พิชิต ปัดตอบคุณสมบัติ ขอเอาผลงานเป็นที่พิสูจน์ พร้อมลุยงานทันทีไม่ต้องเรียนรู้งาน

“พิชิต” ปัดตอบคุณสมบัติขัดรธน.หรือไม่ ให้ กกต. ป.ป.ช. ผู้ตรวจ ชี้ขาด รับคนเรามีอุบัติเหตุได้ ลั่นเป็นคนดีตั้งใจทำงาน ขอโอกาสพิสูจน์ตัวเอง ผุดโครงการ “ทำเนียบช่วยได้” เปิดศูนย์รับร้องเรียนอาชญากรรมทุกรูปแบบ ย้ำเป็นมือไม้ให้นายกฯ รันงานรัฐบาล ปลื้มกำกับสำนักพุทธฯ

เมื่อเวลา 13.15 น. วันที่ 7 พฤษภาคม นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงข่าวว่า วันนี้ตนปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นวันแรก ซึ่งจากการประชุม ครม.วันนี้ ได้มีมติมอบหมายงานสำคัญให้กับตนคือ เป็นผู้ตรวจร่างมติคณะรัฐมนตรี รวมถึง ดูเรื่องกฎหมายเสนอนายกรัฐมนตรี ก่อนนำเข้าสู่ ครม. นอกจากนี้ยังมีคำสั่งมอบหมาย ให้ตนดูแลรับผิดชอบสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ราชบัณฑิตยสถาน และองค์กรมหาชนที่พระนคร ถือเป็นหน้าที่ที่ตนจะต้องทำให้ดีที่สุด ยืนยันว่าตนรักประเทศชาติไม่น้อยกว่าคนอื่น ตนจะทำหน้าที่ให้บรรลุเป้าหมาย

นายพิชิตกล่าวต่อว่า ตนเคยอยู่ที่นี่มา 6-7 เดือนแล้ว ในฐานะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นตนไม่ใช่คนหน้าใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาตนอยู่ในที่ประชุม ครม.ตลอดไม่เคยขาดแม้แต่ครั้งเดียว รวมถึงการประชุม ครม.สัญจร ในจังหวัดต่างๆ ตนได้รับรู้นโยบายของรัฐบาล และความตั้งใจของนายกรัฐมนตรี ที่จะทำตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา ดังนั้น ตนไม่จำเป็นต้องเรียนรู้เรื่องงาน ขอให้สบายใจได้ สื่อจะเห็นว่า ตั้งแต่ตนอยู่มา ก็อยู่ด้วยความสงบเรียบร้อย ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน วันนี้แม้ตนจะเปลี่ยนตำแหน่ง แต่ก็ยังนั่งอยู่ที่ห้องทำงานชั้น 2 เหมือนเดิม

นายพิชิตกล่าวต่อว่า ยืนยันว่าที่ผ่านมาทำงานไม่เคยหยุด แม้ตนจะไม่ใช่นักกฎหมายแพ่ง อาญา แต่ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน และมีความรู้เรื่องรัฐธรรมนูญ กฎหมายพรรคการเมือง มีทีมงานช่วยตลอด และทำมาอย่างน้อย 6-7 ปี เพราะฉะนั้นกรอบงานของตนคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับกฎหมาย และขอให้คำสัญญาว่าจากที่สื่อเคยเจอตนแต่ที่ประตูด้านหลัง จากนี้ตนจะขึ้นประชุม ครม.ด้านหน้าตึกบัญชาการทุกครั้ง ถ้ามีอะไรคุยกันได้ทุกเรื่องแบบพี่น้องเพื่อสื่อสารให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน

Advertisement

นายพิชิตกล่าวต่อว่า วันนี้ตนจะ Kick Off Quick Win ในฐานะที่ตนรับผิดชอบ สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พลิกฟื้นศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชน ภายใน 30 วัน ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการ “ทำเนียบช่วยได้” เพราะทำเนียบต้องเป็นที่พึ่งของประชาชน โดยจะรับแจ้งเบาะแสอาชญากรรมทุกประเภท และตนพร้อมรับเรื่องเพื่อไปติดตามงาน ทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ ซึ่งจะนำผลมาแจ้งให้ประชาชนทราบ

