ปริญญา จี้กกต.แก้ระเบียบเลือกส.ว. ซัดไม่ใช่เลือกพนง.บริษัท ประชาชนต้องมีส่วนร่วม

ปริญญา จี้กกต.แก้ระเบียบเลือกส.ว. ซัดไม่ใช่เลือกพนง.บริษัท ประชาชนต้องมีส่วนร่วม

เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 9 พฤษภาคม ที่ทำการชั่วคราวสมาคมนักข่าวฯ อาคารบางชื่อจังชั่น (ตึกแดง) ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสมาชิกวุฒิสภาที่จะหมดวาระในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ว่า ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาถือว่าผลงานนั้นเข้าเป้าของ คสช. เพราะ คสช.เป็นคนเลือกเข้ามา

แต่ในแง่ของประชาชนอาจจะมีการตั้งคำถามขึ้นมามากหน่อย เพราะไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน โดยการเลือกสว.ที่ผ่านมาในฝ่ายของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประชาชนจะต้องเป็นคนให้คะแนนว่าเป็นอย่างไรบ้าง ขณะเดียวกันปฏิเสธไม่ได้ว่าสมาชิกวุฒิสภาชุดนี้ถือว่าเป็นการสืบทอดอำนาจของ คสช.

สำหรับกระบวนการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่ครั้งนี้ถือว่าซับซ้อนที่สุดในโลกและไม่แน่ใจว่าจะบรรลุเป้าหมาย ในการได้ผู้แทนปวงชนอย่างแท้จริงหรือไม่ โดยซับซ้อนตั้งแต่ตัวระบบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังออกกฎระเบียบที่ห้ามการแนะนำตัว ยิ่งจะเป็นการสร้างปัญหา ซึ่งหากยังไม่ได้ สว.ชุดใหม่ สว.ชุดเดิมก็จะรักษากันไปจนกว่าจะได้ชุดใหม่เข้ามา

Advertisement

ซึ่ง กกต. ก็ระบุชัดเจนว่าจะมีการประกาศสว.ชุดใหม่ภายในวันที่ 2 กรกฎาคม แต่ปัญหาก็คือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ เปิดช่องให้ผู้สมัครทุกคนมีสิทธิ์ร้องคัดค้านได้หากเห็นว่าการเลือกไม่ชอบมาพากล โดยหากมีผู้สมัครเป็นแสนคน ซึ่งแตกต่างจาก สส. ที่มีการสมัครแค่ 6,000 กว่าคน ดังนั้นหากมีการคัดค้าน จะทำให้การเลือกสว.ได้ประกาศผลตามที่วางไว้หรือไม่ ดังนั้นในวันนี้ตนเองจึงเห็นว่ากกต.ควรจะมีการแก้ไขระเบียบ และประกาศใช้พร้อมกับพระราชกฤษฎีกา สว. ที่ยังไม่ได้ออกมา

ขณะเดียวกัน เห็นว่าการเลือกข้ามกลุ่มอาชีพ ในระดับอำเภอ ระดับจังหวัดและระดับประเทศ จะมีการรู้จักกันได้อย่างไร หากมีการห้ามแนะนำตัว เมื่อขั้นตอนเป็นเช่นนี้คนที่ได้รับเลือกคงเป็นคนที่มีการจัดตั้ง มีการระดมคนหรือมีบ้านใหญ่ รวมถึงมีเครือข่าย ส่วนผู้สมัครอิสระที่ไม่รู้จักใครหรือมีพวกพ้องก็จะลำบากมาก ดังนั้นการยิ่งจำกัดการแนะนำตัวมากเท่าไหร่คนที่ไม่ต้องแนะนำตัวมีโอกาสได้เป็นมากขึ้นเท่านั้น

พร้อมยังเห็นว่าการเลือก สว.การเลือกผู้แทนปวงชนชาวไทย ไม่ได้เป็นการคัดเลือกบุคคลเข้าสู่สำนักงานหรือบริษัทของใครจึงควรทำให้สาธารณะชนได้มีส่วนร่วมในระดับที่เหมาะสม เพราะตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญกำหนดแล้วว่าถ้าใคร ต้องการเลือก สว.ต้องสมัคร สว. พร้อมค่าสมัคร 2,500 บาท โดยประเด็นนี้ก็เท่ากับเป็นการกันคนส่วนใหญ่ออกไป

