ภายหลังจากที่ทางครอบครัวพร้อมภรรยาของนายประภวิษณ์ บุญเนือง อายุ 44 ปี หมอดูชื่อดังของจังหวัด ถูกวิสามัญฆาตกรรม ด้วยเหตุขับรถหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พรหมคีรี หลังสืบทราบว่ามีอาวุธปืนในครอบครอง เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมาจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง เฉพาะเหตุวิสามัญฆาตกรรมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจนครศรีธรรมราช ได้กระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ (อ่านต่อ)
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานบำเพ็ญกุศลศพของนายประภวิษณ์ ซึ่งเป็นคืนที่ 2 ทางญาติและภรรยาได้นำมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดพรหมโลก อ.พรหมคีรี บรรยากาศโดยทั่วไปค่อนข้างเงียบเหงา และโศกเศร้าของผู้ที่มาร่วมงาน ทางเจ้าภาพกำหนดการฌาปนกิจในวันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคมที่เมรุวัดพรหมโลก
นางฐานิส หริกจันทร์ ภรรยา กล่าวว่า ตนได้ดูผลการชันสูตรของแพทย์จาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ระบุถึงสาเหตุการเสียชีวิตว่า หลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาดจากบาดแผลกระสุนปืนบริเวณช่องอกข้างซ้าย สรุปว่าเสียชีวิตจากการยิงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ วันนี้ตนต้องการความบริสุทธิ์ให้กับสามี โดนยิงไม่ว่า แต่อย่ายัดยาบ้าให้สามีในข้อหาเป็นพ่อค้ายา มีรายชื่อในบัญชีดำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ข้อหาเสพกับค้าต่างกัน
นายสมปราชญ์ บุญเนือง น้องชายของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า การกระทำครั้งนี้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุอย่างมาก ซึ่งวิธีการเกลี้ยกล่อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำไมไม่ใช้วิธีการแบบละมุนละม่อม ทำไมถึงเลือกใช้วิธีความรุนแรงซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้าย หากพี่ชายของตนเองไม่ยินยอม และหากมีการยิงต่อสู้กันจริง ลูกปืนที่อยู่ภายในกระบอกปืน ซึ่งมีอยู่เพียง 4 นัด แต่ผ่านการใช้งานไปเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น ส่วนวิธีการเกลี่ยกล่อม ทำไมไม่มีการติดต่อกับญาติเพื่อที่จะมาทำการพูดคุยให้ยอมมอบตัว หากพี่ชายของตนมีความผิดจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้อารมณ์ส่วนตัวมาตัดสินเองหรือไม่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาพการตรวจค้นยาเสพติดที่ปรากฏไปตามสื่อต่างๆภายในรถ กลับไม่พบว่ามียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ แต่กลับมาปรากฏภายหลัง ถึงแม้ว่าพี่ชายของตนจะเคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดก็ตาม แต่เป็นเพียงผู้เสพเท่านั้นทุกคนที่บ้านรวมถึงภรรยาก็รู้ดี และทุกคนก็ต้องการที่จะให้ไปทำการบำบัด เพื่อที่จะได้กลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ แต่ส่วนเรื่องที่จะถึงขั้นเป็นผู้ค้ายาเสพติดนั้นตนเองญาติพี่น้อง ภรรยา รวมถึงบุคลใกล้ชิดตอบกันเป็นเสียงเดียวได้ว่า ไม่เป็นจริงอย่างแน่นอน อยากวอนขอความเป็นธรรมให้กับครอบครับ ภรรยาลูกๆของพี่ชาย รวมถึงทวงถามความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิต ซึ่งตนเองจะไม่ยอมให้พี่ชายของตนตายฟรีอย่างแน่นอน
“หากคดีไม่มีความคืบหน้า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ก่อนวันเผาพี่ชายของตน ตนจะนำร่างอันไร้วิญญาณของพี่ชายขึ้นรถไปร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้ว่าราชการจังหวัด รวมถึงศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้ช่วยเข้ามาตรวจสอบความถูกต้องเที่ยงธรรมกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากหลังเกิดเหตุไม่มีแม้แต่ความแสดงความรับผิดชอบ ไม่เคยแม้แต่จะออกมาบอกกล่าวถึงกระบวนการทำหน้าที่ อย่างเช่น อาวุธที่ใช้ยิง คนยิง ระยะวิถีแนวยิง แต่กลับปล่อยให้เรื่องเงียบหายไปแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนี้ ตนยอมไม่ได้” นายสมปราชญ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงาน ในเวลา 14.00 น.วันเดียวกันนี้ พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีต่างๆในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยคาดว่าจะมีการพูดคุยถึงเรื่องคดีดังกล่าว การประชุมครั้งนี้น่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 17.00 น. ซึ่งมีรายงานข่าวว่าจะมีรองผู้บัญชาการ ภาค 8 มาร่วมติดตามคดีดังกล่าวด้วยตัวเอง
