ผอ.ร.ร.สตรีพัทลุง ตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริงปมน้องโบนัส ฆ่าตัวตาย ครูแจงไม่ได้ไล่ออก คาดแปลเจตนาผิด

ผอ.ร.ร.สตรีพัทลุง ตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริงปมน้องโบนัส ฆ่าตัวตาย ครูแจงไม่ได้ไล่ออก คาดแปลเจตนาผิด

วันที่ 16 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเย็นวานนี้ นางมาลี แก้วละเอียด ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีพัทลุง กล่าวถึงกรณีการเสียชีวิตของน้องปลอบขวัญ หรือน้องโบนัส นักเรียนวัย 15 ปีที่กำลังเลื่อนชั้นขึ้น ม.3 ว่า โรงเรียนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันว่าระบบการดูแลนักเรียนทางโรงเรียนทำดีที่สุดแล้ว สำหรับตัวเด็ก ทางนายตุลยวัต เขียวจีน รองผู้อำนวยการโรงเรียน และ น.ส.จรรยา ชูเมฆ ครูที่ปรึกษาได้เตรียมความพร้อมในการดูแลหลังจากที่ได้พูดคุยกับเด็ก แต่เมื่อวันที่ 9 พ.ค. วันเปิดเรียนที่ผ่านมา นักเรียนรายนี้ไม่ได้มาโรงเรียน หลังจากที่ติดต่อสื่อสารกับเด็ก ก็พบว่าเด็กไม่อยู่ในพื้นที่ จ.พัทลุง ไปอยู่กับมารดาที่ อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา

ทราบว่าเด็กไม่สามารถมาเรียนในโรงเรียนนี้ได้ เนื่องจากไม่มีที่พักและไม่มีผู้ดูแล ครูผู้ดูแลเด็กจึงนำเรื่องนี้แจ้งให้ น.ส.จรรยา ซึ่งเป็นหัวหน้างานการดูแลเด็กนักเรียนได้รับทราบเพื่อเร่งแก้ปัญหาให้นักเรียนคนดังกล่าว

Advertisement

น.ส.จรรยา จึงได้ติดต่อไปยังเด็กคนดังกล่าว โดยได้เสนอแนวทางเลือกไป 2 ทาง ประกอบด้วย 1.พอที่จะสามารถศึกษาต่อในโรงเรียนใกล้บ้านได้หรือไม่เพราะสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย และ2.หากจะมาเรียนที่ จ.พัทลุง จะต้องไปพักอาศัยในบ้านพักเด็กโคกชะงาย อ.เมืองพัทลุง ซึ่งมีรถรับส่งไป-กลับ และมีอาการกินฟรี แต่ผู้เป็นแม่จะต้องมายินยอมในวันที่ 17 พ.ค. 65 นี้

ต่อมาวันที่ 13 พ.ค.ก็ทราบว่าเด็กเสียชีวิตเสียแล้ว ซึ่งทางคณะผู้บริหาร คณะครู ก็ได้ไปร่วมในงานศพดังกล่าวและมอบเงินสวัสดิการให้ครอบครัวจำนวนหนึ่ง

Advertisement

ในส่วนของการดูแลเด็กนั้น น.ส.จรรยาถือว่าเป็นผู้ที่รู้ข้อมูลของนักเรียนในโรงเรียนที่ดีที่สุด และร่วมกับคณะครูในการช่วยเหลือนักเรียนที่ประสบปัญหามาโดยตลอด ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นเราไม่สามารถยืนยันได้ว่าครูพูดกับนักเรียนไปอย่างไรบ้าง แต่เรื่องนี้ตนยืนยันได้ว่าทางโรงเรียนได้เตรียมให้ความช่วยเหลือไว้ทุกๆ ด้านแล้ว เพียงแค่ให้ผู้เป็นแม่มาเซ็นหนังสือรับรองยินยอมให้เด็กไปพักอาศัยอยู่ในบ้านพักเด็กโคกชะงายเท่านั้น

ทางโรงเรียนก็ไม่ทราบว่าครอบครัวเด็กเป็นอย่างไรเพราะเด็กพักอาศัยอยู่นอกพื้นที่จ.พัทลุง และการที่เด็กนำเรื่องไปพูดคุยกับเพื่อนนั้น อาจจะเป็นการแปลเจตนาของครูผิดพลาดไปก็ได้ ในส่วนที่มีข่าวในโซเซียลระบุว่าเด็กไม่ได้รับทุนการศึกษานั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เนื่องจากเขาได้รับทุนมาทุกๆ ปี

นางมาลี กล่าวอีกว่า ไม่มีครูคนใดที่ไม่มีความปรารถนาดีต่อนักเรียน การพูดกันว่าไม่มีเงินมาเรียนในโรงเรียนนี้ไม่ได้ ไม่เป็นความจริงและเป็นไปไม่ได้ ทางโรงเรียนไม่ได้เร่งเก็บค่าบำรุงการศึกษา จะแจ้งให้มาชำระค่าบำรุงการศึกษาในวันไหน ก็จะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

นักเรียนคนไหนจะขอลดค่าบำรุงการศึกษา หรือจะขอยกเว้นการจ่ายค่าบำรุงการศึกษาก็ขอให้ยื่นคำร้องได้ โดยในแต่ละเทอมจะมีนักเรียนได้รับการยกเว้นการจ่ายค่าบำรุงการศึกษาเกือบ 100 คน เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการแปรเจตนาของครูผิดพลาดไปหรือไม่เราไม่รู้ ขณะนี้ทางโรงเรียนได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกันทั้ง 2 ฝ่าย

พร้อมปฏิเสธว่าเรื่องที่เกิดขึ้นโรงเรียนไม่ได้กดดันจนนำไปสู่การเสียชีวิตของเด็กแต่อย่างใด น่าจะเป็นการสื่อสารที่ไม่เข้าใจตรงกันระหว่างครูกับนักเรียน ซึ่งเด็กอาจจะเข้าใจผิดพลาดตามประสาเด็ก อาจจะเป็นช่องว่างจนทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว

อย่างไรก็ตามในการประชุมคณะครูในแต่ละครั้งตนจะเน้นย้ำให้ครูระมัดระวังการสื่อสารกับนักเรียน เนื่องจากนักเรียนแต่ละคนอาจมีปัญหาซับซ้อนไม่เหมือนกัน อาจจะส่งผลให้การสื่อสารระหว่างครูกับนักเรียนผิดพลาดขึ้นได้

อ่าน : ผู้ปกครองขอชาติหน้า ‘น้องโบนัส’ เจอแม่-ครูที่ดี หลังเผชิญแรงกดดันจนมีข่าวเศร้า แถมโรงเรียนไม่ช่วย

อ่าน : ว่อนโซเชียล! เด็กม.3 ผูกคอดับ อ้างถูกครูโรงเรียนดังพัทลุงไล่ออก เผยครอบครัวลำบาก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image