เหยื่อโผล่เพียบ! เซลส์สาวแค้นหนุ่มแสบอ้างรวยพันล้าน หลอกทำธุรกิจสูญเงิน 6 ล้าน ประกาศยอมทิ้งเงิน – ขอแค่ติดคุก แช่งขอให้อนาถตายในคุก
กรณี “น.ส.เฌอภา อัครภาคเมธา” มีอาชีพเซลส์ขายรถยนต์ ร้องกองปราบขอให้ช่วยตามจับกุม “นายเฟิร์ส ชยพล” อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาที่มีหมายจับของ สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร หลังถูกหลอกให้นำเงินมาลงทุนทำธุรกิจปล่อยเช่ารถหรู 6 ล้าน อ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูง แต่กลับไม่เป็นไปตามที่ตกลง ขณะที่นายเฟิร์สขอสู้ในชั้นศาล
รายการโหนกระแสวันที่ 5 พ.ย. “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้สัมภาษณ์ “แพร เฌอภา” ผู้เสียหาย มาพร้อม “ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร” ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม
อายุเท่าไหร่?
แพร : “38 ค่ะ ตอนนี้ไม่ได้ทำงาน ตอนนั้นลาออกมาจะทำธุรกิจเกี่ยวกับเช่ารถหรูโดยตรง”
ยืนยันว่าถูกหลอก?
แพร : “ยืนยันค่ะ 5 ล้านเกือบ 6 ค่ะ ค่อยๆ ทยอยจ่าย”
ชายคนนี้ชื่อว่า?
แพร : “นายเฟิร์ส ชยพล เขาเป็นลูกค้าหนูก่อน ติดต่อสอบถามและซื้อขายรถกัน ระหว่างสองปี แพรเห็นความเคลื่อนไหวเขาตลอดในเฟซบุ๊ก เขาก็มีแฟน ไปต่างประเทศ โช์รถหรู คอนโดหรูหลายๆ ที่ ที่เขาบอกว่าเป็นเจ้าของ”
มีทั้งลัมโบร์กีนี บีเอ็ม พอร์ช เขาถ่ายในเฟซบุ๊ก คุณไปดูในเฟซบุ๊กเขา?
แพร : “เขาส่งมาให้แพรใช้งานเลยค่ะ”
คุณขายอะไรก่อนหน้านี้?
แพร : “ตอนรู้จักกันฮอนด้าค่ะ เขามาซื้อฮอนด้า 2 ปีที่ผ่านมาไมได้ติดต่อ ตอนแรกมาทางชู้สาวแต่แพรไม่ได้สนใจ ห่างไป 2 ปี ก็ได้โยกย้ายจากขายฮอนด้ามาขายบีเอ็มกับเบนซ์”
เขาตามมาซื้อเหรอ?
แพร : “เขาทักทายในช่วงระยะเวลาที่ห่างไป 2 ปี แต่ไม่ได้ซื้อ เข้ามาในช่วงจังหวะเพิ่งเลิกกับแฟน เขาก็มาพูดคุยว่าจะกลับมาดูแล มาจีบ แต่หนูไม่ได้ตกลง ณ ตรงนั้น เขาให้คำหวาน แต่ก็ไม่ได้หลงคารม”
ไปตกลงเงินทำธุรกิจร่วมกันได้ยังไง?
แพร : “เขายื่นเสนอมาว่าเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับรถเช่ารถหรูอยู่นะ มีชื่อบริษัทด้วย ที่แอบอ้างมา สมมุติชื่อบริษัท ก. แพรก็เลยบอกว่าจะรู้ได้ไงว่าบริษัทนี้มีอยู่จริง เขาก็ให้เบอร์มา บอกว่าให้โทรไปสอบถาม หรือจะเสิร์ชกูเกิลก็ได้ว่ามีจริงมั้ย แพรก็เลยเริ่มเช็กด้วยการโทรศัพท์จากเบอร์ที่เขาให้ ซึ่งเบอร์ที่เขาให้กับเบอร์ในกูเกิล เป็นเบอร์เดียวกัน”
เขาบอกให้คุณแพรไปเสิร์ชหาชื่อบริษัทที่เขาเป็นเจ้าของ ปรากฏว่าเสิร์ชแล้วเจอ หลังจากนั้นคุณเชื่อว่ามีจริง เฟิร์สเองก็ให้เบอร์โทรศัพท์มา คุณเอามาเทียบกันแล้วตรงกัน คุณโทรมั้ย?
