ศพ ‘ตุ้ม’ คนขับ BMW ถึงบึงกาฬแล้ว พี่ชายแจง ‘พริตตี้’ ความชอบส่วนตัวผู้ตาย ย้ำไม่ได้รวยร้อยล้าน

จากกรณี นายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง หรือตุ้ม อายุ 50 ปี ชาว จ.บึงกาฬ อดีตแกนนำกลุ่มเสรีปัญญาชน และอดีตโปรแกรมเมอร์ คนขับรถสปอร์ตหรู ยี่ห้อ BMW รุ่น Z4 เสียหลักข้ามเกาะชนกับรถยนต์ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสวิฟต์ ทำให้อุบัติเหตุดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต รวม 3 ราย คือ น.ส.กรกฎ หิรัญ น.ส.วรรณกานต์ วรรณกายนต์ และนายสุรภักดิ์ บาดเจ็บ 1 รายคือ น.ส.เมษสวรรค์ แทนรัตน์ เหตุเกิดบนทางหลวงหมายเลข 21 สายสระบุรี-หล่มสัก บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 180-181 หมู่ 7 ต.ห้วยโป่ง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ฝั่งขาเข้า จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ญาติๆ ได้นำร่างนายสุรภักดิ์กลับถึงบ้านเกิดที่ จ.บึงกาฬ แล้ว ท่ามกลางความโศกเศร้า โดย นายภูริทัต ภูร์ชัยแสง อายุ 58 ปี พี่ชายนายสุรภักดิ์ ได้ตำหนิสื่อบางแห่งที่ให้ร้ายน้องชายที่ไม่รับผิดชอบหน้าที่คนขับ ทำเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วานนี้ (14 มิ.ย.) รถสมาคมอาสาสมัครร่วมกตัญญูเพชรบูรณ์นำร่างของนายสุรภักดิ์กลับถึงบ้านเกิด จ.บึงกาฬ ท่ามกลางความเสียใจของแม่ พี่ๆ และญาติๆ ซึ่งกำหนดเดิมนั้นทางหน่วยกู้ภัย อำเภอหนองไผ่ จะนำร่างส่งถึงบ้านเกิดที่หมู่ 2 บ้านนาสวรรค์ ต.นาสวรรค์ อ.เมืองบึงกาฬ ในเวลา 18.00 น. แต่เนื่องจากระยะทางไกล จากเพชรบูรณ์มาถึงบึงกาฬเกือบ 600 กิโลเมตร ประกอบกับเป็นฤดูฝน จึงไม่สามารถวิ่งมาตามกำหนดได้

เมื่อร่างนายสุรภักดิ์มาถึงหน้าบ้าน มีนางจรูญรักษ์ พินาธุวงค์ อายุ 52 ปี พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ซึ่งเป็นพี่สาวได้นำดอกไม้ธูปเทียนมาเชิญร่างไร้วิญญาณเข้าบ้าน ซึ่งอยู่ในอาการร้องไห้เสียใจ ส่วนนางแต้ม ภูมิไชยแสง อายุ 77 ปี ผู้เป็นแม่ ถูกหลานๆ พาไปอยู่ในอีกห้อง เพื่อไม่อยากให้เห็นภาพสะเทือนใจ กลัวทำใจไม่ได้ ซึ่งทั้ง 2 แม่ลูกรักกันมาก ครั้งหนึ่งเคยต่อสู้เรื่องอุดมการณ์มาด้วยกัน เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่งจึงนำตัวออกมาดูศพลูกชายโดยต้องมีหลานๆ คอยพยุงตัวตลอด เพราะปกติเดินไม่ได้ ต้องนั่งรถลเข็นอยู่แล้ว และขอเปิดดูสภาพด้านใน แต่มีญาติห้ามไว้ เพราะเจ้าหน้าที่ รพ.หนองไผ่ ใช้ถุงห่อศพซีลมาอย่างดีแล้ว

Advertisement

ขณะที่นายภูริทัต ภูร์ชัยแสง ผอ.ร.ร.บ้านท่าสะอาด อ.เซกา พี่ชายนายสุรภักดิ์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว โดยกล่าวตำหนิที่มีสื่อวิจารณ์น้องชายว่าเป็นคนไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ เพราะขณะขับรถมีความคึกคะนองจนเกิดความประมาทอย่างร้ายแรง ขับรถเร็วโดยไม่คำนึงถึงเพื่อนร่วมทาง ทำให้เกิดอุบัติเหตุ และมีผู้เสียชีวิตรวมทั้งตัวเองด้วยในครั้งนี้

นายภูริทัตกล่าวว่า ซึ่งปกติแล้วคนขับไม่มีใครอยากจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะอนาคตก็ยังมี ส่วนการไลฟ์สดของเพื่อนสาวที่เดินทางไปด้วยนั้น ก็เป็นการไลฟ์สดแต่ช่วงเช้า ซึ่งบรรยากาศบนภูเขามีเมฆหมอกและเมฆฝน 2 ข้างทาง แต่ช่วงเวลาเกิดเหตุ ซึ่งเป็นเวลาที่ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงแล้ว และกำลังจะเข้าตัวอำเภอหนองไผ่ เป็นช่วงเวลาบ่าย 2 ถนนก็เป็นทางตรง แต่สภาพถนนไม่ดี ประกอบกับมีฝนตกน้ำขังทำให้รถเสียหลักข้ามถนนไปชนคู่กรณีถึงแก่ชีวิตทั้ง 2 ราย

นายภูริทัตกล่าวอีกว่า ทั้ง 2 รายนั้นญาติๆ ได้มารับศพออกจากโรงพยาบาลพร้อมๆ กัน ตนได้กล่าวแสดงความเสียใจ และต้องขอโทษทางญาติๆ ผู้เสียชีวิตทั้งสองด้วย เนื่องจากเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ญาติของทั้ง 2 คนนั้นก็ยอมรับว่าอาจเป็นกรรมเวรซึ่งกันและกันที่บังเอิญได้มาบรรจบพบกันอยู่จุดนี้ และก็ได้แจ้งกับตนว่าไม่ต้องห่วงเรื่องการดำเนินการค่าใช้จ่าย ทางญาติฝ่ายนั้นจะได้ดำเนินการออกไปก่อน ซึ่งตนก็แสดงความรับผิดชอบไปบางส่วนโดยได้มอบเงินช่วยค่าทำศพไปเบื้องต้นแล้ว ส่วนผลประโยชน์ของน้องทั้งสองคน ตนก็จะดำเนินการกับบริษัทประกันภัยให้กับญาติน้องทั้งสองคนควรจะได้รับ ซึ่งยังไม่รู้ว่าน้องชายได้ทำประกันไว้กับบริษัทไหน ขอเวลาค้นหาเอกสาร

Advertisement

“ส่วนที่มีสื่อบางสำนักกล่าวหาว่าน้องชายที่ขับ BMW เป็นลูกคุณหนู พ่อแม่เลี้ยงดูมาอย่างสบายนั้น ไม่เป็นความจริง โดยครอบครัวของพวกเรา ส่วนมากน้องๆ รวมทั้งตัวเองด้วยก็จะรับราชการทั้งหมด ยกเว้นน้องชายผู้ตายที่ทำงานอิสระ เป็นโปรแกรมเมอร์ รับออกแบบวางระบบการทำงานให้กับบริษัทห้างร้านหรือหน่วยงานราชการต่างๆ ที่มาจ้าง

“หลังจากรับเงินค่าแรงแล้วก็มักจะกินเที่ยวไปตามประสาคนหนุ่มที่ไม่มีภรรยา ไม่มีครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ แต่ยอมรับว่าผู้ตายใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย ไม่คิดหน้าคิดหลัง มีเท่าไหร่ก็ใช้ บางทีเงินหมดก็ต้องมายืมพี่ๆ ที่บึงกาฬไปใช้ เมื่อทำงานได้เงินก็ส่งคืนมาใช้ ซึ่งตัวเขาก็รับผิดชอบตัวเองได้ดี เป็นคนรักครอบครัว รักแม่ และก็หลานๆ ซึ่งเขารับผิดชอบส่งเสียให้เรียนเพื่อจะได้ทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์เหมือนเขา

