เขียงหมูยะลา ปรับขึ้นราคา กก.ละ 220 บาท ปชช.เดือดร้อน วอนรัฐแก้ไขโดยด่วน

เขียงหมูยะลา ปรับขึ้นราคา กก.ละ 220 บาท ปชช.เดือดร้อน วอนรัฐแก้ไขโดยด่วน

เมื่อวันที่ 26 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เขียงหมู ในเขตเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา พบว่าราคาเนื้อหมูมีการปรับขึ้นราคามา 2 วันแล้ว สืบเนื่องจากราคาหมูหน้าฟาร์มปรับราคาขึ้นอยู่ที่กิโลกรัมละ 100 บาท ทำให้ต้องปรับราคาเนื้อหน้าเขียงขึ้นตามไปด้วย ในขณะเดียวกันบรรดาร้านขายหมูปิ้งบางร้านปรับราคาขึ้นไม้ละ 6 บาท แต่บางร้านยังคงขายราคาไม้ละ 5 บาท เพราะเห็นใจประชาชนที่ต้องมาแบกภาระหลายอย่างในช่วงนี้

โดยหมูสามชั้น และสันคอ ปรับราคาขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 220 บาท เนื้อสันในกิโลกรัมละ 220 บาท เนื้อสันนอก กิโลกรัมละ 220 บาท เนื้อแดงกิโลกรัมละ 200 บาท หมูบด กิโลกรัมละ 200 บาท ซี่โครง กิโลกรัมละ 200 บาท ส่งผลให้เขียงหมูในตลาดแห่งนี้เงียบเหงา ประชาชนสู้ราคาไม่ไหว ประกอบกับในพื้นที่จังหวัดยะลา ยังมีการระบาดของเชื้อโควิด-19 พบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่องในทุกๆ วัน จึงทำให้ประชาชน ไม่กล้าออกมาเดินตลาด ยอดการซื้อเนื้อหมูกลับมาลดลงอีกครั้ง

แม่ค้าแผงหมูสด กล่าวว่า สาเหตุที่ราคาหมูปรับขึ้น เป็นเพราะค่าอาหารสัตว์ปรับราคาขึ้น ทำให้หมูหน้าฟาร์มต้องปรับราคาขึ้นตาม ซึ่งตอนนี้ราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มที่อำเภอหาดใหญ่ อยู่ที่ประมาณ 98 บาท บวกเพิ่มค่าขนส่งกิโลกรัมละ 5 บาท รวมแล้วก็ 103 บาทแล้ว แต่สหกรณ์เบตงหมูเป็นยังอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 100 บาทอยู่ แต่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นเช่นกัน ซึ่งตอนนี้บรรดาประชาชนที่มาซื้อต่างเดือดร้อนที่สุด แล้วก็ไม่มีกำลังซื้อ ทำให้ยอดขายลดลงจากวันละ หมู 5 ตัวตอนนี้เหลือวันละ 1 ตัว ตลอดจนร้านอาหารที่มีความต้องการบริโภคมากขึ้น เพราะเปิดประเทศและเริ่มที่จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ หลังมีการผ่อนคลาย ขณะที่ราคาวัตถุดิบอาหารอื่นๆ เช่น ผัก น้ำมันพืช ไข่ไก่ก็มีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน

ซึ่งจะกระทบต่อทั้งผู้ขายปลีก โดยเฉพาะรายย่อย ร้านอาหาร ตลอดจนผู้บริโภคที่มีค่าใช้จ่ายด้านอาหารต่อคนต่อเดือน เพิ่มขึ้นอีก ท่ามกลางภาวะที่ค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ ก็เริ่มมีสัญญาณปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อหมูนั้นต่างบอกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 300 บาท หากจะซื้อหมูเป็นกิโลเพื่อนำกลับไปทำอาหารก็แทบจะไม่มีเงินเหลือไว้ซื้ออย่างอื่นเลยด้วยซ้ำ เพราะหมูกิโลกรัมละ 220 เหลือ 80 บาทจะซื้อผัก หรืออย่างอื่นมาปรุงแทบไม่พอ

Advertisement

นอกจากนี้น้ำมันก็ขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง ข้าวของต่างๆ ก็ยังมาขึ้นราคาขยับตามอีก ซึ่งในตอนนี้สวัสดิการต่างๆ รัฐที่ช่วยเหลือประชาชนก็ไม่มี ทำให้ช่วงนี้ได้รับผลกระทบกันทั่วหน้า หากทางรัฐบาลยังไม่ปรับการขึ้นราคาหรือตรึงราคาไว้ค่าครองชีพของแต่ละคนก็จะไม่ไหว แทบจะอดตายกันอยู่ วอนให้รัฐบาลนั้นแก้ไขปัญหาโดยด่วนหรือไม่ก็จัดสวัสดิการต่างๆ เพื่อช่วยประชาชน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image