ตร.ทางหลวง จับพ่อค้า ลอบขนนกปรอดหัวจุกร่วม 300 ตัว เข้า กทม.

ตร.ทางหลวง จับพ่อค้า ลอบขนนกปรอดหัวจุกร่วม 300 ตัว จากเชียงรายเข้า กทม. ส่งดำเนินคดีข้อหามีสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ต.ท.ต่อสกุล แสนสุรีย์รังสิกุล สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 5 สั่งการให้กำลังตำรวจตั้งด่านกวดขันวินัยจราจร ที่หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงบ้านป่า หลักกิโลเมตร 237 ขาเข้าเมืองพิษณุโลก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่ด่านดังกล่าวได้เรียกรถกระบะสีขาว ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน ผจ 4067 เชียงราย ขนบรรทุกดอกไม้มาเต็มกระบะ โดยผิดสังเกตเมื่อได้ยินเสียงนกร้องระงมเนื่องจากอาการร้อนและมีผ้าใบปิดทึบ จึงเรียกให้จอดเพื่อทำการตรวจค้นอย่างละเอียด

ทราบต่อมาว่า นายผดุง (สงวนนามสกุล) เป็นผู้ขับขี่ และยินยอมให้ค้นแต่โดยดี กระทั่งพบว่าบริเวณหน้ารถกระบะได้บรรทุกนก “นกปรอดหัวจุก” ประมาณ 8 ลัง หรือเกือบ 300 ตัว ถือว่ามีสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง จึงประสานหัวหน้าชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจพิเศษ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11 กรมอุทยานฯ และตำรวจป่าไม้ กก.4 ปทส. ร่วมตรวจสอบและสามารถจับกุมผู้กระทำผิด 1 ราย ทำบันทึกส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ดาบตำรวจประทีป มีอุดร ตำรวจทางหลวงบ้านป่า กล่าวว่า ระหว่างเรียกรถทุกคันที่เข้าด่าน สังเกตรถกระบะคันดังกล่าวมีพิรุธ เนื่องจากมีเสียงนกร้องและไม่ยอมให้ตรวจค้นบริเวณด้านหน้ากระบะ ต่อมาได้ตรวจค้นอย่างละเอียด พบลัง จำนวน 8 ลัง ภายในบรรจุนกปรอด เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ซึ่งมีประมาณ 300 ตัว และหลายตัวได้เสียชีวิตไป เนื่องจากอากาศร้อน ทั้งนี้ คนขับรถให้การว่า เตรียมการบรรทุกนกปรอดจากจังหวัดเชียงรายไปส่งที่เมืองหลวงในตอนกลางคืนเพื่อให้นกซุกอยู่ในรถกระบะได้ แต่บังเอิญรถเกิดเสียจึงพักอยู่ที่ จ.อุตรดิตถ์ และเดินทางเข้าพิษณุโลกในเวลากลางวันแทน ส่งผลให้นกตาย ส่วนนกที่เหลือก็ส่งเสียงร้องระงมเนื่องจากขาดน้ำและอาหาร

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นำรถตำรวจทางหลวงเคลื่อนย้ายจากหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงบ้านป่ามายังกองกำกับฯ พบว่านกได้เสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก อาทิ นกปรอดหัวจุก หรือนกปรอดตัวโขนเคราแดง ตัวเล็กๆ ซึ่งเป็นลูกอ่อน บรรจุอยู่ในกล่องทึบ มีจำนวน 20 ตัว ตายไป 15 ตัว เหลืออีก 5 ตัว สร้างความสงสารแก่เจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงและเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าป้อนน้ำแก่ลูกนกและพรมน้ำทั้ง 8 กรง เนื่องจากอากาศร้อน ขณะที่นกปรอดหัวจุก หรือนกปรอดหัวโขนเคราแดงตัวโตได้เปิดกรงมา แต่ไม่สามารถบินได้ มีสภาพอ่อนแรง ต้องหยอดน้ำ และมีอีกหลายตัวที่ต้องตายคารัง สร้างความรันทด ระหว่างรอเจ้าหน้าที่สัตว์ป่ารับไปอนุบาลเลี้ยงรักษาชีวิต

นายศักดิ์ปรินทร์ สุรารักษ์ หัวหน้าชุดเฉพาะกิจพิเศษ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากตำรวจทางหลวง 3 กก.5 และนายโกเมศ พุทธสอน ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 ได้มาตรวจสอบนกปรอดหัวจุก หรือนกปรอดตัวโขนเคราแดง ที่ถูกลักลอบซื้อขายขนย้ายมาจากภาคเหนือไปสู่ตลาดมืดค้าสัตว์ป่าตามนโยบาย รมว.ทรัพยากรฯ ให้บูรณาการร่วมกันทุกฝ่าย

Advertisement

การจับนกปรอดครั้งนี้ถือว่าเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 หากผู้ใดมีไว้ในครอบครองจะต้องได้รับอนุญาต มิฉะนั้นจะมีความผิดตามมาตรา 17 และประกอบมาตรา 92 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งจับ ส่วนรถของกลางขึ้นอยู่พนักงานสอบสอบ หลังจากตรวจยึดนกแล้วจะมีเจ้าหน้าที่สัตว์ป่ามารับนกปรอดไปเพื่อเลี้ยงอนุบาล รอการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ส่วนที่เสียชีวิตได้ฝังทำลายต่อไป

ข่าวน่าสนใจอื่น :

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image