แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การทำทีมของโจเซ่ มูรินโญ่ ที่ใช้เวลาแค่ฤดูกาลที่ผ่านมา หรือเพียงปีแรกในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ด ก็สามารถพาทีม “ปีศาจแดง” กลับไปเล่นฟุตบอลสโมสรยุโรปรายการใหญ่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า 2017-18 ได้ทันที และเป็นเต็งหนึ่งในการคว้าตัวอ็องตวน กรีซมันน์ แนวรุกตัวเก่งแอตเลติโก้ มาดริด ช่วงปิดฤดูกาลนี้นั้น
แต่สุดท้าย เริ่มทราบข่าวร้ายเมื่อผลการอุทธรณ์ยกเลิกโทษแบนห้ามลงทะเบียนนักเตะใหม่เพื่อลงเล่นฤดูกาลหน้า ที่ทีม “ตราหมี” ร้องเรียนต่อศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลก (ซีเอเอส) วันที่ 1 มิถุนายน ออกมาว่า “ไม่ผ่าน” จึงมีสิทธิที่แอตฯ มาดริด จากประเทศสเปน จะตัดสินใจไม่ขายกรีซมันน์ ซึ่งมีค่าฉีกสัญญา 100 ล้านยูโร (3,800 ล้านบาท / อัตรา 1 ยูโร 38 บาท) ออกไป เพราะไม่สามารถหาศูนย์หน้าตัวใหม่มาแทนที่ได้
ล่าสุด แมนฯ ยูไนเต็ด หมดสิทธิได้ตัวกรีซมันน์ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว หลังตัวนักเตะทีมชาติฝรั่งเศส วัย 26 ปีรายนี้ เป็นคนออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ “เตแอฟ 1” ของเมืองน้ำหอมบ้านเกิดในอีก 3 วันถัดมาว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับแอตฯ มาดริด และคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ถ้าจะมีใครย้ายทีมออกไปในตอนนี้ รวมทั้งเท่าที่ตัวเองคุยกับเอริก โอลฮาตส์ ที่ปรึกษาส่วนตัวแล้ว
เราทั้งคู่ได้เข้าพูดคุยกับบอร์ดบริหารสโมสร เพื่อยืนยันว่าจะทำงานกับแอตฯ มาดริด ต่อไปในฤดูกาลหน้า
ก่อนหน้านี้ ทีมตราหมีถูกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ลงโทษแบนห้ามลงทะเบียนผู้เล่นใหม่ใน 2 ตลาดซื้อขายนักเตะกลางฤดูกาล 2016-17 และตลาดซื้อขายปิดฤดูกาล 2016-17 เพื่อลงเล่นภายใต้ทุกรายการที่อยู่ในความควบคุมของ “ฟีฟ่า” หลังมีความผิดข้อหาเซ็นสัญญาผู้เล่นต่างชาติระดับเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ระหว่างปี 2007-2014
ส่วนกรีซมันน์ยังเหลือสัญญากับแอตฯ มาดริด จนถึงกลางปี 2021 และฤดูกาลหน้าทีมจะย้ายสนามเหย้าจากบิเซนเต้ กัลเดร่อน ซึ่งมีความจุราว 55,000 คน และเปิดใช้มาตั้งแต่ปี 1966 ไปเล่นที่สนามเอสตาดิโอ ลา เปย์เนต้า โดยเป็นสนามเก่าของชุมชนกรุงมาดริด ที่มีการเปิดใช้กลางปี 1994 แต่ได้กลุ่มนักลงทุนประเทศจีน “หวังต้า กรุ๊ป” และถือหุ้นในฐานะเจ้าของสโมสร 20 เปอร์เซ็นต์ ลงทุนปรับปรุงสนามให้จนมีความจุเพิ่มเป็น 68,000 คน