เสธ.ทรภ.3 ชี้แจงกรณีเรือประมง ‘สร้อยสกุลเพชร’ สูญหายในทะเลขณะทำการประมง
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่กองบัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 3 อ.เมือง จ.ภูเก็ต พล.ร.ต.ภุชงค์ รอดนิกร เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมด้วย นาวาเอก พิเชษฐ์ ซองตัน ผู้อำนวยการกองสารนิเทศ ศรชล.ภาค 3 นายสิทธิพล เมืองสง ประมงจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน ศรชล.ภาค 3 แถลงข่าวกรณีเร่งช่วยเหลือ เรือประมงพื้นบ้าน “สร้อยสกุลเพชร” สูญหายในทะเล
พล.ร.ต.ภุชงค์กล่าวว่า ตามที่ นายรุ่ง อายุ 44 ปี นำเรือเบ็ดราว (ประมงพื้นบ้าน) ขนาดกว้าง 3 เมตร ยาว 10 เมตร ชื่อเรือ “สร้อยสกุลเพชร” ออกจากท่าเรือแพองค์การสะพานปลาภูเก็ต เมื่อวันที่ 19 มกราคม พร้อมลูกเรืออีก 4 คน (ชาวไทย 2 คน รวมนายรุ่ง ชาวเมียนมา 2 คน) ไปหาปลาทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะภูเก็ต บริเวณแลต 6 องศา ห่างฝั่งประมาณ 120-130 ไมล์ทะเล คาดว่าเรือเครื่องยนต์ขัดข้องและติดต่อไม่ได้นั้น ทัพเรือภาคที่ 3 และ ศรชล.ภาค 3 โดย พล.ร.ท.อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 และผู้อำนวยการ ศรชล.ภาค 3 ได้สั่งการให้ ศรชล.ภาค 3 กองเรือปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 หน่วยเรือ อากาศยาน หน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452 และ 491 ร่วมกับเครือข่ายเรือประมงในพื้นที่ออกค้นหาและช่วยเหลือเรือสร้อยสกุลเพชรอย่างเต็มกำลังความสามารถ
พล.ร.ต.ภุชงค์กล่าวว่า ปัจจุบันทัพเรือภาคที่ 3 และ ศรชล.ภาค 3 ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากหน่วยงาน หรือท่านใดมีเบาะแสเพิ่มเติม สามารถติดต่อแจ้งข้อมูลมาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-7639-1598 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
พล.ร.ต.ภุชงค์กล่าวด้วยว่า ขอชี้แจงว่า ศรชล.ภาค 3 ได้รับแจ้งเมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมา หลังรับแจ้งได้ประสานเครือข่ายที่เกี่ยวข้องติดตามค้นหาแต่ยังไม่พบ ซึ่งเรือสร้อยสกุลเพชรเป็นเรือตกปลา ออกไปทำการประมงครั้งนี้ที่ 120 ไมล์ทะเล ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของภูเก็ต ประมาณทิศทางคาดว่าน่าจะอยู่ทิศตะวันตกของเกาะหลีเป๊ะ แนวชายแดนไทย-อินโดนีเซีย เรือลำนี้ออกไปตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2566 ทราบว่าทุกครั้งจะออกไป 7 วันแล้วเดินทางกลับ เรือประเภทนี้จะไม่มีการแจ้งเข้าออกจากศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออก (PIPO) เพราะเป็นเรือขนาดเล็ก และวิทยุที่ใช้เป็นวิทยุมดดำ แต่เรือขาดการติดต่อ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตาม ยังไม่พบข้อมูลความเคลื่อนไหว ซึ่งเรือลำดังกล่าวมีพิกัดไม่แน่นอนว่าอยู่ที่ใด บอกเพียงไปทำประมงอยู่ที่แลต 6 องศา ไม่มีวิทยุติดต่อ และไม่มีระบบติดตาม
พล.ร.ต.ภุชงค์กล่าวว่า ศรชล.ภาค 3 ได้ติดต่อครอบครัวของนายรุ่งอย่างต่อเนื่องในการติดตามค้นหาเรือประมงลำดังกล่าว คิดว่าเครื่องยนต์เรืออาจเสียแล้วลอยไป ยืนยันว่าไม่ได้ทอดทิ้ง ตอนนี้อยู่ในช่วงดำเนินการติดตามช่วยเหลือ รวมทั้งผู้ว่าฯภูเก็ตและกอ.รมน.จ.ภูเก็ต ห่วงใยติดตามเช่นกัน เร่งประสานเครือข่ายร่วมกันค้นหา
“วันพรุ่งนี้ (6 ก.พ.) จะใช้อากาศยานบินค้นหา รวมทั้งประสานทางการของอินโดนีเซียและมาเลเซียให้ช่วยตรวจสอบอีกทางว่าเรือลำดังกล่าวลอยเข้าไปในเขตน่านน้ำของเขาหรือไม่ คาดว่า 1-2 วันนี้คงมีข่าวดีในการค้นหาช่วยเหลือ ที่ผ่านมาทัพเรือภาคที่ 3 ศรชล.ภาค 3 ให้การช่วยเหลือทุกเรื่องที่แจ้งมา ซึ่งมีการบอกพิกัดชัดเจน ทำให้การค้นหาง่ายและช่วยเหลือได้ทุกราย” พล.ร.ต.ภุชงค์กล่าว
