คอลัมน์ สถานีคิดที่ 12 : ตำนานปานปรีย์
โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน
เกือบจะทำให้ ครม.เศรษฐา 1/1 ต้องสะดุดหยุดชะงัก จากการลาออกของนายปานปรีย์ พหิทธานุกร จากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ด้วยเหตุผล เพราะไม่ได้ควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้วย
แต่ด้วยการตัดสินใจอย่างรวดเร็วของนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ในการเลือกนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ อดีตทูตหลายประเทศ มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศแทน
ด้วยเห็นว่าประสบการณ์ความสามารถไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย
เลือกอดีตทูตปู มาแทนนายปานปรีย์ แบบไม่ต้องมาเสียเวลาอะไรกันอีกแล้ว
ทำให้ ครม.เศรษฐา 1/1 เดินหน้าต่อไปได้อย่างรวดเร็ว และกำลังจะเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเริ่มทำงานได้ทันที
กรณีนายปานปรีย์ลาออก ทิ้งตำแหน่งในรัฐบาล เพราะไม่ได้ควบรองนายกฯ
ทำให้มีการนึกย้อนไปถึงอดีต ทำนองว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับนายปานปรีย์
เคยเกิดอะไรคล้ายๆ กันมาแล้วหลายหน
ตั้งแต่ยุคที่พรรคพลังประชาชนโดนยุบเมื่อปลายปี 2551 ทำให้ต้องเกิดพรรคเพื่อไทยขึ้นมาทดแทน
ตอนเริ่มตั้งเพื่อไทยใหม่ๆ มีการจัดเตรียมหัวหน้าพรรค ทีมบริหารพรรค มีการทาบทามนายปานปรีย์ มาเป็นหนึ่งในตัวเต็งหัวหน้าพรรคด้วย
แต่ด้วยกติการัฐธรรมนูญในยุคนั้น ผู้จะเป็นนายกรัฐมนตรี คือ ส.ส.บัญชีรายชื่อเบอร์ 1
ในการเจรจาต่อรองให้นายปานปรีย์เป็นหัวหน้าพรรค มีประเด็นเงื่อนไขตำแหน่งระดับสูงในรัฐบาลด้วย แต่ตกลงกันไม่ได้ ทำให้สุดท้ายนายปานปรีย์ไม่ขอรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
จากนั้นในการเลือกตั้งปี 2554 เพื่อไทยชนะเลือกตั้ง แล้วปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เป็นนายกฯ
ในปี 2556 รัฐบาลยิ่งลักษณ์เผชิญมรสุมคดีจำนำข้าว ทำให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
การเฟ้นหาผู้มาเป็นรัฐมนตรีแทน มีชื่อนายปานปรีย์ เป็นตัวเต็งด้วย แต่ในการหารือกัน เกิดเงื่อนไขต้องขอควบตำแหน่งระดับสูงในรัฐบาลด้วย สุดท้ายจึงไม่ลงตัว นายปานปรีย์ขอถอนตัว
ในการเลือกตั้งปี 2562 ภายใต้กติกาเลือกตั้งของ คสช. ทำให้พรรคเพื่อไทย ใช้ทฤษฎีแตกแบงก์พัน ตั้งพรรคไทยรักษาชาติขึ้นมาอีกพรรค โดยวางยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้ง ให้เพื่อไทยเน้น ส.ส.เขต ส่วนไทยรักษาชาติ เน้นปาร์ตี้ลิสต์
แรกเริ่ม ไทยรักษาชาติ มีนายปานปรีย์ เป็นคีย์แมนในสำคัญ มีข่าวว่าจะเป็นหัวหน้าพรรค แต่ก็อีกนั่นแหละ มีการต่อรองเงื่อนไข หัวหน้าพรรคจะต้องมีตำแหน่งระดับสูงในรัฐบาล รองจากนายกฯด้วย
พอตกลงกันไม่ได้ ก็ถอนตัวอีก จากนั้นไม่มีชื่อนายปานปรีย์อยู่ในพรรคไทยรักษาชาติอีกต่อไป
จนกระทั่ง ถึงการเลือกตั้ง 2566 ล่าสุด เมื่อเพื่อไทยเป็นรัฐบาล มีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ มีนายปานปรีย์มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับควบรองนายกฯ
แต่พอปรับ ครม.เศรษฐา 1/1 นายปานปรีย์สร้างปรากฏการณ์ลาออกกะทันหัน ทั้งที่เพิ่งมีโปรดเกล้าฯ
ด้วยเหตุผล เพราะโดนลดตำแหน่ง ไม่ได้ควบรองนายกฯ
นี่คือตำนานปานปรีย์กับพรรคเพื่อไทย ที่ต่อเนื่องมาหลายครั้ง ซึ่งหนนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วแน่ๆ