แพร : “โทรค่ะ แล้วถามว่าชื่อคุณเอหรือเปล่า คนที่เขากล่าวอ้างว่าเป็นเจ้าของ เฟิร์สเป็นพาร์ตเนอร์ คุณเอตอบแทนมาในสาย เขาพูดภาษาอังกฤษว่าเป็นพาร์ตเนอร์ แพรก็ถามว่าถ้าจะเป็นหุ้นส่วนในบริษัทนี้ต้องทำยังไง เขาอธิบายว่าต้องมีรถยนต์หรู 10 คันขึ้นไป บริษัทจะมีเงินปันผลให้ 3 เดือน 2 ล้าน ทีนี้แพรเลยถามว่าเฟิร์สมีรถในบริษัทกี่คัน เขาบอกว่าจำไม่ได้ น่าจะเกือบ 20 คัน แพรก็ถามว่าเช่าคันนึงตกวันละเท่าไหร่ เขาบอกว่าแล้วแต่รุ่น อย่างของเฟิร์สมีรุ่นไหนบ้าง เขาบอกมี 718 ลัมโบรืกีนี มีหลายคัน เขาก็ปัดๆ ไป แพรถามว่าถ้าจะลงทุนจะได้ผลตอบแทนยังไง เขาบอกให้ไปคุยกับเฟิร์สอีกทีนึง”
จะบอกว่า คุณเอบอกว่าเฟิร์สเป็นพาร์ตเนอร์จริงๆ มีรถอยู่ในบริษัท 20 คัน คุณก็เชื่อ?
แพร : “ที่เชื่อเพราะเขานำรถมาให้หนูเห็นจริงๆ และให้รถไปใช้งาน เป็นรถ BMW Z4 มัสแตง เบนซ์ ซี 43 บีเอ็มซีรีส์ 7 ซีรีส์ 5 ซีรีส์ 3 ให้ใช้ฟรีๆ แล้วบอกว่าเป็นรถของเขา เราก็เริ่มเชื่อ ก็เลยบอกว่าโอเค ตอนนั้นลงเงินไปแล้ว 1 ล้าน แล้วรอเงินปันผล แต่ก็ไม่ได้”
ลงทุน 1 ล้าน เฟิร์สบอกจะเอาเงินไปซื้อรถหรูแล้วเอามาลงทุนปล่อยเช่า สิ้นเดือน เม.ย.จะได้ 2 ล้าน แล้วได้มั้ย?
แพร : “ไม่ได้ค่ะ หนูก็ทวงไปตลอด หนูลงทุนไปล้านนึงเพราะอยากได้เงิน 2 ล้านบินไปเกาหลีทำศัลยกรรมแล้วจะเป็นเอเยนจ์ ติดต่อเพื่อนไว้แล้ว เพื่อนบอกต้องมีเงินประมาณนี้นะ พอดีเฟิร์สก็เข้ามาช่วงที่อยากหาตังค์ ทำธุรกิจอะไรด้วย ก็เป็นการตัดสินใจเร็วเกินไป”
ครบเดือนจะได้ 2 ล้านแต่เขาไม่ให้ คุณทวงยังไง?
