เชียงแสน ตรวจยึดไม้สัก พบเคลื่อนย้าย-แปรรูป ไม่ขออนุญาตเพียบ

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม นายทนงศักดิ์ ธรรมโม ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สั่งการให้นายโกศล พิมสาร หัวหน้าชุดสายตรวจปราบปราม นำกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้จากหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชร.13 (ดอยหลวงแปเมือง) สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย ตำรวจ กก.4 บก.ปทส.บชช.ก.เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 224 บ้านท่าขันทอง ม.3 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ใกล้ชายแดนแม่น้ำโขงไทย-สปป.ลาว ภายหลังได้มีผู้ร้องเรียนไปยัง นรข.เขตเชียงราย ว่ามีการลักลอบนำไม้สักไปเก็บเอาไว้เป็นจำนวนมากอย่างน่าสงสัย

จากการไปตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบ น.ส.เสาวนีย์ อินทรพรหมมา เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวซึ่งได้รับความร่วมมือในการเข้าตรวจสอบบริเวณบ้านด้วยดี จากการตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่พบท่อนไม้สักท่อนและไม้สักแปรรูปวางอยู่เป็นจำนวนมากโดยไม่ปรากฎว่ารูปรอยดวงตราประทับจากทางราชการบนไม้ดังกล่าว เมื่อตรวจนับพบมีไม้สักท่อนรวมจำนวน 19 ท่อน ขนาดปริมาตร 2.85 ลูกบาศก์เมตร และเป็นไม้สักแปรรูปจำนวน 334 แผ่น ปริมาตร 16.46 ลูกบาศก์เมตร รวมปริมาตรทั้งหมดจำนวน 19.31 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าประมาณ 35,770 บาท

สอบสวน น.ส.เสาวนีย์ ให้การว่าได้มีผู้ขึ้นทะเบียนสวนป่าปลูกไม้สักดังกล่าวแล้วมอบหมายให้ตนเป็นผู้ตัดและนำมาแปรรูปเก็บเอาไว้เพื่อเตรียมนำมาใช้สร้างบ้านเรือนอยู่อาศัย โดย น.ส.เสาวนีย์ นำหลักฐานเป็นเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ เช่น เอกสารขอขึ้นทะเบียนที่ดินสวนป่า หนังสือขอใช้ประโยชน์ในที่ดิน ส.ป.ก.ฯลฯ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เห็นว่าการตัดและแปรรูปไม้รวมทั้งไปเก็บเอาไว้ดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดว่าด้วยการป่าไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ปี 2484 ข้อหามีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ข้อหามีไม้สักท่อนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พ.ร.บ.สวนป่า ปี 2535 ข้อหาเคลื่อนย้ายไม้ออกจากสวนป่าโดยไม่มีเอกสารและรอยประทับรับรอง ซึ่ง น.ส.เสาวนีย์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่ง สภ.บ้านแซว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป