‘เสี่ยโกน้อง’ เจ้าของบริษัทรับเหมา มอบตัว-ปฏิเสธจ้างฆ่า ‘เสี่ยสมพร’ บริษัทคู่แข่ง
เมื่อวันที่ 11 มกราคม ที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี (กก.สส.ภ.จว.) พ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อม พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ร่มไทร รอง ผกก.สอบสวน สภ.เวียงสระ และ พ.ต.ท.สุทิน รักงาม สารวัตรสอบสวน สภ.เวียงสระ รับมอบตัวและสอบปากคำนายปฏิภาณ หรือโกน้อง อายุ 43 ปี เจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ผู้ต้องหาคดีฆ่านายสมพร อายุ 44 ปี ชาว ต.ทุ่งหลวง อ.เวียงสระ เสี่ยรับเหมาก่อสร้างถนนและอาคาร
ถูกมือปืนยิงถล่มเสียชีวิตคารถกระบะเหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 65 บนถนนข้างโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเวียงสระ ตามหมายจับศาลเวียงสระที่ จ235/2565 ลงวันที่ 9 ธันวาคม 65 ข้อหาร่วมกันใช้ จ้าง วาน หรือยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ได้เดินทางมาพร้อมทนายความ ซึ่งนายปฏิภาณให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยประสงค์จะให้ปากคำในชั้นสอบสวนและชั้นศาล เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกจับกุมและส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เวียงสระ นำไปสอบสวนปากคำเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า คดีนี้ศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 7 ราย จับกุมได้ 3 ราย เข้ามอบตัว 2 ราย ส่วนอีก 2 ราย ยังหลบหนี การสืบสวนของตำรวจพบว่าไปกบดานอยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านอยู่ในขั้นตอน ตม.ประสานตำรวจท้องถิ่นติดตามตัวมาดำเนินคดี ซึ่งแม้ชั้นสอบสวนผู้ต้องหา 2 ราย ที่เป็นผู้ใช้จ้างวานจะให้การปฎิเสธ แต่ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานจะสามารถมัดตัวให้รับโทษตามกฎหมายได้
ข่าวแจ้งว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุยิงนายสมพร ตำรวจพบประเด็นความขัดแย้งมาจากการประมูลงานก่อสร้าง นำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา 4 ราย มี นายเอกรินทร์, นายกรัณต์ อายุ 30 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช คนขับรถเก๋งที่ใช้ก่อเหตุ, นายธนากร อายุ 30 ปี ชาว จ.ตรัง มือปืนรับจ้าง, นายธรรมรินทร์ อายุ 55 ปี ชาว จ.ตรัง ผู้ร่วมวางแผน โดยจับกุมได้แล้ว 3 ราย ส่วนนายเอกรินทร์ยังหลบหนี ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวให้การซัดทอดนายธีรยุทธ์ และนายอัสดายุทธ หรือผู้ใหญ่แม็ก เป็นผู้ว่าจ้าง โดยนายอัสดายุทธเข้ามอบตัวสู้คดี ส่วนนายธีรยุทธ์ หลบหนี และล่าสุดพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับ นายปฏิภาณให้การปฏิเสธดังกล่าว