แพร : “ก็ทวงบอกว่าทำไมไม่ได้ เขาบอกมีปัญหานิดหน่อย เขาเบิกเงินมาแล้ว มาวิ่งเต้นเงินพันล้านของเขาที่มีอยู่ หนูบอกว่าจะเชื่อได้ไงว่ามีพันล้านจริงๆ แล้วเขาก็เอาสมุดบัญชีกสิกรมาให้ดู หนูเห็นเลยค่ะ เพราะอยู่ด้วยกัน เขาโพสต์คลิปลงติ๊กต็อก”
เขาทำขึ้นมาหรืออะไร?
แพร : “หนูก็ดูจากข้างในมีการเคลื่อนไหวของเงินจริงๆ ก็คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องจริง ใครจะทำได้ แล้วเอาแอพพ์โชว์ให้เห็นจริงๆ ว่ามีเงินพันล้าน”
มั่นใจได้เลยเขามีเงินพันล้านแน่นอน แล้วทำไมไม่ให้สองล้าน?
แพร : “เขาบอกว่าโดน ปปง.อายัดเงินนี้ไปตรวจสอบเกี่ยวกับธุรกิจรถของเขา ใจเย็นรอตรวจสอบอยู่ แพรก็ถามว่าไม่เกี่ยวกับธุรกิจอย่างอื่นนะ เขาบอกว่าดูสิ ในเฟซบุ๊กเฟิร์สมีรถตั้งกี่คัน แพรก็เห็นนี่เฟิร์สก็เอารถมาให้แพรไว้ งั้นโอเค ก็เลยเชื่อ แล้วเขาก็บอกว่าถ้าอยากให้เงินก้อนนี้ออกมาเร็วๆ หนึ่งแพรต้องเอาเงินมาให้เขาอีก 2 ล้าน”
ให้มั้ย?
แพร : “ให้ค่ะ (หัวเราะ)”
ให้อีก 2 ล้านเป็น 3 ล้าน?
แพร : “ค่ะ ทีนี้ 2 ล้านเอาทรัพย์สินหนูไปขาย เป็นชุดเครื่องเพชร 4 ชุด นาฬิกาโรเล็กซ์ฝังเพชร ทองคำน่าจะ 5 บาท”
เทหมดหน้าตักเลยนะ?
แพร : “ค่ะ ด้วยส่วนนึง”
คุณโดน 6 ล้าน?
แพร : “หลังจากนั้นหนูก็เลยรอวัน แล้วเขาเอาแอพพลิเคชั่นที่บอกว่าคุยกับ ปปง.ในไลน์ ชื่อคุณสุเมธ เขาก็เอามาให้หนูคุยว่าเขาจะได้แล้วนะ วันนี้ๆ แต่พอถึงวันจริงมันไม่ได้ หนูก็ถามว่ายังไง เขาบอกว่าไม่ต้องกลัวหรอก เขามีคืนแพรอยู่แล้ว เขามีคอนโด 10 ที่ หนูบอกจะรู้ได้ไงว่ามีคอนโดจริง เขาก็พาหนูไปตรวจสอบคอนโดแต่ละที่ หนูเคยไปควินน์ และน่าจะตรงพระราม 9”
ขอดูมั้ยเป็นชื่อเขาเปล่า?
แพร : “ขอดูค่ะ เขาบอกว่าจะเอาเอกสารมาให้ แต่เขาก็ไม่ได้ให้ดู”
แต่ก็เชื่อเขา อีก 3 ล้าน คืออะไร?
แพร : “หนูอยากได้คืนตอนนั้น คือเอะใจแล้ว แต่จะหาทางทำไงเอา 3 ล้านคืน หนูก็เล่นแบบโง่ๆ ไปก่อน ทำเหมือนไม่รู้ หรือเรื่องจริง ตอนนั้นหนูเอะใจว่าเรื่องจริงหรือไม่จริง หนูโดนหลอกหรือเปล่า เริ่มสับสน พอจากนั้นมาเขาเหมือนพาไปบ้านให้รู้จักญาติๆ”
ที่เล่ามาทั้งหมด รักเขาหรือเปล่า?
