คดีส่อพลิก รถไฟชนรถพ่วง 18 ล้อ โชเฟอร์ยันขับไม่เร็ว แต่ไร้สัญญาณเตือน ไม้กั้นไม่ถูกเอาลง

แจ้งข้อหาโชเฟอร์ 18 ล้อ ประมาทขับรถข้ามทางพาด ที่ยังไม่เอาเหล็กกั้นลง แต่กลับถูกรถไฟมาชน  เป็นเหตุให้ พขร.-ช่างเครื่อง รถไฟเสียชีวิต 2 ราย

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ สภ.เมืองอุดรธานี นายสุรชัย วงศ์สุข อายุ 36 ปี  ชาว อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โชเฟอร์คนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ที่ถูกรถไฟขบวนรถเร็วที่ 134 (หนองคาย-กรุงเทพฯ) ชนที่ตัวพ่วงท้าย บริเวณทางพาดรถไฟหนองขอนกว้าง ถนนเลี่ยงเมือง (ทางหลวง 216) ทำให้ พขร.และช่างเครื่องหัวรถจักรเสียชีวิต พร้อมนายพินิจ ชัยรัตนวานิช นายจ้าง นายสรัญญ สิริรัตน์วิญญู ทนายความ และตัวแทนประกันภัย เข้าพบ พ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม

หลังจากสอบสวนคำเสร็จ นายสรัญญ สิริรัตน์วิญญู ทนายความ เปิดเผยว่า เดินทางมาร่วมรับฟังการสอบปากคำเพิ่มเติม หลังสอบสวนปากคำเสร็จ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา นายสุรชัย วงศ์สุข โชเฟอร์รถบรรทุกข้อหา “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ซึ่งนายสุรชัยได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ส่วนรายละเอียดก็จะต้องไปสอบและหาข้อเท็จจริงเพิ่ม อย่างละเอียดของทั้งสองฝ่าย เพื่อที่จะได้ต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป

“ส่วนพนักงานกั้นทางรถไฟ รอพนักงานสอบสวนเรียกมาสอบปากคำเพิ่ม เกี่ยวกับข้อเท็จจริงและการปฏิบัติหน้าที่ ว่ามีการบกพร่องต่อหน้าที่จุดไหนอย่างไร ซึ่งตนก็ได้รับการยืนยันว่าทางฝ่ายคู่กรณีก็มีส่วนในการกระทำประมาทเหมือนกันกับรถบรรทุก ซึ่งในส่วนที่จะหาประเด็นไปสู้กันในชั้นศาล ก็คงอาจจะเป็นในเรื่องของการปฏิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่กั้นทางรถไฟ เพราะการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย และทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งหากปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง และไม่ละเว้นก็จะไม่เกิดความเสียหายเช่นนี้”

Advertisement

นายสรัญญ เปิดเผยอีกว่า จะมีการต่อสู้คดีอย่างแน่นอน เพราะแจ้งว่ารถบรรทุกพ่วง ขับมาด้วยความเร็วไม่ลดความเร็ว ขณะใกล้ถึงทางข้ามทางรถไฟ โดยในทางกฎหมายก็พอจะมีประเด็นที่จะต่อสู้คดีได้ แต่ว่าผิดหรือไม่ผิดนั้นก็ต้องดูพยานหลักฐานทั้งสองฝ่าย แล้วใช้สิทธิกระบวนการทางศาล ซึ่งถือว่าโทษยังไม่สูง และนายจ้างก็ได้มีการประสานช่วยเหลือค่าจัดงานศพ ซึ่งเป็นตามหลักมนุษยธรรม และเรื่องการดูแลตามลำดับ ซึ่งแม้จะเสียชีวิตจากที่ไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ซึ่งตอนนี้ทางคู่กรณียังไม่ได้มาพูดคุยกัน เพราะเป็นนัดแรกที่มาพบกับพนักงานสอบสวน มาให้ปากคำตามข้อเท็จจริงเบื้องต้นก่อน และอาจจะมีนัดมาให้ปากคำเพิ่มเติมอีก

ด้านนายสุรชัย วงศ์สุข โชเฟอร์รถบรรทุกพ่วง เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งก็พูดยากกับเหตุการณ์นี้ ก็อยากจะฝากถึงครอบครัวผู้เสียชีวิตว่า “ขอโทษอีกครั้ง เสียใจเป็นอย่างมาก” โดยตนก็คิดว่าความผิดพลาดนั้น ก็อาจจะเกิดจากเจ้าหน้าที่ ด้วยการประสานงานกันไม่ค่อยดี ส่วนนายจ้างของตนก็ได้ช่วยรับผิดชอบในเรื่องต่างๆ ซึ่งตนยังไม่ได้เดินทางไปงานศพของผู้เสียชีวิตเลย เพราะยังอยู่ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน แต่ตนก็ต้องไปงานศพที่ จ.สกลนคร เพราะส่วนอีกคนก็อยู่ที่กรุงเทพฯ ตอนนี้ตนก็หยุดงาน จนกว่าจะสอบปากคำเสร็จ

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า อุบัติเหตุครั้งนี้นายสุรชัย โชเฟอร์รถพ่วง 18 ล้อ ให้การในที่เกิดเหตุว่า ขับรถมาด้วยความเร็วไม่มาก (ตาม GPS 47 กม.ต่อ ชม.) เมื่อไม่มีสัญญาณเตือน และเหล็กกั้นทางพาดไม่ถูกเอาลง ก็ขับรถผ่านทางพาดรถไฟ ก็ถูกรถไฟชนเข้าที่พ่วงท้าย ตัวพ่วงหลุดออกไป แต่ตัวรถยังเคลื่อนต่อได้ ส่วนพนักงานกั้นทางพาด ก็ยอมรับว่าเปิดสัญญาณแล้ว แต่ทางกั้นยังไม่ได้เอาลง รถไฟก็วิ่งมาถึงทางพาดแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจแอลกอฮอล์ และสารเสพติด ทั้งโชเฟอร์ 18 ล้อ และพนักงานกั้นทางพาด เป็นการเบื้องต้น แต่ผลของ รพ.ยังไม่ออกมา

ขณะ พ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ยังคงปฏิเสธที่จะตอบข้อซักถาม ขอให้ผู้บังคับบัญชาเป็นผู้แถลง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image