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า ยืนยันว่าจากนี้ตนจะเริ่มสตาร์ทเครื่องได้เลยเพราะรู้ทันนโยบาย และข้อสั่งการของนายกฯ ในแต่ละเรื่อง ตนเก็บข้อมูลทุกอย่างทั้งเรื่องยาเสพติดและพนันออนไลน์ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ทำเนียบจะช่วยได้ ตนก็เปรียบเสมือนมือไม้ของนายกรัฐมนตรี แล้วจะเอาข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีมาทำเป็นโครงการ “ทำเนียบช่วยได้” ด้วยการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน

นายพิชิตกล่าวว่า นอกจากนี้ตนจะไปทำความเข้าใจกับทางสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) รวมถึงพระเถระชั้นผู้ใหญ่ และจะเดินทางไปรับทราบนโยบายจาก พศ.ทันที และต้องขอบคุณนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ได้ไปประชุม การจัดงานวันวิสาขบูชา และจัดงานวันวิสาขบูชาโลก

Advertisement

นายพิชิตยังกล่าวถึงกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีกับหน่วยงานต่างๆว่า “ชีวิตผม สิ่งที่ทุกฝ่ายตั้งข้อสงสัย ทุกคนมันมีอุบัติเหตุในชีวิตได้ 6-7 เดือนที่ผ่านมา สื่อให้พื้นที่ผมมาก ผมเคยอธิบายผ่านสื่อต่างๆ อย่างชัดแจ้ง ถ้าให้ความเป็นธรรมกับชีวิตผม ไปศึกษาเรื่องราวต่างๆ ให้ดีพอจะทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้น ถ้าผมเป็นคนไม่ดีอย่างที่มีการกล่าวหา คนที่ชื่อ พิชิต ชื่นบาน จะไม่เดินเข้าทำเนียบ ผมมั่นใจว่า 10 กว่าปีที่ผ่านมา หัวใจของผมมั่นใจว่าไม่ใช่คนผิด ไม่ใช่คนชั่วร้าย จึงทำให้ชีวิตผมยืนอยู่ได้ด้วยความรู้ความสามารถ ถ้าผมไม่มีความรู้ความสามารถคงไม่มีใครให้ผมมายืนได้ ผมทำงานกับนายกฯ มาหลายคน วันนี้ขอพูดจากใจ” โดยจังหวะนี้นายพิชิตได้ยกมือไหว้ต่อกล้องสื่อมวลชนและกล่าวว่า ขอโอกาสประชาชนให้ตนได้ทำงาน

