อาลัย ‘บุญปลีก หนูน้อย’ ปิดตำนานอดีตนักเตะทีมชาติไทย

อาลัย ‘บุญปลีก หนูน้อย’ ปิดตำนานอดีตนักเตะทีมชาติไทย

 

 

เริ่มเข้าปีฉลูมาได้ไม่เท่าไหร่ วงการฟุตบอลไทยก็ต้องพบกับความสูญเสียอีกครั้ง เมื่ออดีตกองหน้าทีมชาติไทยในอดีตอย่าง “ปลีก” บุญปลีก หนูน้อย เสียชีวิตลงในวัยย่าง 57 ปี

บุญปลีก หนูน้อย มีอาการป่วยเรื้อรังมาเป็นเวลานาน มีหลายโรครุมเร้า ทั้งเบาหวาน, หัวใจโต และโรคไต ซึ่งที่ผ่านมาก็ต้องเข้ารับการฟอกไตมาโดยตลอด

Advertisement

อาการของบุญปลีกทรุดลงหนักมากจนต้องเข้าไปรักษาในโรงพยาบาลจังหวัดตรัง แต่ว่าเพิ่งเข้ามาได้แค่ 1 วันเท่านั้น บุญปลีก มีอาการช็อก ซึ่งถึงแม้ว่าทีมแพทย์จะพยายามยื้ออย่างหนัก เพื่อหวังให้ภรรยาและลูก เดินทางจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มาดูใจเป็นครั้งสุดท้าย แต่ก็ไม่ทัน

บุญปลีก บ้านเกิดอยู่ที่บ่อฝ้าย อ.หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เริ่มเป็นที่รู้จักจากการลงเล่นให้กับจังหวัดตราด ในนามเขต 2 ในการแข่งขันฟุตบอลกีฬาแห่งชาติ จากนั้นไปค้าแข้งกับสโมสรตำรวจ ต่อด้วยทีมองค์การโทรศัพท์ (ทีโอที) กลายเป็นกองหน้าตำนานหมายเลข 9 ของสโมสร

 

Advertisement

 

 

ประวัติการเล่นฟุตบอลของ บุญปลีก หนูน้อย เคยคว้าแชมป์ถ้วยพระราชทานประเภท ง กับทีม ไวยโภคี, คว้าแชมป์โตโยต้า กับทีมตำรวจ 3 ปี ส่วนเส้นทางทีมชาติ เริ่มติดทีมชาติไทยชุดเยาวชน 19 ปี เมื่อ พ.ศ.2529 ก่อนจะก้าวถึงจุดสูงสุด ขึ้นไปติดทีมชาติไทยได้สำเร็จ ในยุคการคุมทีมของโค้ชชาวบราซิเลียนอย่าง คาร์ลอส โรแบร์โต้ คาร์วัลโญ่ เคยคว้าแชมป์ฟุตบอล 4 เส้า ปี 2532, แชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ปี 2533 และร่วมทีมชาติไทยชุดคัดโอลิมปิก ปี 2533

ผลงานที่แฟนลูกหนังไทยพันธุ์แท้จำกันได้ดีคือ ร่วมทีมชาติไทยไปลุยในศึกเอเชี่ยนส์เกมส์ ครั้งที่ 11 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อปี 1990

นักเตะในชุดนั้น ประกอบไปด้วย ผู้รักษาประตู ชัยยง ขำเปี่ยม, สมเกียรติ ปัจสาจันทร์, วิลาศ น้อมเจริญ / กองหลัง สุทิน ไชยกิตติ, สุรัก ไชยกิตติ, สุเมธ อัครพงศ์, อดิพงษ์ นุกรณ์นวรัตน์, อนันต์ ทองสุข, นที ทองสุขแก้ว, ไพโรจน์ พ่วงจันทร์

กองกลาง วรวรรณ ชิตะวณิช, ประภาส ฉ่ำรัศมี, วีระศักดิ์ เดชประมวลพล, ชรินทร์ ปาลศิริ, ประทีป ปานขาว / กองหน้า ประเสริฐ ช้างมูล, วิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์, รณชัย สยมชัย และบุญปลีก หนูน้อย