แพร : “ไม่ได้รักเลย หนูยอมเพราะอยากได้เงินที่เขาเสนอให้ เหมือนเอาเงินเราไปต่อเงิน”
สุดท้ายอีก 3 ล้านให้เขาเพราะอะไร?
แพร : “ตอนหลังเขาอ้างว่าเขารู้จักกับพี่ท่านประวิตร แล้วหนูก็บอกว่าโม้หรือเปล่า หนูบอกว่าเฟิร์สรู้จักใครไม่ได้สนใจ แต่อยากได้ 3 ล้านคืน เขาเลยบอกว่าได้เดี๋ยวพาไป หนูบอกว่าแพรขับรถไปให้ แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องนะ หนูขับรถพาไปบ้านหลังนึงเส้นรัตนโกสินทร์ ที่หน้าบ้านชื่อธราธร ขับรถเข้าไปมีมัสแตงจอดอยู่ หนูอยู่ในรถ เขาพามาคุยกับเฮียเจ้าของบ้าน แต่เขาอ้างว่าเฮียคนนี้เป็นเจ้าของที่ที่จะซื้อทำปั๊ม ก็รู้สึกว่าเรื่องของมึงแล้วกัน หนูอยากได้ตังค์คืนมากกว่า เขาบอกให้แพรรออยู่ในรถ ไม่ต้องลงไป เขาก็เข้าไปคุยกันนานมาก หนูก็ขับรถไปรอหน้าหมู่บ้าน สักพักโทรจี้ว่าจะได้เงินหรือยัง เรียบร้อยหรือยัง เขาบอกกำลังคุยอยู่ และส่งคลิปที่คุยกับผู้หญิงผู้สูงอายุ เขาบอกว่าคนนี้เป็นพี่สาวท่านประวิตร”
เขาอ้างว่าหญิงสูงวัยในคลิปเป็นพี่สาวท่านประวิตร วงษ์สุวรรณ เชื่อมั้ย?
แพร : “กึ่งๆ เชื่อไม่เชื่อ”
แล้ว 3 ล้านให้ไปตอนไหน?
แพร : “เขาบอกว่าเงินเขาถูกปลดอายัดแล้วนะ ถอนได้แล้ว”
“ทนายรณณรงค์” พันล้านหลอกหญิงให้หญิงโอน 6 ล้าน?
ทนาย : “เจอบ่อยนะ วิธีการคล้ายๆ เสี่ยท็อป โชว์ให้เห็นว่าตัวเองมีสินทรัพย์ อสังหาริมทรพัย์ มีเงินเยอะๆ แล้วชวนมาลงทุน พยายามเอาโชว์ให้เห็นว่ามีเงินจริงๆ เป็นวิธีการ แล้วประหลาดมาก ทุกๆ คดีที่ทำจะไม่ใช่เป็นการขอยืม พอนักลงทุนเขาเห็นว่ามีเงินจริง มีทรัพย์สินจริง อยู่บ้านหลังใหญ่จริง ขับรถหรูจริง ไม่น่าต้มทุน ก็เอาเงินไปร่วมลงทุนด้วยแล้วปัญหาหลังจากนั้นคือถอนทุนคืนไม่ได้ แล้วธุรกิจตรงนั้นอาจเดินหรือไม่เดินไม่ทราบ แล้วตรวจสอบไม่ได้ ปัญหานี้มีเยอะมาก”
จ่ายไป 3 ล้าน เขาโชว์พันล้าน จนสุดท้ายปลดล็อก 1 พันล้านออก แล้วยังไง?
แพร : “เขาแจ้งว่าโดนปลดล็อกกับ ปปง.แล้วนะ ตอนนี้คุยกับท่านรณดลอยู่ ผู้ว่าแบงก์ชาติ เขาบอกว่าคุยกันทางแชตไลน์ เขาพูดว่าถ้าจ่ายอีก 2 ล้านจะปลดเงินให้เข้าบัญชีนายชยดลทันทีใน 30 นาที หนูก็โอนอีก 2 ล้าน แล้วหนูก็รอไปเถอะค่ะ”
ส่วนที่เหลืออีก 1 ล้าน?
