อาซาร์ประกาศแขวนสตั๊ดแล้ว หลังหาทีมใหม่ไม่ได้ตั้งแต่โบกมือลาราชันชุดขาว
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม เอเด็น อาซาร์ อดีตดาวดังทีมชาติเบลเยียม วัย 32 ปี ประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากไม่สามารถหาสโมสรใหม่ได้ตั้งแต่รีล มาดริด ยกเลิกสัญญาของเขาเมื่อจบฤดูกาลที่ผ่านมา
อาซาร์เผยผ่านโซเชียลมีเดียว่า ถึงเวลาที่ต้องฟังตัวเองและหยุดในเวลาที่เหมาะสม หลังจากโลดแล่นในวงการลูกหนังอาชีพมา 16 ปี ลงสนามรวมแล้วกว่า 700 นัด ตนตัดสินใจที่จะยุติเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพไว้ตรงนี้ ตลอดการค้าแข้ง ตนโชคดีที่ได้ร่วมงานกับผู้จัดการทีม โค้ช และเพื่อนร่วมทีมที่ยอดเยี่ยมมากมาย ขอบคุณทุกคนสำหรับช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ ตนคงจะคิดถึงทุกคน อีกทั้งขอขอบคุณทุกสโมสรที่เคยค้าแข้งมา ทั้งลีลล์, เชลซี, รีล มาดริด และขอบคุณสมาคมฟุตบอลเบลเยียมที่เลือกตนติดทีมชาติ ที่ต้องขอบคุณเป็นพิเศษคือครอบครัว เพื่อนๆ ที่ปรึกษา และคนอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ชิดตนทั้งในวันที่ดีและร้าย ตอนนี้ถึงเวลาที่จะใช้เวลากับบุคคลอันเป็นที่รัก รวมถึงสนุกกับประสบการณ์ใหม่ๆ แล้วพบกันใหม่นอกสนาม
สำหรับอาซาร์ เริ่มต้นค้าแข้งกับทีมลีลล์ในฝรั่งเศส ลงสนาม 149 นัด ยิงไป 50 ประตู ช่วยทีมคว้าแชมป์ลีกเอิง 2 สมัย และเฟร้นช์คัพ 1 สมัย จากนั้นย้ายร่วมทีมเชลซีในปี 2012 ลงสนาม 352 นัด ยิงได้ 110 ประตู มีส่วนช่วยทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, เอฟเอคัพ 1 สมัย, ลีกคัพ 1 สมัย, ยูโรป้าลีก 2 สมัย รวมถึงได้รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) ฤดูกาล 2014-15 และเป็นนักเตะคนที่ 4 ในประวัติศาสตร์ที่ยิงประตูและแอสซิสต์ได้อย่างละ 15 ครั้งขึ้นไปในฤดูกาลเดียว หลังทำ 16 ประตู กับ 15 แอสซิสต์ ในฤดูกาล 2018-19
จากนั้นย้ายร่วมทีมรีล มาดริด ในปี 2019 แม้จะร่วมคว้าแชมป์ลาลีก้า 2 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย, โกปา เดล เรย์ 1 สมัย แต่ภาพรวมการค้าแข้งกับราชันชุดขาวถือว่าน่าผิดหวัง เนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บประกอบกับโชว์ฟอร์มไม่ออก ได้ลงเล่นเพียง 76 นัดในทุกถ้วย และยิงได้รวม 7 ประตู
ส่วนระดับทีมชาติ อาซาร์ติดทีมชาติเบลเยียม 126 นัด ยิงไป 33 ประตู สวมปลอกแขนกัปตันทีม 56 นัด ก่อนตัดสินใจอำลาทีมชาติหลังจบศึกฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งทีมพลิกตกรอบแรก