“ส่วนการชอบพอสาวๆ พริตตี้นั้นก็เป็นความชอบส่วนตัวของเขาเอง ซึ่งเขาคิดว่าเขาไม่มีภาระ เมื่อมีเงินก็ใช้จ่ายไป ซื้อหาความสุขตัวเองไปเรื่อยๆ ครอบครัวก็ไม่ได้มีเงินทองอะไรมากมายเหมือนที่หลายสื่อนำเสนอไปแล้วว่าเศรษฐี มีเงินร้อยล้าน อย่างที่บอกว่าเป็นครอบครัวข้าราชการ ไม่ถึงกับว่าจนหรือไม่ถึงกับว่ารวย ก็พอมีกินมีใช้ไปเป็นเดือนๆ เท่านั้น” นายภูริทัตกล่าว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายภูริทัตกล่าวว่า ส่วนอดีตของน้องชายนั้นเป็นเด็กบ้านนอก เมื่อเดินทางเข้าไปอยู่ในกรุงเทพฯก็ต้องดิ้นรนต่อสู้ทุกอย่าง ทั้งการเรียน จบมาก็หาการงานหาการเงิน ในช่วงชีวิตหนึ่งก็ได้ไปร่วมในกลุ่มคนเสื้อแดง และได้พาแม่คือ นางแต้ม ภูมิไชยแสง อายุ 77 ปี ไปร่วมเดินขบวนด้วยบางครั้ง เพราะเขาเป็นคนมีอุดมการณ์สูง จนถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดในมาตรา 112 เมื่อปี 2553 ซึ่งได้ต่อสู้ความจริงเรื่อยมาว่าถูกกล่าวหาใส่ร้าย ไม่เป็นความจริงตามที่กล่าวหา ถึงทำให้ศาลได้เห็นข้อเท็จจริงและเมตตาตัดสินยกฟ้องทั้ง 3 ศาล ทั้งนี้ ทรัพย์สินทุกอย่างที่มีอยู่ ทั้งคอมพิวเตอร์และโต๊ะที่ทำงาน เครื่องทำมาหากินก็ถูกเจ้าหน้าที่ยึดไปหมด

นายภูริทัตกล่าวว่า เมื่อออกมาจากคุกเป็นอิสระ จึงได้เริ่มประกอบสัมมาอาชีพที่ตนถนัด เป็นโปรแกรมเมอร์ ในการสร้างฐานะตัวเองเรื่อยมาจนมีเงินพอกินพอใช้ ซึ่งก็มีความตั้งใจว่าประมาณเดือนตุลาคมปีนี้จะสร้างบ้านหลังใหม่ให้แม่ที่บึงกาฬได้อยู่อย่างสบาย ซึ่งบ้านที่อยู่ปัจจุบันนี้ แม่ได้อาศัยอยู่กับพี่สาวที่ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ อยู่กับครอบครัวและหลานๆ เป็นบ้านมรดกเก่าแก่ 2 ชั้น ครึ่งปูน ครึ่งไม้ ได้มาดูบ้านพร้อมกับเตรียมแปลนบ้านแล้ว แต่มาเสียชีวิตเสียก่อน

“ส่วนวันฌาปนกิจนั้นคิดว่าน่าจะเป็นวันพุธ หรือพฤหัสบดี หรือวันที่ 16-17 มิ.ย. ต้องดูประเพณีของชุมชนหมู่บ้านก่อน โดยเฉพาะช่วงนี้อยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงต้องทำพิธีอย่างระมัดระวัง ให้ถูกต้องตามระเบียบของสาธารณสุข สำหรับญาติ หรือแขกผู้มาร่วมงานในวันงาน ซึ่งจะทำการที่วัดบ้านนาสวรรค์ ต.นาสวรรค์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ” นายภูริทัตกล่าว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image