เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวถึงท่าทีคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอให้มี ส.ว.มาจากสรรหาทั้งหมดในช่วงเปลี่ยนผ่าน 5 ปีว่า ไม่เห็นด้วยก็ไม่เห็นด้วย เรื่องของเขา บอกแล้วว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เป็นความคิดส่วนตัว ถ้า กรธ.เห็นด้วยก็ทำไป ถ้าไม่เห็นด้วยก็จบไป
“ผมเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญในอนาคต ถ้ามี ส.ว.สรรหาร่วมกับ ส.ส.ที่มาจากเลือกตั้งจะทำงานร่วมกัน พูดคุยกันมากขึ้น อนาคตประเทศก็เดินหน้าไปได้ หากมัวแต่ทะเลาะกันก็ไปไม่ได้ ต่อไปอาจจะมีแค่ ส.ว.สรรหาตลอดไปก็ได้ ถ้าไม่เห็นด้วยก็ใช้รัฐธรรมนูญต่อไป หากไม่เขียนลงไปก็ว่ากันไป แต่สิ่งที่ผมเสนอจะใส่ไว้ในบทเฉพาะกาลเพียงแค่ 5 ปีเท่านั้น” พล.อ.ประวิตรกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ว.สรรหาควรมีส่วนในการเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เลือกนายกฯไม่ได้ ไม่เกี่ยวกัน ที่เสนอคือให้ไปทำงานร่วมกัน ส.ว. และ ส.ส.มีอำนาจก็ค่อยไปว่ากัน ขอยืนยันว่า ส.ว.เข้าไปดำเนินการเรื่องปฏิรูป และเรื่องยุทธศาสตร์ 20 ปีให้สามารถเดินหน้าได้ พอทำได้แบบนี้ ส.ส.เลือกตั้งก็จะเข้าใจและทำงานร่วมกันได้ ทำให้ประเทศเดินหน้าไปข้างหน้าได้
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หมดอำนาจจะกลายสภาพไปเป็น ส.ว.สรรหาด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่แน่ ทำไมล่ะ มันผิดตรงไหนเพราะ คสช.เข้าใจเรื่องเหล่านี้ สามารถพูดกันได้ ไม่เห็นผิดเลย” เมื่อถามว่า จะกลายเป็นการสืบทอดอำนาจหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า อำนาจคืออะไร เพราะหากเข้าไปก็ไม่มีอำนาจ ไม่ได้มีอำนาจ แต่เข้าไปใช้ความคิด ส่วนคนที่เข้าไปบริหารประเทศคือคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส.ว.สรรหาไม่ได้อยู่ใน ครม. จะไปสืบทอดอำนาจได้อย่างไร
เมื่อถามว่า กฎกติกาจะกำหนดลักษณะนี้ชัดเจนหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ต้องดูว่า กรธ.เข้าใจหรือไม่ ซึ่ง กรธ.จะดำเนินการอย่างไรเป็นสิทธิ หากไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องทำและจบไป เมื่อถามว่า กรธ.จะต้องเกรงใจ คสช. พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ผมไม่ใช่ คสช.คนเดียว ข้อเสนอนี้ไม่ใช่มติของ คสช. เพราะผมเป็นเพียงรองหัวหน้า คสช.เท่านั้น”
