พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน โฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และประธานคณะกรรมการพิจารณาวินัยและมารยาท เป็นประธานในการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาวินัยและมารยาท ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม
ภายหลังการประชุม พล.ต.ท.อำนวย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเรื่องคราวก่อน ซึ่งแฟนบอลของ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แสดงกริยาอนาจาร ในระหว่างที่ทีม “ต่อพิฆาต” พีที ประจวบ เอฟซี ได้จุดโทษ นั้น จากที่ให้สโมสรติดตามคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย ถ้าหาตัวไม่ได้จะโดนโทษเพิ่มจากปกติกึ่งหนึ่งนั้น ล่าสุดทางสโมสรได้หาตัวผู้กระทำผิดได้ และได้มีการแจ้งความที่สภ.ปากเกร็ด ไปแล้ว เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ขอไม่เปิดเผยรายชื่อผู้กระทำผิด สรุปโทษของเอสซีจี เมืองทอง ผิดตามกฎข้อ 4.11 กองเชียร์แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม มีโทษปรับ 30,000 บาท
พล.ต.ท.อำนวย กล่าวต่อว่า ส่วนอีกกรณีหนึ่ง ในคู่ระหว่าง “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี กับ “ราชันมังกร” ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ซึ่งในเกมดังกล่าว มีการเรียกใช้วิดีโอช่วยตัดสิน (วีเออาร์) แต่โรเบิร์ต โปรคูเรอร์ ผู้อำนวยการสโมสรราชบุรี และดั๊กลาส การ์โดโซ่ ผู้ช่วยเฮดโค้ช ออกมานอกเขตเทคนิคเพื่อคัดค้านวีเออาร์ ซึ่งตามหลักแล้วผิดระเบียบของวีเออาร์ แต่เนื่องจากกฎระเบียบของวีเออาร์ยังไม่ได้มีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ จึงลงโทษในส่วนที่ออกนอกเขตเทคนิค ตามข้อ 2.1 ปรับเงินคนละ 10,000 บาท รวมเป็น 20,000 บาท
“ส่วนกรณีที่คำสัมภาษณ์ของโรเบิร์ต หลังเกม ซึ่งมีคลิปข่าวออกมานั้น แต่ทว่ายังไม่ได้มีรายงานจากผู้ควบคุมการแข่งขัน ดังนั้นจึงให้ผู้ควบคุมการแข่งขันในเกมดังกล่าว ไปทำรายงานย้อนหลังมา และจะมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง”
พล.ต.ท.อำนวย กล่าวปิดท้ายว่า หลังจากเปิดฤดูกาลมา 2 นัด ก็เริ่มมีสโมสรออกมาบ่นเรื่องของการที่นักเตะในทีม โดยเฉพาะที่เป็นทีมชาติ โดนเล่นรุนแรงจนได้รับบาดเจ็บ ก็อยากฝากให้ทุกทีมเล่นอย่างระมัดระวัง ไม่อยากให้มีนักเตะบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังขอชมทีมพีที ประจวบ ที่ทำความสะอาดห้องแต่งตัวนักกีฬาทีมเยือน หลังจากจบเกมกับเมืองทองฯ เป็นตัวอย่างที่ดี และอยากให้ทุกทีมทำตาม