Advertisement

ผศ.ดร.ปริญญา กล่าวว่า การที่ กกต. มีท่าทีว่าคนที่มาชักชวนให้สมัครส.ว. มีท่าทีที่ผิดกฎหมายอีก ในเรื่องนี้ส่วนตัวมองว่าไม่จริง เพราะตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าการจูงใจให้เลือก สว.จับผิดก็ต่อเมื่อให้ผลประโยชน์ หรือให้ทรัพย์สินตอบแทนเพื่อจูงใจ ดังนั้นถ้าไม่ได้จงใจด้วยทรัพย์สินตอบแทนก็ถือว่าไม่มีความผิด และในทางกลับกันมองว่าเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำถ้าประชาชน เป็นผู้สมัครอิสระจำนวนมาก ก็จะได้ สว.ที่เป็นผู้แทนอิสระ และเป็นตัวแทนประชาชนชาวไทยมากขึ้น

ผศ.ดร.ปริญญา กล่าวว่า ยังไม่เห็นช่องให้ประชาชนและสื่อมวลชนเข้าเป็นผู้สังเกตการณ์เนื่องจากกกต.ยังไม่ประกาศ แต่ตามกฏหมายประกอบรัฐธรรมนูญไม่ได้ห้ามผู้สังเกตการณ์และสื่อมวลชนดังนั้น กกต.ควรอนุญาตให้มีผู้สังเกตการณ์จากสื่อมวลชนและประชาชน เพื่อให้การเลือกส.ว. มีปัญหาน้อยสุด มีความโปร่งใสสาธารณะชนตรวจสอบได้ ตั้งแต่ในระดับอำเภอจนถึงระดับประเทศ และเรื่องนี้ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นเพราะหากไม่โปร่งใสในขั้นตอนข้อร้องเรียนก็จะมาก และจะประกาศผลในวันที่ 2 กรกฎาคมไม่ได้ และ สว.ชุดนี้ก็จะอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ใช่เป็นเรื่องรังเกียจ สว.ชุดนี้แต่เมื่อหมดวาระก็ต้องพ้นหน้าที่ และให้ชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่

“ยิ่งจำกัดการแนะนำตัวให้ยากเท่าไหร่ คนที่ไม่ต้องแนะนำตัวก็ได้เป็นและจะมีโอกาสมากเท่านั้น แม้จะมีบัญญัติในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าห้ามให้ทรัพย์สินจูงใจ ดังนั้นจึงตั้งคำถามว่าแล้ว กกต.จะไปตรวจสอบอย่างไรหรือควบคุมอย่างไรถ้าเขามีการชักชวนกันและให้ประโยชน์กัน อันนี้ถือว่าเป็นปัญหามาก ยิ่งไปจำกัดการแนะนำคนทั่วไปหรือผู้สมัครอิสระก็มีโอกาสน้อย เช่นในรอบแรกทุกคนมี 2 คะแนน หนึ่งคะแนนเลือกตนเองอีกหนึ่งคะแนนเลือกคนอื่น แต่อาจจะมีคนเลือกคนอื่นสองคะแนนตั้งแต่รอบแรกเพราะไม่มีข้อห้าม” ผศ.ดร.ปริญญา กล่าว

ผศ.ดร.ปริญญา กล่าวว่า การออกระเบียบของ กกต. ไม่ได้ฟังใครหรือถามใคร ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องมีการประชุม กกต.เพื่อออกระเบียบใหม่ได้ โดยข้อไหนที่สังคมทักท้วงก็ปรับแก้และประกาศพร้อมกับพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภาไปได้เลย โดยเฉพาะระเบียบการแนะนำตัวด้วยเอกสารในวันเลือก เพราะคนที่สมัครการจะรู้จักกันข้ามกลุ่มอำเภอข้ามกลุ่มอาชีพได้อย่างไร ดังนั้น กกต.จึงต้องหาวิธีการเพื่อให้ได้รู้จักกัน

ผศ.ดร.ปริญา กล่าวอีกว่า ส.ว.ชุดใหม่ถือว่ามีอิทธิพลต่อการเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ เพราะที่ผ่านมามีการตั้งคำถามว่า องค์กรอิสระมีความเป็นอิสระจริงแค่ไหน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image