ไล่ล่ารถแรงงาน 5 คัน รวบเมียนมา 11 คน หนีสงคราม เผย ถูกเก็บค่านายหน้าคนละ 35,000 บาท
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 22 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รอง สว.ส.ทล.5 กก.7 บก.ทล. นำกำลังตำรวจทางหลวงตั้งจุดสกัดบริเวณริมถนน 4066 พื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี หลังจากที่ได้รับรายงานว่าจะมีคาราวานรถขนแรงงานเถื่อน 5 คัน ขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองลงไปส่งที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เพื่อลักลอบข้ามแดนเข้าไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย
พบรถกระบะต้องสงสัยทั้ง 5 คัน ขับผ่านจุดสกัดจึงได้เรียกตรวจค้นแต่ทั้้ง 5 คัน กลับแหกจุดตรวจขับหลบหนี ตำรวจทางหลวงจึงขับรถติดตามไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด โดยรถกระบะทั้ง 5 คัน ได้ขับหลบหนีไปคนละทาง มีบางช่วงได้เลี้ยวเข้าเส้นทางสายสอง และเกือบชนตำรวจทางหลวงที่ลงจากรถถือปืนไปขวางหน้าเพื่อให้หยุดรถ แต่ยังไม่ยอมหยุดยังคงขับฝ่ารถตำรวจทางหลวงหนีสุดชีวิต
รายงานว่าหลังจากที่ขับไล่ล่าบี้กันไปเกือบ 30 กม. และไล่ล่ากันข้ามอำเภอ ไปจนถึงพื้นที่ ต.ตะโละหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา ตำรวจทางหลวงสามารถสกัดจับรถกระบะได้ 2 คัน เป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU เป็นรถนำทาง
นายมูฮัมหมัด (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี จ.ปัตตานี เป็นคนขับรถกระบะอีกคัน ยี่ห้อ ISUZU มีนายอัสฮา (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี จ.ปัตตานี เป็นคนขับ และภายในรถพบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาหลบหนีเข้ามานั่งอัดกันมา 11 คน เป็นชาย 9 คน หญิง 2 คน
ส่วนอีก 3 คันสามารถขับหลบหนีไปได้ประกอบด้วย รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU รุ่น D-MAX สีดำ, รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU รุ่น D-MAX สีเทา, และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU รุ่น D-MAX สีเทา กรุงเทพมหานคร และภายในรถน่าจะมีแรงงานเถื่อนชาวเมียนมาอยู่ด้วย
จากการสอบสวนคนขับรถกระบะทั้งสองคันบอกว่า ไปรับชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองมาจากป่าละเมาะใกล้นิคมอุตสาหกรรมฉลุง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เมื่อช่วงก่อนเที่ยงของวันนี้ เพื่อไปส่งที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ได้ค่าจ้างเที่ยวละ 5,000 บาท และรับเป็นเงินสด
มีนายมะสุกรี (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ชาว จ.ปัตตานี เป็นคนสั่งการและร่วมอยู่ในคาราวานขนแรงงานเถื่อนครั้งนี้ด้วย โดยทำหน้าที่ขับรถยนต์กระบะ เป็นรถนำทางเพื่อตรวจเส้นทางว่ามีการตั้งจุดตรวจในพื้นที่ใดบ้าง
แรงงานเถื่อนชาวเมียนมาทั้ง 11 คน บอกว่า ต้องการหลบหนีสงครามกลางเมืองภายในประเทศเมียนมา เพื่อเดินทางไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย จ่ายค่านายหน้าซึ่งเป็นคนเมียนมา ในราคา 5,000 ริงกิตมาเลเซีย หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 35,000 บาท จากนั้นนายหน้าได้ลักลอบนำพาโดยสารรถยนต์สลับกับเดินเท้าผ่านเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติข้ามมายังประเทศไทย
เดินทางต่อมากับรถยนต์คันละประมาณ 11-12 คน โดยจะแวะพักตามจุดต่างๆ เป็นระยะเพื่อเช็กเส้นทางว่าพื้นที่ไหนมีการตั้งจุดตรวจบ้างใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 วัน ก่อนที่จะมาถูกจับกุมขณะกำลังเดินทางไปยังปลายทางที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวทั้งหมดส่ง สภ.จะกว๊ะ ดำเนินคดี โดยคนไทยสองคนที่ขับรถถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกับพวกที่หลบหนีให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ให้การช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นจากการจับกุมของพนักงานเจ้าหน้าที่”
ส่วนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาทั้ง 11 คน ถูกแจ้งข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาต”
ส่วนอีกคนคือ นายมะสุกรี อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นนายหน้าคนสำคัญและหลบหนีไปได้ ตำรวจเตรียมออกหมายจับในข้อหา “ร่วมกันให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ให้การช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นจากการจับกุมของพนักงานเจ้าหน้าที่”
ส่วนรถกระบะอีก 3 คันที่ขับหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้ครอบครองและเรียกตัวมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนแรงงานเถื่อนด้วยหรือไม่