นายพิชิตกล่าวว่า ประเด็นต่างๆ ตนเคารพฝ่ายที่ตั้งข้อสงสัยโดยเฉพาะการเมืองภาคประชาชนที่ไปยื่นเรื่องต่อองค์กรต่างๆ อาทิ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้รอฟังดุลยพินิจของแต่ละหน่วยงานจะว่าอย่างไรทุกอย่างให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย วันนี้ตนขอก้าวไปทำงานจากหัวใจที่ออกมาพูดโดยไม่มีสคริปต์ เมื่อถามอีกว่ากังวลหรือไม่ ที่มีการยื่นเรื่องต่อองค์กรต่างๆ จะไปกระทบถึงนายกฯที่เป็นคนเสนอแต่งตั้ง นายพิชิตกล่าวว่า ปล่อยให้หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายได้ใช้ดุลยพินิจดีกว่า เราอยู่กับปัจจุบัน ขอทำหน้าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ให้ดีที่สุด และไม่กระทบกับการทำงานเพราะตนมีสมาธิสูง เมื่อถามว่าหากถอดหมวกความเป็นนายพิชิตออกแล้วมองในฐานะนักกฎหมาย มองว่าสิ่งที่ถูกร้องมีความผิดหรือไม่ นายพิชิตตอบว่า ตนคิดไม่ได้เพราะมีส่วนได้เสีย รอให้หน่วยงานต่างๆ วินิจฉัยดีกว่า ตนไม่คิด ถ้าคิดก็เข้าข้างตัวเองจะไปคิดทำไม เราคิดอย่างเดียวถ้าไม่มีปัญญาอย่ามายืนอยู่ตรงนี้ เมื่อถามว่าหลังจากนี้ถ้ามีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องคุณสมบัติจะฟ้องร้องหรือไม่ นายพิชิตกล่าวว่า ขอปล่อยให้หน่วยงานที่ตรวจสอบอยู่ได้ทำหน้าที่ดีกว่า ตอนนี้ใจตนที่กำกับสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สิ่งที่ดีที่สุดคือการให้อภัย การอโหสิกรรม โมทนาบุญ เอาเป็นว่า ว่ากันได้เลย แต่ตอนนี้ต้องให้ความเป็นธรรม นับแต่วันนี้ขอให้ดูการทำงาน

เมื่อถามว่า หวั่นไหวหรือไม่ ที่มีคนมองกันว่าการเข้ารับตำแหน่งครั้งนี้เพราะมีความใกล้ชิด นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายพิชิตตอบว่า ตนยืนตรงนี้ได้เพราะความรู้ความสามารถ ทุกคนมีสิทธิคิด ถ้าตนไม่มีความรู้ความสามารถไม่มีใครให้ตนมายืนตรงนี้ เรื่องการบริหารราชการแผ่นดินไม่ใช่เรื่องเส้นสาย หรือเอาพวกเอาพ้อง และหน่วยงานที่ตนได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลถ้าไม่มีความรู้ตนไม่เข้ามาขอให้สบายใจได้

ถามอีกว่ามองหรือไม่ว่าจะเป็นสายล่อฟ้าของคณะรัฐมนตรี นายพิชิตกล่าวว่า ตนมองตัวเองว่าเป็น พิชิต ชื่นบาน ที่พร้อมพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงาน เมื่อถามว่าทำไมไม่ได้รับมอบหมายให้ดูสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นายพิชิตกล่าวว่า คิดว่างานที่ได้รับมอบหมายก็หนักพออยู่แล้ว และตนก็ทำงานประสานกับเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาได้อยู่แล้ว เมื่อถามอีกว่าก่อนหน้านี้รัฐบาลเคยเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ดูคุณสมบัติของนายพิชิต ในเรื่องข้อกฎหมายแต่ไม่ได้ดูเรื่องจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4)(5) นายพิชิตกล่าวว่า ตนคิดว่าเขาดูทั้งหมดการกระทำทางฝ่ายบริหารมีการดูหลายหน่วยงาน “แต่ผมมั่นใจ ในความเป็นพิชิต ชื่นบาน ผมเป็นคนดีและตั้งใจทำงานขอเอาผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์” เมื่อถามอีกว่ายืนยันได้หรือไม่ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ นายพิชิตกล่าวว่า

“อย่างที่บอก ถ้าคุณบอกว่าตัวเองเป็นคนดี อีกคนบอกว่าคุณเป็นคนไม่ดี แต่เพื่อนของคุณบอกว่าคุณเป็นคนดี อันนี้ถือเป็นเรื่องนามธรรม รักกันชอบกันมีฝักมีฝ่าย สมาธิผมสูง 6-7 ปีทำงานมาเยอะไปถามได้คนที่รู้จักผม ว่าผมเป็นคนอย่างไร ผมอยู่ในจุดที่พิสูจน์หัวใจของตัวเองมาแล้วว่าผมไม่หวั่นไหวแม้มีอะไรมาล่อใจจึงยืนได้อยู่ทุกวันนี้”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image