หุ้นแมนยูร่วงหนักสุดในวันเดียว หลังมีข่าวเกลเซอร์ไม่ขายทีมแล้ว

หุ้นแมนยูร่วงหนักสุดในวันเดียว หลังมีข่าวเกลเซอร์ไม่ขายทีมแล้ว

จากการที่มีกระแสข่าวว่า พี่น้องเกลเซอร์ เจ้าของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไม่ขายสโมสรออกจาการครอบครองแล้ว เนื่องจากไม่ได้ราคาตามที่ต้องการ ทำให้หลังจากตลาดหุ้นปิดเมื่อวันที่ 5 กันยายน ปรากฏว่า หุ้นของแมนยูตกลงไป 18.58 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นมูลค่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(24,878 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นวันที่หุ้นตกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร

ด้าน “เดลี่เมล” รายงานว่า ถึงจะมีข่าวว่าเกลเซอร์จะไม่ขายสโมสรปีศาจแดงแล้ว แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดกับเซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีชาวอังกฤษ และชีกจาสซิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี มหาเศรษฐีกาตาร์ ที่ยื่นข้อเสนอซื้อทีมไปก่อนหน้านี้ ยังไม่ได้รับการแจ้งว่าไม่มีการขายสโมสรแล้ว และการเจรจาเทกโอเวอร์ก็ยังเดินหน้าอยู่

มีรายงานว่าสาเหตุที่เกลเซอร์เลือกจะไม่ขายทีมนั้น มาจากการที่เกลเซอร์ประเมินมูลค่าของสโมสรสูงขึ้นเกือบเท่าตัว เพราะในอนาคตค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดของพรีเมียร์ลีกจะสูงขึ้น รวมทั้งฟีฟ่าจะจัดการแข่งขันฟุตบอลสโมสรโลกแบบ 32 ทีม ในปี 2025 ทำให้สโมสรมีรายได้มากขึ้น และการที่ฟุตบอลโลก 2026 จะจัดที่สหรัฐอเมริกา ก็จะทำให้นักธุรกิจอเมริกันให้ความสนใจจะซื้อสโมสรมากขึ้น น่าจะเพิ่มมูลค่าในการขายได้ที่ 7,000-10,000 ล้านปอนด์(312,391-446,273 ล้านบาท)

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image