สถานีคิดเลขที่12 : ภาคต่อจากชิงหน.ปชป. : โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

เพียงแค่ 4 วัน หลังการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เสร็จสิ้นลง ศึกภายในพรรคก็ปะทุขึ้นต่อเนื่องตามมาทันที โดยจะเรียกว่าเป็นอาฟเตอร์ช็อกก็คงไม่ผิดนัก เพราะเป็นการเปิดหน้าชนของแกนนำทั้ง 2 ฟากจากศึกชิงหัวหน้าพรรคนั่นเอง

ตอนที่ประกาศผลการหยั่งเสียงชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้รับชัยชนะ ได้เป็นหัวหน้าพรรคต่อไป ภาพบรรยากาศในวันนั้นดูดีมีมิตรภาพเป็นอันมาก หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม กับ นายอลงกรณ์ พลบุตร 2 คู่ชิง ได้เข้ามาจับไม้จับมือกับนายอภิสิทธิ์ แสดงความยินดีอย่างสุดซึ้ง พร้อมกับประกาศจะเคียงข้าง ร่วมกันนำพรรคสู้สนามเลือกตั้งกันต่อไป

แต่เชื่อว่า ระดับแกนนำในประชาธิปัตย์เองล้วนรู้ดีว่านั่นคือภาพฉากหน้า

ยิ่งเห็นผลคะแนนที่นายอภิสิทธิ์เอาชนะหมอวรงค์ได้ราวหมื่นเสียง

Advertisement

ระหว่าง 6 หมื่นเศษ กับ 5 หมื่นเศษ

แปลว่าฐานเสียงของฝ่าย กปปส. ที่สนับสนุนหมอวรงค์เพื่อเข้ามากุมการนำพรรค และจะนำไปสู่ทิศทางสนับสนุนผู้นำ คสช.เป็นนายกฯในการเลือกตั้ง

ไม่ธรรมดาเลย

Advertisement

ส่อเค้าความยุ่งยากในพรรคนี้ให้เห็นกันล่วงหน้า เมื่อถึงเวลาต้องมาตัดสินว่าจะหนุนหรือไม่หนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

แน่นอนว่าลำพังหมอวรงค์ คงไม่สามารถขึ้นเวทีชิงกับนายอภิสิทธิ์ได้สูสีขนาดนี้

ต้องมี นายถาวร เสนเนียม และเห็นหน้าเทพเทือกไปพร้อมๆ กัน

จนกล่าวกันว่า ผลการเลือกหัวหน้าพรรค เท่ากับเป็นการเปิดฐานเสียงของฝ่ายเทพเทือก ซึ่งมีนายถาวรเป็นแม่ทัพ ให้ปรากฏชัดภายในประชาธิปัตย์

แถมทำให้เห็นด้วยว่า ศึกยกหน้าคงได้ประลองกำลังกันอย่างสูสีอีกแน่นอน

หมายถึงเมื่อถึงเวลาต้องตัดสินใจเรื่องจุดยืนจะหนุนใครเป็นนายกฯหลังเลือกตั้ง

แล้วฝ่ายที่เชียร์ คสช. จะไม่อยู่นิ่งเฉยแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น

แต่ไปๆ มาๆ ศึกยก 2 หรือภาคต่อจากการชิงหัวหน้าพรรคก็เปิดฉากขึ้นอย่างรวดเร็ว เพียงแค่ 4-5 วันหลังจากนั้น

เมื่อนายถาวรเปิดบ้านพักในสงขลา รับการมาเยือนของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่มาในฐานะแกนนำพรรค รปช. โดยเปิดรับในฐานะมิตรอันสนิทสนม มีการทำกิจกรรมรับสมาชิกพรรค เลี้ยงข้าวปลาอาหาร

หนักกว่านั้น นายสุเทพยังใช้พื้นที่บ้านนายถาวรเปิดปราศรัย ว่าจะเอาชนะประชาธิปัตย์ในภาคใต้ แถมจี้ลงไปที่เขตของ นายศิริโชค โสภา ในพื้นที่สงขลา ตรงๆ อีกด้วย

ทำไมต้องเน้นๆ ที่วอลเปเปอร์หัวหน้าพรรค

อย่างนี้ก็ควันออกหู

นายอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคยืนยันต้องตั้งกรรมการสอบสวนนายถาวร ว่าได้กระทำขัดต่อข้อบังคับพรรคในฐานะสมาชิกพรรคหรือไม่ ทั้งนี้ หากพบว่าทำผิดวินัย ก็ต้องพิจารณาตามบทบัญญัติที่กำหนดในข้อบังคับพรรค

ศึกยกนี้ถือว่าดุเดือดเลือดพล่านมากๆ

ทั้งน่าสังเกตว่า ฝ่ายนายสุเทพดูจะมีเจตนาจุดชนวนขึ้นมาอย่างโจ่งแจ้ง เล่นเดินเข้าบ้านนายถาวร ซึ่งเป็นที่ตั้งสาขาพรรคประชาธิปัตย์ด้วยซ้ำ แล้วปราศรัยพุ่งเป้าใส่ประชาธิปัตย์โดยตรง

ลงเอยจะเป็นอย่างไร น่าสนใจมากๆ

ว่ากันว่า ทั้งหมดนี้เพราะมีการโดดเข้าไปพัวพันกับเกมชิงอำนาจตั้งแต่เมื่อปลายปี 2556 จนนำมาสู่การล้มประชาธิปไตยในปี 2557

เรื่องก็เลยไม่จบมาจนถึงศึกชิงอำนาจรัฐในการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น

ถ้าเดินกันตามครรลองของพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตยปกติ ก็คงไม่มีเรื่องผิดปกติขนาดนี้

สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image