ฟอร์มตามเสียงเชียร์! ‘ช้างศึก’ รัวยิง ‘เสือเหลือง’ 3-0 พลิกแซงเข้าชิงอาเซียน

ฟอร์มตามเสียงเชียร์! ‘ช้างศึก’ รัวยิง ‘เสือเหลือง’ 3-0 พลิกแซงเข้าชิงอาเซียน

“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเลคทริค 2023” หลังถล่มเอาชนะ “เสือเหลือง” มาเลเซีย 3-0 สกอร์รวม 3-1 ในรอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ที่สนามกีฬาม.ธรรมศาสตร์ รังสิต เมื่อวันที่ 10 มกราคม

นัดแรกทีมชาติไทยบุกไปแพ้มาก่อน 0-1 ทำให้ต้องเก็บชัยชนะให้ได้อย่างน้อย 1-0 เพื่อต่อเวลาหรือชนะแบบมีผลต่าง 2 ประตูขึ้นไปเพื่อเข้ารอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แฟนบอลชาวไทยหนาแน่นมาก ทั้งที่มีบัตรเช้าชมเกม และมาหาบัตรหน้าสนาม โดยมีรายงานว่า ตั๋วผี ถูกอัพราคาไปสูงถึง 800-1700 บาท ส่วนทางด้านแฟนบอลของทีมชาติมาเลเซีย ก็รวมกลุ่มกันเดินทางมาเข้าชมเกมในสนามไม่น้อยเลยทีเดียว

เกมนี้ “ช้างศึก” ปรับทัพจากนัดแรก 1 ตำแหน่ง ส่ง กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล ลงมาเป็นผู้รักษาประตูตัวจริง ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ยังยึดระบบ 4-3-3 เช่นเดิม กองหลังจากขวาไปซ้าย ศุภนันท์ บุรีรัตน์, พรรษา เหมวิบูลย์, กฤษดา กาแมน, ศศลักษณ์ ไหประโคน กองกลาง พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, ธีราทร บุญมาทัน, สารัช อยู่เย็น และแนวรุก บดินทร์ ผาลา, ธีรศิลป์ แดงดา และเอกนิษฐ์ ปัญญา

Advertisement

เปิดเกมมาไทยเป็นฝ่ายบุกอย่างหนักตามเสียงเชียร์ที่เข้ามา 18,927 ในเกมนี้ แต่ก็เกือบพลาดเสียประตูจากจังหวะที่กัมพลเปิดบอลด้วยเท้าไม่ดีมาเข้าทางผู้เล่นของมาเลเซีย แต่จังหวะจะยิงแนวรับไทยยังมาช่วยป้องกันเอาไว้ได้ ก่อนที่นาทีที่ 18 ไทยจะทำประตูขึ้นนำได้สำเร็จ จากจังหวะเปิดทางด้านซ้ายของธีราทร ให้ธีรศิลป์ได้โหม่งเข้าประตูไป ไทยขึ้นนำ 1-0 สกอร์รวมกลับมาเท่ากัน 1-1 และธีรศิลป์ขึ้นนำดาวซัลโวเดี่ยวๆ ที่ 6 ประตู

จากนั้นไทยก็ยังเป็นฝ่ายที่ครองบอลบุกต่อและมีลุ้นทำประตูที่สองได้อีกหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เป็นประตูเพิ่มเติม ทำให้จบครึ่งแรกทีมชาติไทยยังนำอยู่แค่ 1-0 สกอร์รวมเสมอกัน 1-1

Advertisement

ครึ่งหลังไทยมีการปรับทัพโดยถอดธีรศิลป์ แดงดา ผู้ทำประตูออกเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บแล้วส่ง อดิศักดิ์ ไกรษร ลงมาเล่นแทน

ทีมชาติไทยมาได้ประตูที่สองในนาทีที่ 55 จากจังหวะขึ้นเกมทางขวา เอกนิษฐ์ เปิดเรียดเข้าตรงกลางให้กับบดินทร์ที่จุดนัดพบพอดิบพอดี ยิงเข้าไปแบบจังหวะเดียวไม่จับให้ไทยขึ้นนำในเกมนี้ 2-0 และสกอร์รวมขึ้นนำ 2-0

หลังจากได้ประตูที่สอง ไทยก็กลับมาแพ็คเกมให้แน่นขึ้นและเล่นแบบปลอดภัย พร้อมกับส่งวีระเทพ ป้อมพันธุ์ ที่เป็นกองกลางเชิงรับลงมาเล่นแทนบดินทร์ปีกซ้ายของทีม
แล้วไทยก็มาได้ประตูที่ 3 จากจังหวะที่ศุภนันท์ได้บอลทางด้านขวา ก่อนจะเปิดเข้ามาให้อดิศักดิ์ได้ชาร์ตจังหวะแรกบอลไปชนเสา แต่ยังลุกขึ้นมาซ้ำได้ทัน ให้ไทยหนีห่าง 3-0 สกอร์รวมนำ 3-1

จากนั้นเกมเริ่มเดือดมากขึ้นเมื่อผู้เล่นของมาเลเซียเริ่มเน้นเข้าบอลหนักตามอารมณ์ของเกม โดยที่แข้งไทยพยายามฟ้องผู้ตัดสินโมฮัมหมัด ตูมาห์ มาคาดเมห์ ชาวจอร์แดน ซึ่งก็ยังคุมเกมได้ดี และแจกใบเหลืองเพื่อระงับอารมณ์ไปหลายคน

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีการทำประตูเพิ่มเติม จบเกมทีมชาติไทย เอาชนะ มาเลเซีย 3-0 สกอร์รวม 2 นัด 3-1 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ไปพบกับ “ดาวทอง” เวียดนาม ได้สำเร็จ พร้อมรับอัดฉีดจาก “มาดามแป้ง” นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมอีก 5 ล้านบาท รวมกับที่ผ่านรอบแรก 5 ล้าน เป็นทั้งหมด 10 ล้านบาท

โดยรอบชิงชนะเลิศ นัดแรกทีมชาติไทย จะบุกไปเยือนที่ มี ดิงห์ สเตเดียม ในวันที่ 13 มกราคม เวลา 19.30 น. ก่อนจะกลับมาเตะที่ประเทศไทย ที่สนามม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ในวันที่ 16 มกราคม เวลา 19.30 น.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image