แพร : “เหมือนเบี้ยหัวแตกค่ะ เป็นทรัพย์สินหนูมากกว่า”
เอาทองให้เขาเหรอ?
แพร : “ส่วนหลังเขาขโมยของในบ้าน ตอนแรกๆ มีช่วงโควิด เขาเข้ามาในบ้าน บ้านก็ไม่ได้อะไร เพราะบ้านหนูมีกล้องวงจรปิด ให้เขาเข้าบ้านได้ ไม่ได้กลัวอยู่แล้ว เขาก็ขโมยโน้ตบุ๊ก นาฬิกา กระเป๋าแบรนด์เนม เขาขโมยเพราะหนูเอาหมาไปอาบน้ำ”
ให้เงินเขาเรื่อยๆ จนผู้ต้องสงสัยบอกว่าคุยกับผู้ว่าแบงก์ชาติ เขาสร้างขึ้นมา คุณก็เชื่อโอนให้อีก 2 ล้าน?
แพร : “ค่ะ (หัวเราะ)”
ทนาย : “แสดงว่ามีคนรู้เห็นสิ แชตไลน์คุยกับตัวเองลำบาก”
แพร : “เขาส่งให้ทางแชตไลน์ค่ะ”
ไปแจ้งความเรียบร้อย ตอนแรก ตร.จับได้?
แพร : “ตอนแรกตกลงไกล่เกลี่ยกันค่ะ”
2 ต.ค. ปี 63 มีการตกลงไกล่เกลี่ยกันเรียบร้อย เฟิร์สขอชดเชยให้ ตอนนั้นคุณเอาแค่ 3 ล้าน?
แพร : “ตอนนั้นหนูคิดว่ายังดีกว่าไม่ได้เลย เขาโชว์เงินส่งมาให้ดูว่ามีเงินอยู่ 5 ล้าน เขาตกลงจะให้นูวันที่ 20 ต.ค. พอถึง 20 เขาไม่มา แล้วให้ทนายที่ไม่รู้อุปโลกน์หรือเปล่า เอาใบแพทย์มายื่นกับร้อยเวรว่าไม่สบาย”
ทนาย : “มุกนี้เจอประจำ เวลาทวงเงินคู่กรณีไม่ได้ คู่กรณีจะใช้วิธีถ่ายรูปเงิน เช็คให้ดู บอกว่าเงินมี อย่าทวงเยอะ เดี๋ยวเอาไปให้ ให้เกียรติกันบ้าง อย่าเรื่องเยอะ เดี๋ยวจ่ายอยู่แล้ว มีเงิน”
ตอนนี้เหลืออะไรบ้าง?
แพร : “เหลือบ้านค่ะ ผ่อนค่ะ”
งานล่ะ?
แพร : “ไม่ได้ทำงานเพราะลาออกจากตอนนั้น”
คุณคิดจะฆ่าตัวตายเลยเหรอ?
แพร : “ไม่ได้คิดค่ะ ทำแล้วค่ะ กินยาในบ้านทั้งหมดที่มียาอยู่ (ร้องไห้) หนูกินไปแล้วมันทรมานกับการเสียชีวิตก็ลุกขึ้นมาช่วยตัวเอง ก็คิดว่าถ้าตอนนั้นหนูเป็นอะไร ไอ้เหี้.. นี่รอดแน่”
อุ้ย แต่ถือว่าพูดถูก หลังไปร้องกองปราบเขาไปมอบตัว เขาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แล้วทำยังไง?
