หนุ่มเมายาบุกบ้านอริ ถูกยิงสวนเข้าท้องดับ แม่มือยิงไม่ประกันตัว เผย ลูกของเราก็ไม่ดีทั้งคู่
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 9 พฤษภาคม ร.ต.ท.ศุภกร ทุมจีน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ มีคนถูกยิงเสียชีวิต บริเวณถนนกลางทุ่งนาท้ายหมู่บ้านหนองไผ่ หมู่ 5 ต.หนองนาคำ ตำรวจรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นทุ่งนาห่างจากหมู่บ้าน 5 กิโลเมตร พบศพนายขวัญเมือง (สงวนนามสกุล) หรืออุ๋ย อายุ 30 ปี สภาพนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่กลางถนน สวมกางเกงขาสั้นสีดำ ไม่สวมเสื้อ จากการชันสูตรพบถูกยิงด้วยอาวุธปืนแก๊ปไทยประดิษฐ์เข้าบริเวณท้องกระสุนลูกปรายฝังใน และศีรษะด้านขวามีแผลแตกจากของแข็ง ส่วนมือยิงคือนายจักรี (สงวนนามสกุล) หรือเล่ อายุ 26 ปี ตามจับตัวได้ที่เถียงนาซึ่งอยู่ห่างจากศพผู้ตาย 100 เมตร พร้อมอาวุธปืนแก๊ปซึ่งหักเป็น 2 ท่อน ตรวจค้นบ้านยังพบอาวุธปืนแก๊ปอีก 3 กระบอก ดินปืน ลูกแก๊ป ลูกปราย 1 นัด และเครื่องมือช่าง จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนายจักรี มือยิงเล่าว่า อาศัยอยู่เถียงนากับแม่ และทำปืนแก๊ปใช้ยิงนก หนู ซึ่งขณะที่กำลังลองยิงปืนแก๊ปอยู่บนเถียงนา 2 นัด เป็นจังหวะที่ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาพอดี ได้จอดรถแล้วร้องใส่พร้อมกับเดินเข้ามาในบ้าน หาว่ายิงปืนใส่ ตนจึงถือปืนลงมา ผู้ตายปรี่เข้ามาหา ซึ่งเกรงว่าผู้ตายจะทำร้าย จึงยิงปืนใส่ผู้ตาย 1 นัด โดนที่หน้าท้อง แต่ยังไม่เสียชีวิต
ผู้ตายได้เข้ามาแย่งปืน เกิดการแย่งปืนกัน ปืนหักเป็น 2 ท่อน จึงเอาด้ามปืนตีหัวผู้ตายแตก จากนั้นผู้ตายวิ่งไปเถียงนาแม่ ซึ่งเมื่อ 2 ปีก่อนผู้ตายเคยพูดลบหลู่พ่อตน ทำให้ชกต่อยกัน และยอมรับว่า วันนี้เสพยา 3 เม็ด อยากขอโทษผู้ตายว่า ‘ไม่ได้ตั้งใจ’
นางติง (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี แม่ผู้ตาย เล่าว่า ไม่มีลูก ขอผู้ตายมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมตั้งแต่อายุได้ 19 วัน ผู้ตายเป็นคนเกเร ติดยาเสพติด ดมกาว เสพยาบ้า ตั้งแต่ ป.6 ไม่ยอมทำงาน มีพฤติกรรมไถเงิน ไม่เคยทำร้ายแต่อาละวาดไล่ตน ต้องแยกบ้านออกมาอยู่ที่เถียงนากับสามีใหม่ ให้ผู้ตายอยู่ที่บ้านตามลำพัง แต่ผู้ตายก็ยังขี่รถจักรยานยนต์มาไถเงินวันละ 200 บาท ซึ่งเวลามาหาก็ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านเถียงนานายจักรี ที่เป็นบ้านมือยิงและคู่อริ
ก่อนเกิดเหตุอยู่ที่กระท่อมนา ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ลูก ไม่นานได้ยินเสียงปืนดัง 3 นัด ต่อมาได้ยินเสียงผู้ตายร้องขอความช่วยเหลือ ‘แม่ช่วยผมด้วย พ่อช่วยผมด้วย’ ตอนแรกยังไม่กล้าไปดู ไม่นึกว่าจะเป็นลูกตัวเอง พบลูกนอนกุมท้องอยู่กลางถนน ผู้ตายเข้ามากอดขาร้องขอกินน้ำ บอกช่วยด้วย ผมเจ็บมาก และให้โทรแจ้งรถพยาบาล วิ่งไปเอาโทรศัพท์ที่เถียงนา พอกลับมาพบว่า ลูกเสียชีวิตแล้ว
ส่วนนางเปรมจิต (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี แม่นายจักรี เล่าว่า อาศัยอยู่ที่เถียงนากับลูก 2 คน ออกมารับจ้างล้างจานตามร้านอาหารตั้งแต่เช้าทุกวัน ก่อนเกิดเหตุ หลังเลิกงานกลับบ้าน 1 ทุ่ม พบลูกชายนั่งอยู่ที่บ้าน และถามว่าตำรวจมาหรือยัง เพราะยิงนายอุ๋ยตายแล้ว ตนเห็นเป็นเรื่องทะเลาะของทั้งคู่ซึ่งเป็นคู่อริกัน จึงไม่ได้สนใจ ก็เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมา จึงรู้ว่าลูกยิงนายอุ๋ยตายจริง และเวลาผู้ตายขี่จักรยานยนต์มาหาแม่ที่เถียงนา ต้องผ่านหน้าบ้านตน ทั้งคู่จะร้องด่ากัน และผู้ตายเคยเข้ามาทำร้ายลูกชายถึงในบ้าน
“ยอมรับลูกชายเสพยาบ้า มีคนเอายาบ้ามาให้เสพ แต่ถ้าไม่ได้เสพ 3-4 วัน ก็ไม่เป็นอะไร จะกินข้าวแล้วก็นอน แต่ไม่เคยอาละวาดหรือทำร้ายร่างกายแม่ แต่ลูกสาวก็ย้ายไปอยู่ในเมือง หลานก็หนีไปอยู่ที่อื่น จะไม่ประกันตัวลูก รับสารภาพทุกอย่าง และยกให้ตำรวจจัดการตามกฎหมาย และอยากให้พ่อแม่ผู้ตายอโหสิกรรมให้ เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว พูดตามความจริงลูกของเราก็ไม่ดีทั้งคู่” นางเปรมจิต แม่มือยิงกล่าว
ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” ควบคุมตัวพร้อมอาวุธของกลางไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
