กมธ.มั่นคงฯ เสนอร่างกม. แก้เผ็ด รมต.-จนท.รัฐ เบี้ยวชี้แจงถือว่ามีความผิดทางวินัย-จริยธรรม

“กมธ.ความมั่นคง” เสนอร่างกม.เรียก สส.สว. แก้เผ็ด รมต.-จนท.รัฐ เบี้ยวชี้แจงถือว่ามีความผิดทางวินัย-จริยธรรม ย้ำไม่ใช่พร่ำเพรื่อแต่บางเรื่องต้องการคำตอบจากผู้มีอำนาจ “โรม”โอด บางทีต้องประชุมฟรี เสียเวลา ด้าน “ปดิพัทธ์” รับลูก มั่นใจไม่ใช่ร่างกฎหมายการเงิน

เมื่อวันที่ 18 เม.ย. เวลา 11.30 น. ที่ รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 รับหนังสือจาก นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธสาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย ส.ส. ที่เข้าชื่อกันเสนอร่าง พ.ร.บ.การเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ. ….

โดย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ทางกมธ.ฯได้มีการศึกษาร่างดังกล่าว ซึ่งต้องเน้นย้ำว่าเรามีกฎหมายที่เกี่ยวข้องในทำนองเดียวกันอยู่แล้ว แต่ปรากฏว่าในสภาฯชุดที่แล้วได้มีการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ และมีการวินิจฉัย กำหนดความผิดอาญาในบางมาตราว่าเป็นกฎหมายที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ยังไม่มีปัญหาในการบังคับใช้ ทำให้กมธ.ฯ ประสบปัญหาและอุปสรรคในการรวบรวมข้อมูลมาศึกษา และจะทำข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลได้ยาก ด้วยปัญหาดังกล่าว ตนจึงได้นำเรื่องนี้หารือต่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ รวมถึงที่ประชุมของประธานคณะกรรมาธิการสามัญทั้ง 35 คณะ พบว่าหลายท่านก็เจอปัญหาในลักษณะเดียวกัน เราจึงได้มีการจัดทำร่างกฎหมายเพื่อปรับปรุงหลักการในการเรียกของคณะกรรมาธิการ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

Advertisement

“โดยหลักการ จากเดิมการเรียก หากผู้ชี้แจงไม่มาตามเรียก จะมีความผิดตามกฎหมายอาญา เราจึงได้มีการเปลี่ยนแปลงใน 2 ลักษณะ ในเชิงของรัฐมนตรี จะมีความผิดเรื่องประมวลจริยธรรม ซึ่งเห็นว่าน่าจะมีความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เพราะการทำหน้าที่ของกมธ.ต้องได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลอยู่แล้ว ภายใต้มาตรา 129 ในส่วนเจ้าหน้าที่ของรัฐ และส่วนอื่นๆ ก็จะมีความผิดทางวินัย ในกรณีที่ไม่มาตามคำสั่งเรียก แต่คำสั่งเรียกของกมธ.ฯคงไม่สามารถใช้พร่ำเพรื่อได้ เพราะในกรณีที่หากเป็นการสั่งเรียกเพื่อกลั่นแกล้ง ผู้ที่ใช้คำสั่งเรียกดังกล่าวก็จะมีความผิดเช่นเดียวกัน ดังนั้น ร่างกฎหมายนี้เป็นไปเพื่ออำนวยความสะดวกให้การทำหน้าที่ของ กมธ.ออกมาดีที่สุด และเราคงจะไม่ใช้ทันที เพราะมาตรการของเราคือ ต้องมีการเชิญเป็นหลักก่อน หากไม่ได้รับความร่วมมือถึงจะใช้คำสั่งเรียกต่อไป” นายรังสิมันต์ กล่าว

