลือประชาชน 6 แนวทางคือ ตั้งคณะทำงานให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ, เรียกร้องดำเนินคดีตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมกับเจ้าของหรือผู้ครอบครอง และเจ้าหน้าที่รัฐหรือหน่วยงานที่อนุญาตให้ขนย้ายกากของเสีย, เรียกร้องให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจเลือดและปัสสาวะประชาชน
โดยรอบพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบ รอบโรงงานที่ฝังกลบในจังหวัดตาก และกรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร และชลบุรีทั้ง 100% ไม่ใช่เฉพาะคนงานกลุ่มเสี่ยง ซึ่งวันนี้จะทำหนังสือไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการ, เรียกร้องให้ผลักดันกฎหมายเกี่ยวกับการปล่อยมลพิษ เพื่อเป็นมาตรการให้ผู้ประกอบการเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนเข้าถึงได้ และให้โรงงานที่ได้รับใบอนุญาต 101 เท่านั้นที่สามารถทำลายหรือฝังกลบสารอันตรายได้ ซึ่งโรงงานในจังหวัดตากที่รัฐบาลเตรียมจะนำกากแคดเมียมกลับไปฝังกลบในวันที่ 7 พฤษภาคมนั้นไม่ได้ใบรับอนุญาตดังกล่าว จึงควรศึกษารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ให้รอบด้านก่อน
ส่วนคดีอาญานั้น เบื้องต้นได้หารือกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมว่า จะให้เป็นอำนาจของกรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินคดีกับเอกชนที่ครอบครองและขนย้ายกากแร่ตามกฎหมายสิ่งแวดล้อม ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอนุญาตให้ขนย้ายโดยมิชอบถือเป็นการละเมิดทางปกครอง และเข้าข่ายปล่อยปละละเลยหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ยืนยันว่า กรณีนี้เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดตากต้องรับผิดชอบโดยตรง ไม่สามารถอ้างได้ว่ามีการนำข้อมูลเท็จมาใช้ขออนุญาตเคลื่อนย้าย และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีผลสอบข้อเท็จจริงจากหน่วยงานราชการที่ชัดเจน มีเพียงการสั่งย้ายอุตสาหกรรมจังหวัดตากเท่านั้น เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรงงาน และ พ.ร.บ.วัตถุอันตราย ซึ่งมีโทษทางอาญา และประชาชนที่ได้รับผลกระทบก็สามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายจากหน่วยงานรัฐและเอกชนได้เช่นกัน
พร้อมขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบหลุมฝังกลบกากแคดเมียมในจังหวัดตากอีก 5 หลุมว่า มีการดำเนินการอย่างใดหรือไม่หลังจากที่ถูกลักลอบขุดขึ้นมาแล้ว 2 หลุมและส่งออกไปยังพื้นที่ต่างๆ
ส่วนการให้ความช่วยเหลือประชาชนนั้น เบื้องต้นมีประชาชนประสานมายังสภาทนายความนอกรอบแล้ว 1-2 ราย และอยู่ระหว่างรวบรวมพวกที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดตาก แต่บางส่วนยังเกรงกลัวอิทธิพลอยู่ ซึ่งสภาทนายความได้ประสานไปยังหน่วยงานในพื้นที่ว่า หากมีประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายหรือด้านคดี ทางสภาทนายความก็ยินดีให้การช่วยเหลือโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่ต้องขึ้นอยู่กับการลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิของประชาชนด้วย และภายในสามวันนี้ทางสภาทนายความจะลงพื้นที่เพื่อให้ความรู้กับประชาชนในการเรียกร้องสิทธิต่างๆ นโยบายของสภาทนายความด้วย