 

 

ทัวร์นาเมนต์นั้น นับเป็นความทรงจำของแฟนฟุตบอลชาวไทยอย่างมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่ทีมชาติไทยสามารถผ่านเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศได้เป็นครั้งแรก

แถมในรอบก่อนรองชนะเลิศ หรือรอบ 8 ทีมสุดท้าย ถือว่าเป็นเกมที่สำคัญสุดๆ เพราะเป็นการเจอกับเจ้าภาพอย่าง จีน ในวันชาติของจีนเอง คือ 1 ตุลาคม ที่สนามเวิร์คเกอร์ สเตเดียม กรุงปักกิ่ง ท่ามกลางแฟนบอลเจ้าภาพที่คาดหวังอย่างมากว่าจะได้เห็นทีมของตัวเองผ่านเข้าถึงรอบตัดเชือกได้

แต่ต้องมาช็อกเพราะประตูชัยของ ประเสริฐ ช้างมูล ในนาทีที่ 51 ของเกม เป็นประตูประวัติศาสตร์ที่ทำให้ไทยผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกสำเร็จ แม้จะจบแค่อันดับ 4 แต่ก็ถือว่าเป็นอะไรที่น่าจดจำของคนไทยในเวลานั้น
ผลงานส่วนตัวของบุญปลีกเอง สามารถยิงได้ 1 ประตูในเกมรอบแรกนัดที่ 2 ที่เอาชนะฮ่องกงไปได้ 2-0
หลังจากเลิกเล่นฟุตบอลแล้ว บุญปลีก ยังคงวนเวียนในวงการฟุตบอล เคยไปคุมทีม “เดอะ รูสเตอร์” สุราษฎร์ธานี เอฟซี เมื่อช่วงปี พ.ศ.2554 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จจนต้องออกจากทีมมา

จากนั้นก็ผันตัวเป็นครูสอนเด็กๆ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำเอาประสบการณ์ต่างๆ ไปเสริมให้กับเด็กเยาวชนในพื้นที่ เพราะว่าบุญปลีก ย้ายไปทำงานให้ บริษัทโทรคมนาคม แห่งชาติ หรือ บมจ.ทศท. หรือ องค์การโทรศัพท์เดิม ที่ จ.ตรัง นั่นเอง

 

 

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อปี พ.ศ.2562 บุญปลีก ป่วยอย่างหนักด้วยโรคเบาหวาน และไตวาย ทำให้ นายศิรพันธ์ กมลปราโมทย์ นายกสมาคมพัฒนากีฬาหัวหิน ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดฟุตบอลนัดพิเศษเพื่อหารายได้สนับสนุนการรักษาพยาบาล

วันนั้นนอกเหนือจากการแข่งขันฟุตบอลแล้ว บรรดาอดีตเพื่อนร่วมทีมของบุญปลีกในสมัยก่อน ทั้ง ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน, ชัยยง ขำเปี่ยม, วิฑูรย์ กิจมงคลศักดิ์ รวมถึงดาวยิงรุ่นน้องอย่าง สิโรจน์ ฉัตรทอง ก็ได้นำของมาร่วมประมูลเพื่อหาเงินช่วยเหลือด้วยเช่นกัน

ทำให้เห็นว่าไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน คนในวงการลูกหนังก็ยังไม่เคยลืมอีกหนึ่งกองหน้าตำนานทีมชาติไทยคนนี้ไปได้

ถึงแม้ว่าวันนี้ตำนานเบอร์ 9 ของทีมเก่าแก่อย่าง “ฮัลโหล” จะจากโลกนี้ไปอย่างสงบแล้ว

แต่ชื่อของ “บุญปลีก หนูน้อย” จะอยู่ในใจของแฟนลูกหนังไทยตลอดไปอย่างแน่นอน…

 

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image