เมื่อถามว่า จะมีโอกาสถูกตีความว่าร่างกฎหมายนี้เป็นร่างเกี่ยวกับการเงินหรือไม่นั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า โดยกระบวนการเมื่อยื่นร่างกฎหมายไป ทางสภาฯ ต้องมีการวินิจฉัย หากตีความว่าเป็นร่างการเงินก็จะเข้าสู่ที่ประชุมของประธาน กมธ. ทั้ง 35 คณะ ซึ่งจะต้องพูดคุยกันว่าจะลงมติอย่างไร แต่เราพยายามทำให้ร่างกฎหมายนี้สามารถเข้าสู่การบรรจุวาระโดยเร็ว อย่างไรก็ตามไม่เชื่อว่าจะถูกตีความเป็นร่างการเงิน เนื่องจากนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย เคยเสนอร่างกฎหมายในทำนองเดียวกันไปก่อนหน้าแล้ว และไม่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นร่างการเงิน เราจึงหวังว่ากระบวนการนี้จะเดินหน้าไปพร้อมกันได้ ทั้งนี้การเข้าชื่อเสนอร่างกฎหมายครั้งนี้ ไม่ได้แบ่งว่าเป็น สส. ฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ตนถึงบอกว่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดีในการทำงานของสภาฯ ซึ่งเห็นพ้องต้องกันทุกฝ่าย และหากร่างกฎหมายบรรจุแล้วก็จะนำไปหารือกับวิปทุกฝ่ายต่อไป


นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า จากประสบการณ์ที่เจอปัญหาในการทำงานของ กมธ.ความมั่นคงฯ ว่า หลายเรื่องที่เราพิจารณาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นเรื่องความมั่นคง ชายแดน บางครั้งเรายังมีช่องว่างระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายรัฐบาล เป็นช่องว่างที่เราพยายามจะแก้ไขอยู่ ซึ่งการที่เราจะเชิญหน่วยงานต่างๆ มาให้ข้อมูล บางทีก็มีการมอบต่อๆ กัน บางทีเราเชิญรัฐมนตรี ก็มอบต่อๆ กันไป สุดท้ายไม่ได้เจ้าหน้าที่ที่ตัดสินใจในเชิงนโยบาย ซึ่งก็เสียประโยชน์ และต้องยอมรับว่ามีต้นทุนในการประชุม ถ้าเราไม่สามารถได้ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ สุดท้ายก็ไม่สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบายได้เลย ถ้าจำกันได้ บางทีเราก็ต้องแถลงเพื่อเร่งให้มาชี้แจง

Advertisement

ด้านนายปดิพัทธ์ กล่าวว่า การบังคับใช้คำสั่งเรียก ไม่ได้ใช้พร่ำเพรื่อ แต่เมื่อถึงจังหวะที่เราต้องการคำตอบ เช่น เรื่องการใช้อำนาจหน้าที่เกินของเจ้าหน้าที่รัฐ รัฐมนตรีจะรับผิดชอบอย่างไร ปรากฏว่าไม่มา ทำให้ กมธ.ฯ ประชุมฟรี เสียเวลา ทำให้ความเดือดร้อนของประชาชนไม่ได้รับการแก้ไข เมื่อกมธ.ฯ เจอปัญหาเชิงโครงสร้าง ที่ไม่สามารถแก้ได้ด้วยการประชุมไปเรื่อยๆก็เกิดปัญหาตามมา ทั้งนี้ร่าง พ.ร.บ. ที่เสนอโดยนายสฤษฏ์พงษ์ มีหลักการเหมือนกัน แต่รายละเอียดต่างกันเล็กน้อยในเรื่องตำแหน่งของรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่รัฐ ตนคิดว่าคงไม่มีการปัญหากับการเสนอประกบกัน ส่วนการวินิจฉัยว่าเป็นร่างการเงินหรือไม่ ก็จะดำเนินการอย่างรวดเร็ว โดยส่วนตัวคิดว่าไม่ใช่ร่างการเงินแน่ๆ เพราะไม่ได้กระทบกับการจัดสรรงบประมาณแผ่นดิน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image