“ภูมิธรรม” เผย ไม่หนักใจดูกลาโหมเพิ่ม ปัดไม่เกี่ยวออกกฎหมายป้องปฏิวัติ เหตุดูความมั่นคงบางส่วนอยู่แล้ว เพราะ ’พิชัย-สุริยะ‘ ดู ’เศรษฐกิจ-คมนาคม‘ ก็หนักแล้ว เปรียบตัวเองเป็น รมต.เป็ด
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 7 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เรียกนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เข้าพบ โดยก่อนหน้านี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขึ้นตึกไปก่อน คาดว่าจะมีการหารือเรื่องการขายข้าวที่นายภูมิธรรมได้ลงพื้นที่เมื่อวานนี้ (6 พ.ค.)
โดยนายภูมิธรรมกล่าวถึงการแบ่งงานใหม่ที่ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลกระทรวงกลาโหมว่า นายกรัฐมนตรีดูภาพรวมใหญ่อยู่แล้ว ซึ่งในส่วนของตนที่ดูคณะกรรมการต่างๆ ก็มีความเกี่ยวพันอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม การแบ่งงานคงไม่ได้ระบุชัดเจนตามโครงสร้างหลักการว่าใครดูอะไรต้องดูแค่ส่วนนั้น แต่คิดว่าดูตามเงื่อนไขความพร้อมสถานการณ์ในขณะนั้น ซึ่งไม่ได้หนักใจอะไร เพราะในส่วนของกระทรวงกลาโหมผู้นำเหล่าทัพมีศักยภาพในการดูแลอยู่แล้ว เราเป็นนักบริหารก็ทำหน้าที่ประสานงานและสนับสนุนให้เกิดการแก้ปัญหาที่ดีขึ้น 
เมื่อถามว่า เหตุผลที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายงานในส่วนกลาโหมให้ดูแลเพราะเป็นนักการเมืองที่สามารถพูดคุยกับทหารได้ด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตรงนี้คงถามตนไม่ได้ ต้องถามท่านอื่นๆ แต่สำหรับตนเป็นคนที่ทำงานกับทุกคนได้ โดยใช้วิธีการทำงานที่รับฟังสิ่งต่างๆ และการมีส่วนร่วม ซึ่งการเป็นนักการเมือง รัฐมนตรี คือนักบริหารต้องดูแลได้ทุกกระทรวง เพราะเราไม่ใช่เป็นคนไปทำเองทั้งหมด แต่แค่รับฟังด้วยความเข้าใจและตัดสินใจไปในส่วนที่ควรจะเป็น จึงไม่น่าหนักใจอะไร หากได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ตรงนี้จริงๆ ก็จะทำให้ดีที่สุด
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีมีปัญหาอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่มี นายกรัฐมนตรีดูภาพรวมทั้งหมด ในส่วนของการแบ่งงานนายกรัฐมนตรีแบ่งทุกคนให้ดูเกือบทั้งหมดที่นายกรัฐมนตรีดู เพียงแต่ว่าเมื่อถึงเวลานายกรัฐมนตรีก็ลงมาตัดสินใจได้ไม่มีปัญหา การที่ทำทั้งหมดก็ทำภายใต้นายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า มีข้อสังเกตว่าการมอบหมายให้ดูกระทรวงกลาโหมเพื่อสกัดการรัฐประหาร นายภูมิธรรมหัวเราะก่อนตอบว่า “ผมโดนจี้ โดนอะไรไป แต่ตอนนี้คงไม่ต้องพูดเรื่องรัฐประหารแล้ว ขณะนี้เราเป็นรัฐบาลพลเรือนที่ทำงานกับทุกฝ่าย แล้วเชื่อว่าเราทำงานกับฝ่ายทหารได้ เชื่อว่าท่านก็รักประเทศชาติเหมือนกัน เราทำงานร่วมกันก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร“
เมื่อถามว่า หมายความว่าเชื่อว่าจะไม่มีการรัฐประหารเกิดขึ้นอีกใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เราไม่ใช่คนทำรัฐประหาร เราเป็นรัฐบาลที่ตั้งใจทำงานให้ประเทศ และรู้จักที่จะประสานงาน รับฟังภาคส่วนต่างๆ เราไม่เคยคิดที่จะเข้าไปล้วงลูกข้าราชการประจำ เพราะรัฐบาลเป็นคนกำกับเชิงนโยบายที่แถลงต่อสภา ดังนั้น ทุกอย่างเราจึงดำเนินการไปตามนั้น หากติดขัดอะไรก็คุยกัน ตนเชื่อว่าหากเรามีการบริหารแบบรู้จักที่จะพูดคุย ประสานงานทุกอย่างจะไม่มีปัญหา ซึ่งตนยึดหลักนี้มาตลอด
นายภูมิธรรมยังกล่าวอีกว่า การปรับเปลี่ยนรองนายกฯ 2 คน คือ นายพิชัย ชุณหวชิร ซึ่งดูงานด้านเศรษฐกิจก็หนักอยู่แล้ว ขณะที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ดูงานด้านคมนาคม ก็หนักเช่นกัน ที่เหลือตนก็ช่วยดูแลไป พร้อมเปรียบตัวเองเป็น “รัฐมนตรีเป็ด อาจจะเป็นเป็ดกองก็ได้ ซึ่งไม่หนักใจ เขาให้มาทำงาน มีงานให้ทำก็ทำ”
