รอดหวุดหวิด สาวใหญ่ขับปาเจโรพุ่งชนบ้าน โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ได้รับแจ้งจากวิทยุสื่อสาร 191 ว่าเกิดอุบัติเหตุขับรถชนบ้านได้รับความเสียหาย มีคนบาดเจ็บติดอยู่ในรถยนต์ที่เกิดเหตุ จึงแจ้งให้ ร.ต.ท.พันธรัก พงษ์พฤกษธาตุ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองตรัง รุดไปยังที่เกิดเหตุ ที่ ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของ นางจินตนา ชุมพงษ์ ที่บริเวณรั้วหน้าบ้านซึ่งเป็นรั้วเหล็กพังหลุดออกเป็นแถบ รั้วบ้านที่เป็นแท่งปูนแตกหลุดเป็นแผ่นขนาดใหญ่ หล่นทับใส่รถเก๋งของเพื่อนบ้านที่จอดอยู่บริเวณหน้าบ้านได้รับความเสียหาย ขณะในบริเวณรั้วบ้านพบรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร สีเปลือกมังคุด ทะเบียน กท 6665 ตรัง สภาพจอดขวางประตูบ้าน บริเวณหน้ารถพังยับเยิน หัวรถเสียบอยู่กับรั้วเหล็กประตูบ้าน ภายในรถยนต์คันเกิดเหตุพบถุงลมนิรภัยทำงานทั้ง 2 ใบ เบื้องต้นทราบว่าคนขับรถคันเกิดเหตุเป็นหญิง แต่ยังไม่ทราบชื่อ มาพร้อมกับลูกสาว ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทางหน่วยกู้ภัยมูลนิธิการกุศลสถานตรังได้รีบส่งตัวไปรักษาบาดแผลที่บาดเจ็บที่โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ก่อนหน้านี้แล้ว
จากการสอบถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ในช่วงเกิดเหตุเห็นรถยนต์คันดังกล่าวขับมาจากถนนฝั่งตรงกันข้ามซึ่งเป็นสามแยก พอมาถึงสามแยกรถคันดังกล่าวพุ่งข้ามเลนมาด้วยความเร็ว รถทะยานพุ่งเข้าชนรั้วบ้านดังกล่าว ซึ่งคาดว่าเมื่อมาถึงทางแยกอาจจะเหยียบเบรกเพื่อชะลอรถแต่ไปเหยียบคันเร่งแทน ทำให้รถยนต์พุ่งออกมาจนควบคุมไม่ได้
ด้าน นางจินตนา ชุมพงษ์ เจ้าของบ้าน กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่บ้าน พอเกิดเหตุเพื่อนบ้านโทรไปบอกก็รีบกลับมาเห็นสภาพแล้วใจหาย โชคดีที่ไม่อยู่บ้าน แต่โชคไม่ดีที่บ้านพังเสียหายคงต้องซ่อมกันต่อไป
ในขณะที่ น.ส.นิภาภรณ์ มีชู พนักงานขายโทรศัพท์มือถือที่อยู่บ้านติดกับที่เกิดเหตุ เห็นเหตุการณ์รถยนต์พุ่งชนบ้านในครั้งนี้ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุตนอยู่หน้าร้านพอดี เห็นรถคันดังกล่าวพุ่งเฉี่ยวแบบเร็วมาก ผ่านหน้าร้านตนไปเลย ตกใจมาก วิ่งออกไปดูเห็นลูกสาวของเขาเดินออกมาจากรถยนต์ จากนั้นทั้งสองคนมานั่งตรงหน้าร้านของตนก่อนที่แม่คอยปลอบเพราะลูกสาวร้องไห้ตลอดเวลาด้วยความตกใจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เรียกตัวทั้งผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายมาสอบปากคำอีกครั้งว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไร และเพื่อชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นต่อไป
