เพิ่มอีก 2 ราย เชียงใหม่ตรวจพบผู้ป่วยโควิด-19 เชื่อมโยงกับผู้ป่วยรายที่ 50 ของเชียงใหม่ ย้ำใครไปช่วง 31 ธ.ค.63-3 ม.ค.64 ถือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เข้ารับการตรวจด่วน
เมื่อวันที่ 6 มกราคม ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ นพ.กิตติพันธุ์ ฉลอม ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยความคืบหน้าจากการตรวจหาเชื้อในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกรณีหญิงสาวอายุ 25 ปี ติดเชื้อโควิด-19 และเข้าไปใช้บริการร้านวอร์มอัพ คาเฟ่ จำนวน 320 ราย ผลเป็นลบ 317 ราย และมีผลบวก 2 ราย ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ตรวจไปแล้ว 315 ราย ผลเป็นลบทั้งหมด ซึ่งในวันนี้ได้มีการตรวจกลุ่มเสี่ยงเพิ่มเติม โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางไปในร้านวอร์มอัพในระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2564 จำนวน 267 ราย อยู่ระหว่างรอผล
“สำหรับวันนี้พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 2 ราย คือรายที่ 52 ของจังหวัดเชียงใหม่ พบเป็นหญิงไทย อายุ 50 ปี ภูมิลำเนา อ.เมืองเชียงใหม่ มีประวัติวันที่ 4 มกราคม เริ่มมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว ไอ ไม่มีน้ำมูก การได้กลิ่นและรับรสปกติ เป็นผู้สัมผัสร่วมบ้านของผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 50 จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนรายที่ 53 ของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นหญิงไทย อายุ 37 ปี ภูมิลำเนา อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ วันที่ 3 มกราคม เริ่มมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว ไอ ไม่มีน้ำมูก การได้กลิ่นและรับรสปกติ ประวัติเดินทางไปในร้านวอร์มอัพ คาเฟ่ ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2563”
นพ.กิตติพันธุ์กล่าวอีกว่า สำหรับไทม์ไลน์ของผู้ป่วยจะพบว่า ผู้ติดเชื้อทุกรายมีการเชื่อมโยงกับผู้ป่วยรายก่อนหน้านี้ ซึ่งจะพบว่าการระบาดเกิดขึ้นในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ในสถานบันเทิง ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดได้มีมาตรการให้ปิดสถานบริการ หรือสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ทุกแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นระยะเวลา 14 วัน เพื่อป้องกันมิให้มีการแพร่ระบาดต่อเนื่องไปยังสถานที่อื่นๆ รวมถึงในชุมชน
ทั้งนี้ประชาชนที่ได้เดินทางไปยังร้านวอร์มอัพ คาเฟ่ ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2563-3 มกราคม 2564 ซึ่งถือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง สามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ ณ รถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน ที่หน้าร้านวอร์มอัพ คาเฟ่ ในวันพรุ่งนี้ (7 ม.ค.64) ช่วงเวลา 10.00-14.00 น. โดยผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงจะต้องกักกันตนเอง แสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่เพื่อเข้ารับการตรวจ และให้ประวัติที่เป็นจริง เพื่อมิให้มีการระบาดเพิ่มเติมไปยังสถานที่อื่นๆ
“สำหรับผู้ที่เดินทางไปยังสถานที่อื่นๆ ตามไทม์ไลน์ของผู้ป่วย รวมถึงผู้ป่วยรายล่าสุดของ จ.ลำพูน ซึ่งยังไม่พบว่ามีการแพร่ระบาดของเชื้อในสถานที่เหล่านั้น ขอให้ท่านสังเกตอาการผิดปกติ หากท่านมีอาการผิดปกติ ขอให้ท่านพบแพทย์ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน พร้อมทั้งแจ้งประวัติเสี่ยงเพื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต่อไป”
นพ.กิตติพันธุ์กล่าวว่า คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีการระบาดเพิ่มเติมในพื้นที่อื่น อาจมีความจำเป็นต้องพิจารณาการยกระดับมาตรการเพิ่มขึ้น จึงขอเน้นย้ำให้ท่านดำเนินมาตรการตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ได้มีคำสั่ง และประกาศออกไปอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติ และสามารถดำเนินชีวิตโดยปกติโดยเร็ว