ทนาย : “แสดงว่าเขาประสงค์จะขึ้นศาลสู้คดี เลยเขาไม่ให้การ แต่บอกอย่างนึง ถ้าคู่กรณีบริสุทธิ์ใจจริงๆ ควรให้การกับพนักงานสอบสวนว่าไม่สามารถเอาเงินมาคืนได้เพราะอะไร หนึ่งสองสามสี่ ไม่ใช่ปฏิเสธลอยไปเลย”
เขายืนยันว่ามีการตกลงกันแล้วว่าจะชดใช้เงินให้ ทั้งที่ทำสัญญากันแล้ว แต่วันนี้กลับมาปฏิเสธข้อกล่าวหา?
ทนาย : “การบันทึกเอาไว้แสดงว่ามีการเอาเงินทรัพย์สินไปจริง ถึงได้ลงบันทึกกันไว้ เป็นผลดีกับทางนี้ แต่ทางนี้จะไปใจร้อนไม่ได้ อาจต้องรอนาน คดีนี้ถ้าเขาจะไกล่เกลี่ยก็เอาเงินมาคืนได้ระหว่างนี้”
โทษคุกมั้ย?
ทนาย : “ถ้าศาลตัดสินว่าผิดก็ไม่รอลงอาญา ติดคุกเลย อยู่ที่ว่าโอนเงินไปกี่ครั้ง ตามกรรมต่างวาระ”
ถ้าเขาจะยอมติดคุก?
แพร : “เขาเคยพูดคำว่าล้มบนฟูก แต่หนูไม่เข้าใจว่าคืออะไร แต่เขาเคยพูดกับผู้หญิงทุกคนที่โดนเหมือนกันหมด น่าจะ 7 คนที่แพรทราบ แต่ที่คุยกันในห้องกลุ่ม ที่อินบ็อกซ์เข้ามาวันที่เป็นข่าว เขาบอกว่าล้มบนฟูก”
เงินไปไหนหมด?
แพร : “หนูว่าเขาไม่ได้ทำคนเดียวแน่นอน อย่างที่เห็น เอ ที่เป็นเจ้าของบริษัท ก. คนที่เอารถมาส่งหนู มีทั้งหมด 5 คน และเพื่อนเขาอีกคนที่ตอนแรกบอกว่านายเฟิร์สมีของจริง เขาทำเป็นกระบวนการแน่นอน”
สืบได้มั้ย?
ทนาย : “เงินมีเส้นทางการโอนเงิน ถ้ามีการแจ้งข้อหาเอาไว้ คนรับต่อไปถ้ารู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้จากการฉ้อโกง ก็โดนข้อหารับของโจรได้ คุกเหมือนกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องพึ่งเจ้าหน้าที่ ตร.สืบ ไม่งั้นจะล้มบนฟูกจริงๆ”
ล้มบนฟูก หมายถึงล้มไม่เจ็บ?
ทนาย : “แต่อาจเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขานอนในคุกก็ได้นะ คนเราอาจปากกล้าแต่ขาสั่นก็ได้ เขาอาจขู่ไม่ให้เราเอาเรื่องเขา น้องก็อย่าไปยอม เดินหน้าให้ถึงที่สุด”
เดินสุดมั้ย?
แพร : “ที่สุดค่ะ เพราะทุกคนที่โดนฝากความหวังไว้ที่หนูค่ะ”
ถ้าไม่ได้ 6 ล้านเขาติดคุก โอเคมั้ย?
แพร : “โอเคค่ะ ยอมทิ้ง 6 ล้านค่ะ อยากให้ติดคุกมากๆ”
อยากบอกอะไรกับทางเฟิร์สถ้าดูอยู่ กับพรรคพวก?
แพร : “ก็รับกรรมเลยค่ะ ในคุก ขอให้อนาถตายอยู่ในคุกนะคะ ถ้าคิดจะเอาเงินมาคืน ที่มีซ่อนอยู่ก็เอามาคืนแล้วกัน เพราะรู้ช่องทางที่เขาซ่อนไว้”
ทนาย : “ต้องสู้นะ ถ้ามีผู้เสียหายรายอื่นพยายามเอามาเบิกความกับพนักงานสอบสน จะได้มีน้ำหนักมากขึ้น”
