‘ซะการีย์ยา’ ลงชิง ส.ว. หวังเปลี่ยนแปลง

‘ซะการีย์ยา’ลงชิง ส.ว. หวังเปลี่ยนแปลง
ซะการีย์ยา อมตยา

ซะการีย์ยา อมตย
กวีและนักเขียนชื่อดัง เจ้าของรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมซีไรต์ของไทยปี 2553

ในฐานะนักเขียนที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี ไม่เคยคิดว่าจะลงการเมือง แต่ครั้งนี้มันเหมือนเป็นการปลดล็อกอะไรบางอย่าง ที่มีการเปิดรับกลุ่มผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม กับสื่อสารมวลชน เรามีสถานะนี้อยู่แล้ว พร้อมกับความสนใจการเมือง ทำกิจกรรมรณรงค์ทางสังคมมาก่อน เพียงแค่ไม่ได้หวังว่าจะเป็นผู้เล่นทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎร (ส.ส.) หรือ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จนเกิดจุดเปลี่ยนสำคัญที่คิดได้ว่า 10 ปีที่ผ่านมา สังคมเราไม่เดินไปไหน เพราะติดอยู่ตรงที่ ส.ว.ผนวกกับเงื่อนไขที่คนรุ่นใหม่ ยังไม่สามารถเข้าร่วมกระบวนการนี้ได้ แม้จะมีความคิดและการทำงานทางการเมืองที่ดี แต่พวกเขาอายุยังไม่ถึงที่ระบุไว้ตามกฎหมาย ทำให้รู้สึกว่าเราอยากจะเข้าไปช่วย

ตัวเราเองพอจะมีชื่อเสียงและความเชี่ยวชาญ ในสายงานอาชีพของตัวเอง เริ่มทำงานเขียนมาตั้งแต่แรกเริ่ม มุ่งมั่นกับการทำงานในสายนี้มาตลอด อยากจะอาสาเอาตัวเองเข้าไปสร้างการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง คืนอำนาจให้แก่ประชาชนที่ไม่เคยมีอำนาจ เป็นกระบอกให้เสียงกับประชาชน ที่ไม่เคยมีเสียงในการกำหนดชะตากรรมทางการเมืองของตนเอง รวมถึงความตั้งใจในการฟื้นฟูประชาธิปไตย ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ปรับโครงสร้างทางการเมืองสู่การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ให้ตัวแทนของประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมในกระบวนการเจรจาสันติภาพ คืนกลไกทางรัฐสภาสู่สภาพปกติที่ควรเป็นตามครรลองประชาธิปไตย และองค์กรอิสระต้องมีความเป็นอิสระ ที่ผ่านกระบวนการประชาธิปไตย

ช่วงที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ร่วมขับเคลื่อนสังคมผ่านผลงานกวีมากมาย อาทิ อ่านบทกวีที่หมุดคณะราษฎร ทุกวันที่ 24 มิถุนายน ยามย่ำรุ่ง ที่เรากับเพื่อนไปกันเป็นประจำทุกปี จนในที่สุดหมุดคณะราษฎรก็หายไป และรณรงค์เรียกร้องความยุติธรรมให้กับนายอำพลตั้งนพกุล หรืออากง เรียกได้ว่าถ้ามีเหตุการณ์เรียกร้องทางการเมืองที่กรุงเทพฯจะเข้าไปร่วมอ่านบทกวี ลุกขึ้นมาตั้งคำถามประเด็นทางสังคมต่างๆ อีกทั้ง ช่วง 7-8 ปีที่แล้ว ผมมีโอกาสได้กลับมาอยู่บ้านจ.นราธิวาส ได้เริ่มขับเคลื่อนประเด็นเรื่อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ผ่านบทกวี เช่น คดีตากใบ และประเด็นความรุนแรงต่างๆ การลงสมัคร ส.ว.ครั้งนี้ เรียกได้ว่าถึงเวลาที่จะออกจากเซฟโซน (Safe zone) เราเพียงแค่อยากลองดูสักตั้ง แพ้หรือชนะก็ไม่ว่ากัน แต่อย่างน้อยก็ได้พยายาม

Advertisement

ส่วนการตัดสินใจลงสมัคร ส.ว.กลุ่มสร้างสรรค์วรรณกรรม พื้นที่ จ.นราธิวาส ผ่านการไตร่ตรองและปรึกษาครอบครัว ผองเพื่อน ครั้งนี้คิดว่าต้องลงสมัครมีความจำเป็น เพราะ ส.ว.ชุดใหม่ 200 คน จะเป็นตัวที่จะทำให้เกิดสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เกิดการทำประชามติ และกำหนดผู้ที่จะเข้ามาเป็นองค์กรอิสระ ยกเว้นอย่างเดียวคือ การโหวตนายกรัฐมนตรี นอกนั้นเหมือนเดิมทุกอย่าง โดย ส.ว.ชุดใหม่ที่กำลังจะเข้ามา ยังคงมีอำนาจบางอย่างอยู่ตามกลไกอำนาจของรัฐ หาก ส.ว.มีชุดความคิดที่จะส่งเสริมประชาธิปไตย ร่วมกันผลักดันเพื่อที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ จะต้องเข้าไปในฐานะของนักการเมืองอิสระโดยที่ไม่ถูกควบคุม รวมถึงประเด็นเรื่องการฟื้นฟูประชาธิปไตย เป็นเรื่องที่จะเข้าไปร่วมผลักดัน ยังมีประเด็นด้านสันติภาพของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ควรที่จะถูกยกขึ้นเป็นประเด็นระดับประเทศ ถ้าได้เข้าไปมีส่วนร่วมตรงนั้นจะร่วมผลักดัน

จากกติกาการเลือก ส.ว.ที่ออกมา ส่วนตัวก็ไม่ได้เห็นด้วย แต่อีกด้านหนึ่งมองเห็นถึงโอกาสที่น่าจะเป็นได้สำหรับการได้มาเข้าร่วม เพราะไม่ได้มีบารมีทางการเมือง หรือเส้นสายใดทั้งสิ้น และยิ่งหากคนเข้ามาสมัครมากขึ้นจะยิ่งดี เพราะเป็นการเพิ่มโอกาสการส่งตัวแทนของนักเขียน และนักกวีได้เข้าไปทำงาน อยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเลือก ส.ว.มากกว่านี้ไม่ต้องมีค่าสมัคร 2,500 บาท หากผมได้เข้าไปเป็น ส.ว.แล้วการเลือกครั้งต่อมา ประชาชนมีมติว่าไม่อยากให้มี ส.ว.แล้ว อยากให้เหลือเพียงสภาเดียว ยินดีให้เป็นสภาเดียวตามเสียงประชาชน ต้องมองว่าประชาชนเขาคิดอย่างไร ถ้าถึงตอนนั้นประชาชนเขาไม่เอาแล้ว ผมจะเสนอยุบตัวเองเหมือนกัน

ครั้งนี้ ทันทีที่ประกาศระเบียบการเลือก ส.ว.ออกมากีดกันประชาชนจำนวนหลายล้านคน พร้อมทั้งเป็นการพรากสิทธิของประชาชนหลายคน ควรที่จะคืนสิทธิเหล่านี้ให้ประชาชน และควรร่างกติกาใหม่ที่สร้างความเสมอภาคให้กับทุกคน ที่จะลงสมัครกันได้อย่างง่าย ไม่ต้องจ่ายถึง 2,500 บาท เพื่อให้ทุกคนที่เข้าเกณฑ์มีสิทธิที่จะเข้าไปเลือก มันก็จะกลายเป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง อีกทั้ง หากประชาชนร่วมกันลงสมัครจำนวนมาก จะมีการเลือกจากตัวแทนของประชาชนกันมากขึ้น เช่น ถ้านักเขียนทั่วประเทศลงมา 200 คนอาจจะถูกคัดออก จนอาจจะไม่เหลือตัวแทนของนักเขียนเข้าไปดำรงตำแหน่งเลย เพราะสุดท้ายแล้วเขาไม่ได้แบ่งโควต้าเข้าไปทำงานตามอาชีพ เวลาปัจจุบันเหมือนช่วงเวลาแห่งความหวัง ของผู้สมัครที่อยากเปลี่ยนแปลงประเทศ ถือว่าเป็นจุดคอขวดทางการเมือง

Advertisement

ตอนนี้จึงเป็นโอกาสเดียวของประชาชน ที่จะลงมือเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงตรงนี้ ดังนั้น ต้องได้ ส.ว.ที่มีอุดมการณ์ทางประชาธิปไตย ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image